10 อันดับ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่น่าใช้ที่สุด

เครื่องชงกาแฟแคปซูล

10 อันดับ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่น่าใช้ที่สุด

เราต้องยอมรับว่าการดื่มกาแฟได้กลายเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของเกือบทุกรูปแบบการใช้ชีวิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะระหว่างทำงาน อ่านหนังสือ เล่นกับสัตว์เลี้ยง แฮงเอ้าท์รอเพื่อน หรือพักผ่อนดูหนัง และคงจะสมบูรณ์มากขึ้น หากทุกคนสามารถรังสรรค์กาแฟในแบบที่ชอบด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เอสเพรสโซ่กาแฟที่มีรสเข้ม อเมริกาโน่หรือกาแฟดำ ลาเต้ที่มีรสชาติหวานมันมีความขมของกาแฟเพียงเล็กน้อย คาปูชิโน่ที่มีการเติมฟองนมด้านบน มอคค่ากาแฟที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลต ทุกเมนูกาแฟที่กล่าวมาข้างต้นคุณสามารถรังสรรค์ได้ด้วยตัวคุณเอง เหมือนมีบาริสต้ามาชงให้ถึงบ้าน ด้วยเวลาไม่ถึง 1 นาที ด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูล คุณจะมีความสุขไปกับการชงกาแฟที่มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าในทุกกิจกรรม ช่วยปลุกความสดชื่น เติมความสดใส เรียกพลังยามเช้าก่อนออกไปเผชิญโลกภายนอก หรือเปลี่ยนเช้าวันพักผ่อนให้หยุดอยู่แต่ที่บ้าน แค่คิดตามก็แฮปปี้แล้ว ต่อไปเราจะไปทำความรู้จักกับเครื่องชงกาแฟแคปซูลว่ามีหลักการทำงานอย่างไร 

เครื่องชงกาแฟแคปซูล เป็นหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ที่โดนใจคอกาแฟหลายคน ซึ่งได้รับการพัฒนามาจากเครื่องกาแฟแบบบดคั่ว โดยเพิ่มฟังก์ชันการทำงานอัตโนมัติที่ง่ายดาย สะดวกกับผู้ใช้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะเพียงแค่นำกาแฟแคปซูลใส่เข้าไปในเครื่องจากนั้นกดปุ่มเริ่มต้นการทำงาน หลังจากนั้นนั่งรอเพียงไม่กี่อึดใจ กาแฟหอม ๆ แสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟ ส่วนกาแฟแคปซูล คือ กาแฟแท้คั่วบดที่บรรจุอยู่ในแพ็กเกจรูปแบบแคปซูลสำหรับใช้กับเครื่องชงกาแฟ และใช้ได้ครั้งเดียว ฝาซีลปิดสนิทด้วยฟอยล์เพื่อเป็นการกักเก็บรสชาติ และความหอมของกาแฟสดเอาไว้ให้ได้มากที่สุด วิธีใช้เครื่องชงกาแฟเพียงใส่แคปซูลลงในเครื่องชงกาแฟ เลือกเมนูกาแฟและรอให้เครื่องทำงาน ไม่เกิน 1 นาที ก็ได้ดื่มกาแฟดี ๆ แล้ว ไม่ต้องลำบากต้มน้ำร้อน รอน้ำเดือด ฉีกซองกาแฟ ให้วุ่นวาย แค่ปุ่มเดียวจบจริง ๆ คอกาแฟจึงถูกใจสิ่งนี้ ! เพราะทั้งสะดวกสบายและยังเพิ่มทางเลือกในการดื่มกาแฟรสชาติใหม่ ๆ ได้แบบไม่จำเจ เสมือนมีบาริสต้ามาชงให้ดื่มถึงที่บ้าน

วิธีเลือกซื้อเครื่องทำกาแฟแบบแคปซูล ให้ดูที่ขนาดถังเก็บน้ำ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของคุณ ความดันของบาร์ บาร์คือแรงที่ใช้ปั๊มน้ำ คุณควรมองหาอย่างน้อย 15 บาร์ เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ขนาดของที่วางแก้วกาแฟ สามารถวางแก้วน้ำได้หลากหลายรูปทรงหรือไม่ การทำความสะอาด สิ่งที่ควรคำนึงอีกข้อหนึ่งคือความสะอาด หนึ่งในแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการซื้อเครื่องชงกาแฟคือการประหยัดเวลา ดังนั้นคุณต้องเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟที่ทำความสะอาดได้ง่าย และถ้าให้ดีก็เลือกเครื่องที่มีโหมดทำความสะอาดเองในตัว มันจะทำให้คุณประหยัดเวลาได้มากขึ้น

เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้คุณอยากมีเครื่องชงกาแฟแคปซูลสักเครื่องติดบ้านแล้วหรือยัง สำหรับปัจจุบันเครื่องชงกาแฟแคปซูลมีวางจำหน่ายในท้องตลาดหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ว่าต้องการฟังก์ชันแบบไหน ซึ่งคุณสามารถนำเทคนิคในการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ได้นำเสนอไปแล้วเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ แต่หากคุณยังตัดสินใจไม่ได้ วันนี้เราขอแนะนำ 10 เครื่องชงกาแฟ ที่น่าซื้อ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคุณ 

รายการ 10 ไมโครเวฟ น่าซื้อ

1. KRUPS รุ่น Piccolo XS KP1A0166 

2. DUCHESS รุ่น CM6200R

3. DUCHESS รุ่น CM6300W

4. KRUPS รุ่น KP2401

5. KRUPS รุ่น KP3405

6. KRUPS รุ่น KP3408 

7. KRUPS รุ่น Mini Me KP120H66 

8. KRUPS รุ่น Piccolo XS KP1A01

9. NESPRESSO รุ่น ESSENZA MINI

10. Xiaomi รุ่น: S1201

1.KRUPS รุ่น Piccolo XS KP1A0166 

KRUPS-รุ่น-Piccolo-XS-KP1A0166

สี: ดำ

แรงดันน้ำ: 15 บาร์

กำลังไฟ: 1,340 – 1,600 วัตต์

ขนาดสินค้า: 26.7 x 13.6 x 27.6 เซนติเมตร

น้ำหนักสินค้า: 2.4 กิโลกรัม

ราคา: 2,490 บาท

เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล KRUPS รุ่น Piccolo XS KP1A0166 ออกแบบมาเพื่อคอกาแฟยุใหม่โดยเฉพาะ ด้วยรูปทรงที่ต้องลืมภาพของเครื่องบดกาแฟ และกาต้มกาแฟแบบเก่ากันไปได้เลย ทุกอย่างทุกเตรียมเอาไว้ให้พร้อม เพียงแค่กดปุ่ม คุณก็สามารถสัมผัสกับรสกาแฟได้ทันที ด้วยขนาดความจุ 800 มิลลิลิตร ที่พอแจกจ่ายให้กับเพื่อนฝูงขณะเดินทางได้ พร้อมฟังก์ชันการต้มแบบ Thermoblock ควบคุมอุณหภูมิที่ดีที่สุดสำหรับการต้มกาแฟ พิเศษด้วยตัวควบคุมความดันขนาดแรง 15 บาร์  ช่วยให้การสกัดกาแฟออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งรสชาติ และกลิ่นอันหอมละมุน ปรับแต่งได้ตามรูปแบบของกาแฟที่คุณชื่นชอบ นับได้ว่าเป็นเครื่องกาแฟขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพไม่ธรรมดา ทำได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็นอีกด้วย

ข้อดี

– ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย

– เทคโนโลยีทำความร้อนแบบ Thermoblock

– โหมดประหยัดพลังงาน

– มีระบบปรับระดับน้ำ

ข้อเสีย

– ใช้กำลังไฟสูง

2. DUCHESS รุ่น CM6200R

DUCHESS-รุ่น-CM6200R

กำลังไฟและความถี่: 220 – 240V, 50 / 60Hz

แรงดัน: 20 บาร์

ความจุถังน้ำ: 650 ml.

น้ำหนัก: 3 กก.

ขนาด: 5 X 32.5 X 22.5 cm.

รับประกัน: 1 ปี

ราคา: 4,890 บาท 

อีกหนึ่งตัวเลือกของการเฟ้นหาเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล กับ Duchess Capsule Coffee Maker รุ่น CM6200R เหมาะสำหรับการตั้งเพื่อต้มกาแฟแบบพิเศษ หอมกรุ่นภายในบ้าน หรือสำนักงาน ด้วยขนาดแรงดันน้ำ 20 บาร์ ที่เรียกว่า ถ้าคุณต้องการกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น จากการบดกาแฟที่ละเอียดยิบ ด้วยแรงดันสูงจาก CM6200R สามารถกลั่นกรองรสชาติของกาแฟออกมาได้อย่างดียอดเยี่ยม เข้มทั้งกลิ่นและรสชาติของกาแฟอย่างแท้จริง

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 ตู้เย็นตู้แช่แข็ง ยี่ห้อไหนดี

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด

– แรงดันน้ำสูง

– มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ

– มีระบบปรับระดับน้ำ

– สามารถปรับระดับแก้ว

ข้อเสีย

– ความจุถังน้ำน้อย

3.เครื่องชงกาแฟแคปซูล DUCHESS รุ่น CM6300W

DUCHESS-รุ่น-CM6300W

กำลังไฟและความถี่: 220 – 240V, 50 / 60Hz

แรงดัน: 19 บาร์

โปรแกรมเลือกปริมาณการชง: 9 ระดับ ( ปริมาณ 15 มล. – 180 มล.)

