10 ไบโอติน ยี่ห้อไหนดี

ไบโอติน

หลายคนคงประสบปัญหาที่ได้รับสารอาหารอย่างไบโอตินที่ไม่เพียงพอ เพราะการทานอาหารที่ผ่านความร้อนคุณค่าของมันก็จะลดหลั่นลงมา หรืออาจจะหมดไปเลยก็ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้ออาหารเสริมที่เป็นไบโอติน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการร่างกาย โดยแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 10 ไบโอติน ยี่ห้อไหนดี

ความหมายของไบโอติน

วิตามินชนิดหนึ่งที่สามารถละลายในน้ำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสามารถเรียกว่า วิตามินบี 7 หรือวิตามินเอชก็ได้ตามความสะดวก แต่ส่วนใหญ่วิตามินตัวนี้จะถูกเรียกว่า ไบโอติน โดยวิตามินตัวนี้สามารถพบได้ในอาหาร เช่น จมูกข้าว เครื่องในสัตว์ ขนมปังโฮลวีท ถั่วลิงสง อัลมอนด์ ปลาแซลมอน วอลนัต เป็นต้น แต่เจ้าไบโอตินจะเสื่อมสภาพเมื่ออาหารเหล่าถูกผ่านความร้อน ดังนั้นจึงควรเลือกอาหารที่ผ่านความร้อนน้อย เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหารของตัววิตามิน และที่สำคัญ ตัวอาหารเสริมอาจมีผลข้างเคียงแต่ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนัก คือ อาการท้องเสียและมีผื่นขึ้นเล็กน้อยนั่นเอง ซึ่งหากมีอาการแพ้อย่าง ลมพิษ บริเวณใบหน้ามีความบวม หรือหายใจไม่สะดวก ควรทำการพบแพทย์เพื่อทำการรักษากันต่อไป

ไบโอติน มีดีอย่างไร

  • ป้องกันรักษาร่างกายจากภาวะขาดไบโอติน โดยผู้ที่มีอาการจะรู้สึกได้ถึงผมที่บางลง ผมมีการเปลี่ยนสี มีผื่นขึ้น หรืออาจจะมีภาวะเศร้าซึมร่วมด้วย และการรับประทานอาหารเสริมก็จะช่วยทดแทนไบโอตินที่สูญเสียไป ลดภาวะอาการขาดสารอาหาร
  • มีความสำคัญต่อเส้นผม เล็บ และผิวหนัง เพราะไบโอตินเป็นตัวช่วยเสริมสร้างให้เคราตินมีความแข็งแรง ซึ่งหากขาดไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ และที่สำคัญยังช่วยให้ปากมีความชุ่มชื่นอีกด้วย
  • มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญ โดยเจ้าตัวไบโอตินมีหน้าที่ในการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นกลูโคส เพื่อนำไปเป็นพลังงานให้กับร่างกาย ทั้งยังมีส่วนช่วยให้กรดอะมีโนกับระบบต่าง ๆ ทำงานด้วยกันได้ดี
  • ช่วยทำให้ร่างกายสามารถนำไขมันมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งยังสามารถนำไขมันมาสร้างเป็นกรดไขมันได้อีกด้วย ทำให้กระบวนการในการสร้างเซลล์ใหม่ไม่มีปัญหา หรือข้อบกพร่อง

วิตามินที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผม เล็บ และผิวพรรณให้แข็งแรง

  • วิตามินเอ ทำหน้าที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ แล้ะสร้างความมันเพื่อไม่ให้ผมมีการขาดหลุดร่วง
  • ไบโอติน เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้เคราตินทำงานได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังช่วยผลิตกลูโคส และทำให้โปรตีนกลายมาเป็นกรดอะมิโน
  • วิตามินซี ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เราเป็นหวัดง่าย และเป็นสิ่งที่จำเป็นในการบำรุงรักษาเส้นผม เล็บ และผิวพรรณ
  • วิตามินดี ทำหน้าที่ช่วยให้รูขุมขนมีการเจริญเติบโต ซึ่งหากขาดวิตามินตัวนี้ไปอาจทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ อีกทั้งยังเป็นสารอาหารที่อยู่ในปลาทูน่า, ปลาแซลมอน และไข่อีกด้วย
  • วิตามินอี ทำหน้าที่ต้านทานสารอนุมูลอิสระ ทั้งยังช่วยในการซ่อมแซมและการสร้างเนื้อเยื้อ ที่สำคัญ ยังมีส่วยช่วยให้เส้นผมมีการเจริญเติบโต โยวิตามินชนิดนี้สามารถหาได้จากอาหารอย่างผักใบเขียว, ถั่วเมล็ดพืช และปลาที่มีไขมัน 
  • เหล็ก ถือเป็นแร่ธาตุที่สำคัญอย่างมาก เพราะมีหน้าที่ในการนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงรากผมให้มีการเจริญเติบโตมากขึ้น
  • แมกนีเซียม ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่หากขาดมันไป อาจทำให้ร่างกายมีความอ่อนล้า ไม่มีแรง และแก่เร็ว ซึ่งสามารถหาแมกนีเซียมได้จากถั่วและเมล็ดพืช โดยเฉพาะเมล็ดฟักทอง
  • ไนอาซิน หรือเรียกว่าวิตามินบี 3 มีหน้าที่ในการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงานให้กับร่างกาย ทั้งยังมีส่วนช่วยในการรักษาโครงสร้างเซลล์ภายในร่างกายอีกด้วย
  • สังกะสี ถือเป็นแร่ธาตุที่ความสำคัญกับเส้นผมอย่างมาก เพราะทำหน้าที่ช่วยปรับความสมดุลของฮอร์โมน และป้องกันไม่ให้เส้นผมมีการหลุดร่วงได้ง่าย
  • โปรตีน เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเส้นผม ที่หากขาดมันไปอาจจะทำให้เส้นผมมีความเปราะบาง ขาดหลุดร่วงได้ง่าย ซึ่งอาหารที่โปรตีนได้แก่ ปลา และเนื้อสัตว์

ใน 1 วันควรได้รับปริมาณไบโอตินเท่าไหร่

  • เด็กเล็ก ควรได้รับไบโอตินในปริมาณ 5-12 ไมโครกรัมต่อวัน
  • เด็กโต ควรได้รับไบโอตินในปริมาณ 20-25 ไมโครกรัมต่อวัน
  • ผู้ใหญ่ ควรได้รับไบโอตินในปริมาณ 30 ไมโครกรัมต่อวัน
  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ควรได้รับไบโอตินในบริมาณ 30-35 ไมโครกรัมต่อวัน

อาการของผู้ที่ขาดไบโอติน

  • ไม่มีเรี่ยวแรง รู้สึกอ่อนเพลีย หรือปวดกล้ามเนื้อ
  • มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และมีอาการไม่อยากอาหาร
  • มีภาวะซึมเศร้า มีอาการประสาทหลอน และนอนไม่หลับ
  • มีผื่นคันบริเวณรอบดวงตา จมูก ปาก และอวัยวะเพศ
  • เส้นผมไม่แข็งแรง มีการหลุดร่วงง่าย
  • คอเลสเตอรอลสูง เพราะระบบเผาผลาญมีความผิดปกติ

10 ไบโอติน ยี่ห้อไหนดี

1. DHC Biotin

2. Haru Biotin Max

3. PURITAN’S PRIDE ULTRA MEGA BIOTIN

4. Clover Plus Reshan

5. Blackmore Biotin H+

6. Thompson Nutritionals Biotin

7. Natrol Gummies Hair, Skin & Nails Biotin

8. Herbitia Biotin

9. Vistra L-Cysteine Plus Biotin

10. 21st Century Biotin

1. DHC Biotin

DHC Biotin

ข้อดี : แก้ปัญหาของเส้นผมได้อย่างล้ำลึก

ยี่ห้อ : DHC Biotin

ปริมาณ :  30 เม็ด

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 500 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 เม็ด กับน้ำอุณหภูมิปกติ เวลาใดก็ได้

DHC Biotin ไบโอตินของทางญี่ปุ่น ที่มีคุณประโยชน์มากมาย ช่วยในเรื่องระบบเผาผลาญ ลดปัญหาผมร่วง บำรุงเล็บให้แข็งแรง รับประทานได้ 30 วัน อีกทั้งใน 1 เม็ดยังมีปริมาณไบโอตินถึง 500 ไมโครกรัมอีกด้วย จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการอาหารเสริมเพื่อไปบำรุงผม เล็บ และระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ร่วมกับการรับประทานให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ตัววิตามินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. Haru Biotin Max 

Haru Biotin Max

ข้อดี : สุขภาพผม เล็บแข็งแรง

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 ซิงค์ ยี่ห้อไหนดี

ยี่ห้อ : Haru Biotin Max

ปริมาณ : 30 แคปซูล

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 150 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน, ฮอร์สเทลสกัด, บริวเวอร์ยีสต์สกัด, สังกะสี และแมกนีเซียม สเตียเรท

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารมื้อใดก็ได้

Haru Biotin Max เป็นอีกหนึ่งอาหารเสริมไบโอติน ที่คนผมร่วง ผมบาง พลาดไม่ได้ ผลิตมาจากประเทศญี่ปุ่น เป็นตัวยาที่ถือว่ามีไบโอตินน้อย แต่ยังมีส่วนผสมอื่นที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน รับประทานได้ 30 วัน ทั้งยังเป็นอาหารเสริมที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดผมร่วง ผมบาง เล็บมีความแข็งแรงมากขึ้นไม่แพ้ยี่ห้ออื่น ๆ อีกทั้งยังมีราคาถูก ที่สำคัญ ยังมีส่วนช่วยให้กรดอะมีโนกับระบบต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

3. PURITAN’S PRIDE ULTRA MEGA BIOTIN

 PURITAN'S PRIDE ULTRA MEGA BIOTIN

ข้อดี : ไบโอตินคุณภาพจากอเมริกา

ยี่ห้อ : PURITAN’S PRIDE ULTRA MEGA BIOTIN

ปริมาณ : 100 แคปซูล

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 10,000 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 เม็ด หลังอาหาร

PURITAN’S PRIDE ULTRA MEGA BIOTIN ไบโอตินคุณภาพ ผลิตมาจากอเมริกา การันตีคุณภาพ ราคาเบา ๆ ช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม ลดผมร่วง ผมบาง บำรุงเล็บให้มีความแข็งแรง ดูแลผิวพรรณให้ปราศจากสิว มีส่วนในการเผาผลาญไขมัน และกรดอะมิโน รับประทานได้ถึง 3 เดือนกว่า 

4. Clover Plus Reshan

Clover Plus Reshan

ข้อดี : เส้นผมดกดำเงางาม

ยี่ห้อ : Clover Plus Reshan

ปริมาณ : 7 และ 30 แคปซูล

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 150 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน, สารสกัดจากทับทิม และวิตามินบำรุงผม 12 ชนิด

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

Clover Plus Reshan อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินบำรุงผมถึง 12 ชนิด ได้แก่ แอล-เมไธโอนีน, ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลต, แอล-ซีสเทอีน, วิตามินซี, สารสกัดจากถั่วเหลือง, วิตามินอี, วิตามินบี 5, ซีลีเนียม, วิตามินเอ, วิตามินบี 2, โฟลิค และไบโอติน ผสมเข้ากับสารสกัดทับทิม ช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง ผมเสียจากการทำสี ดัด ยืด หรือย้อม เร่งผมยาว ลดผมหงอก พร้อมทั้งบำรุงเล็บให้มีความแข็งแรง โดยใน 1 กระปุก สามารถรับประทานได้ 30 วัน และแบบซองทานได้ 7 วัน

5. Blackmore Biotin H+

Blackmore Biotin H+

ข้อดี : ไบโอตินคุณภาพจากออสเตรเลีย

ยี่ห้อ : Blackmore Biotin H+

ปริมาณ : 60 เม็ด

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 150 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน, วิตามินอี, ซิงค์, วิตามินซี และเบตาแคโรทีน

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร

Blackmore Biotin H+ ไบโอตินสัญชาติออสเตรเลีย ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้จริง รับประกันคุณภาพ ทั้งยังสารอาหารอื่น ๆ มาช่วยเสริม และช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระ เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรง ทั้งยังมีส่วนช่วยบำรุงเส้นผม เล็บ และผิวพรรณอีกด้วย ใน 1 กระปุก สามารถทานได้ถึง 2 เดือน ที่สำคัญ ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด 

6. Thompson Nutritionals Biotin

Thompson Nutritionals Biotin

ข้อดี : ไบโอตินล้วน กระตุ้นผมให้มีความแข็งแรง

ยี่ห้อ : Thompson Nutritionals Biotin

ปริมาณ : 90 เม็ด

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 800 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 เม็ด

Thompson Nutritionals Biotin ไบโอตินคุณภาพ ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก ด้วยไบโอตินล้วน ช่วยกระตุ้นรากผมให้แข็งแรง ลดผมขาดหลุดร่วง บำรุงเล็บให้มีความแข็งแรง รับประกันด้วยมาตรฐานการผลิตของทางสหรัฐอเมริกา บรรเทาอาการผดผื่นตามร่างการ รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากการมีไขมันมากเกินไป ที่สำคัญ ยังมีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมัน ทั้งยังป้องกันและต้านทานสารอนุมูลอิสระอีกด้วย ซึ่งไบโอตินยี่ห้อนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ผู้คนต่างให้ความสนใจ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

7. Natrol Gummies Hair, Skin & Nails Biotin

Natrol Gummies Hair, Skin & Nails Biotin

ข้อดี : เม็ดยารูปแบบเยลลี่ กินง่าย

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 วิตามินซี ยี่ห้อไหนดี

ยี่ห้อ : Natrol Gummies Hair, Skin & Nails Biotin

ปริมาณ : 90 เม็ด

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 2,500 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน และวิตามินอี

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 2 เม็ด พร้อมอาหาร

Natrol Gummies Hair, Skin & Nails Biotin ไบโอตินรูปแบบเนื้อเยลลี่ เคี้ยวง่าย มีรสชาติของราสเบอร์รี่ ให้รสสัมผัสที่เหนียว ๆ หนึบ ๆ ตามปกติของเยลลี่ อีกทั้งใน 1 เม็ดยังมีไบโอตินสูงถึง 2,500 ไมโครกรัม พร้อมกับวิตามินอีอีก 7.5 มิลลิกรัม เป็นอีกไบโอตินที่มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงเส้นผม เล็บ ผิวพรรณ ให้มีความแข็งแรง หากกลัวว่าจะได้รับไบโอตินที่มากเกิน สามารถแบ่งกิน 2 เวลาได้ ครั้งละ 1 เม็ด ที่สำคัญ ใน 1 กระปุก สามารถรับประทานได้ถึง 45 วันอีกด้วย

8. Herbitia Biotin

Herbitia Biotin

ข้อดี : ฟื้นฟูบำรุงเส้นผม

ยี่ห้อ : Herbitia Biotin

ปริมาณ : 60 แคปซูล

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 120 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน, สารสกัดจากมิทเลท, สารสกัดจากฮอสเทล, แอล-ซิสเตอีน, แอล-เมไธโอนีน, แคลเซียม แพนโทธิเนต และซิงค์

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 2 แคปซูล หลังอาหารเย็น

Herbitia Biotin ไบโอตินคุณภาพดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมชี้ฟูแตกปลาย มีรังแค หนังศีรษะลอก ผมทำสี ดัด ยืด และผมหงอก ซึ่งสารสกัดทั้งหมดมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะลดอาการอักเสบของหนังศีรษะ กระตุ้นให้ร่างกายสร้างเคราติน บำรุงเล็บ เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับหนังศีรษะ เสริมสร้างให้เส้นผมมีความยืดหยุ่นราวกับสปริง จึงสรุปได้ว่าไบโอตินยี่ห้อนี้สามารถเป็นหนึ่งในตัวเลือกอาหารเสริมเพื่อผมแข็งแรงแน่นอน

9. Vistra L-Cysteine Plus Biotin

Vistra L-Cysteine Plus Biotin

ข้อดี : บำรุงเล็บและเส้นผมอย่างล้ำลึก 

ยี่ห้อ : Vistra L-Cysteine Plus Biotin

ปริมาณ : 30 เม็ด

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 150 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน, แอล-ซีสเทอีน, ซิงค์ และวิตามินบี 5 

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร

Vistra L-Cysteine Plus Biotin อีกหนึ่งไบโอตินที่พลาดไม่ได้ เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการผมขาดหลุดร่วง ลดอาการอักเสบของหนังศีรษะได้ดี บำรุงเล็บให้ความแข็งแรง ช่วยดูดซับสารพิษในร่างกาย เสริมสร้างให้กรดอะมิโนทำงานร่วมกับระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นรากผมให้แข็งแรง ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังศีรษะและรากผม ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้มีการเพิ่มจำนวนเซลล์ผมใหม่อีกด้วย

10. 21st Century Biotin

21st Century Biotin

ข้อดี : ไบโอตินคุณภาพ ผ่านมาตรฐานรับรอง

ยี่ห้อ : 21st Century Biotin

ปริมาณ : 120 เม็ด

ปริมาณไบโอตินต่อ 1 เม็ด : 10,000 ไมโครกรัม

ส่วนประกอบสำคัญ : ไบโอติน และแคลเซียม

วิธีใช้ : รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร

21st Century Biotin ไบโอตินคุณภาพที่ผ่านรับรองจากอย.ของทางประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งไบโอตินที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมและเล็บให้แข็งแรง ระงับการเกิดผมหงอกก่อนวัยอันควร ช่วยลดและบรรเทาอาการอักเสบของหนังศีรษะ กระตุ้นให้เส้นผมมีการเกิดใหม่ ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้าน อีกทั้งยังเป็นไบโอตินที่ช่วยในเรื่องเผาผลาญไขมัน ลดอาการผดผื่นคัน และรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากการมีไขมันมากจนเกินไป

การกินอาหารที่มีไบโอตินอยู่ในตัวอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะอาหารที่มีไบโอตินบางประเภทต้องมีการผ่านความร้อนก่อนถึงจะรับประทานได้ ซึ่งเมื่อสารอาหารที่อยู่ในนั้นโดนความร้อนก็จะเกิดการเสื่อมคุณภาพไป ดังนั้นควรเลือกทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบอย่างไบโอติน เพื่อให้ร่างกายได้รับตามความต้องการ อีกทั้งอาหารเสริมไบโอตินยังมีส่วนช่วยในการลดอาการผมร่วง ผมบาง หรือหนังศีรษะอักเสบอีกด้วย

จากที่กล่าวไปจะเห็นได้ชัดว่าไบโอตินมีความสำคัญกับเส้นผมมากแค่ไหน ซึ่งหากใครอยากให้สุขภาพของเส้นผมดีขึ้น หรือลดปัญหาต่าง ๆ ก็สามารถเลือกได้ตามตัวอย่างข้างบนได้เลย อีกทั้งไบโอตินยังมีส่วนช่วยให้กรดอะมิโนกับระบบในร่างกายทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นคนที่ดูแลสุขภาพพลาดไม่ได้เด็ดขาดกับอาหารเสริมไบโอติน