ความจุถังน้ำ: 600 ml.

น้ำหนัก: 3.1 กก. 

ขนาด: 10 X 34 X 24.5 cm.

ราคา: 6,890 บาท 

อีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันที่ทางค่าย DUCHESS ส่งเข้าประกวด กับเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลในรุ่น CM6300W ด้วยรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ทันสมัย ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่อยู่บ้าง เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน หรือสำนักงาน สามารถทำกาแฟได้หลากหลายรูปแบบด้วยเทคโนโลยีการออกแบบอัจฉริยะ พิเศษสำหรับคนรักความล้ำลึกของ Espresso เครื่องรุ่นนี้ สามารถถ่ายทอดพรายฟองนุ่มละมุน แต่มีรสชาติที่แสนดุดัน อันเป็นเสน่ห์ของ Espresso ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมทั้ง แท็งค์น้ำสำหรับการต้มกาแฟ และ แท่นรองแก้วกาแฟที่ทนความร้อนได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า เป็นความสะดวกสบายในอารมณ์อยากดื่มกาแฟ คุณก็สามารถใช้ปลายนิ้วสัมผัสพร้อมรับถ้วยกาแฟที่แสนเข้มข้นได้แล้ว 

ข้อดี

– รูปทรงสวยงาม ดูมีสไตล์ ทันสมัย 

– แรงดันน้ำสูง กลั่นกาแฟออกมาได้ทั้งกลิ่นและรสที่ยอดเยี่ยม 

– มีโหมดสแตนบาย และโหมดชงกาแฟด้วยตนเอง

– มีระบบปรับระดับน้ำ

– โถรองน้ำกาแฟทนความร้อน

ข้อเสีย

– ความจุถังน้ำน้อย

4.KRUPS รุ่น KP2401

KRUPS-รุ่น-KP2401

ขนาดถังใส่น้ำ(ลิตร): 0.8

กำลังไฟฟ้า(วัตต์): 1500

ระบบแรงดันน้ำ: 15 บาร์

รับประกัน(ปี): 2

ขนาด(ซม): 27.20 x 11.00 x 27.10

LED Control: มี

ราคา: 4,490 บาท 


KRUPS คือแบรนด์ผลิตเครื่องชงกาแฟที่ได้รับการยอมรับจากเหล่าบาริสต้าที่จริงจังทั้งในเรื่อง กลิ่นและรสชาติ ซึ่งนับจากนี้ มือสมัครเล่นก็สามารถชงกาแฟคุณภาพดีออกมาได้แล้ว ด้วย KRUPS รุ่น KP2401 ที่แค่แรกพบก็สะดุดตากับดีไซน์ที่สวยงาม ไม่เหมือนใคร อีกทั้งมีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก จะใช้ในบ้าน หรือ จะเลือกเป็นเครื่องชงกาแฟสำหรับการเดินทางก็ทำได้ สามารถชงกาแฟได้หลากหลายชนิด รวมไปถึงการชน ลาเต้ และ คาปูชิโน่ ด้วยระบบการจัดการอุ่นนมให้พอเหมาะสำหรับกาแฟทั้งสองแบบนี้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันชงกาแฟ 13 แบบเพิ่มความหลากหลายในรสชาติให้กับคุณได้อย่างมากมาย

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด

– ถังใส่น้ำจุ

– มีฟังก์ชัน LED Control Ring

– มีฟังก์ชันที่สามารถหยุดทำงานอัตโนมัติหลังจากการใช้งานเสร็จ

ข้อเสีย

– ใช้กำลังไฟสูง

5.KRUPS รุ่น KP3405

KRUPS-รุ่น-KP3405

ขนาดถังใส่น้ำ(ลิตร): 0.8

กำลังไฟฟ้า(วัตต์): 1500

แรงดัน(บาร์): 15

รับประกัน(ปี): 2

ขนาด(ซม): 27.20 x 11.00 x 27.10

LED Control: มี 

XL function: มี

ราคา: 4,990 บาท 

สำหรับเครื่องชงกาแฟของ KRUPS รุ่น KP3405 มองดูเผิน ๆ แทบไม่แตกต่างจาก รุ่น KP2401 แต่ที่พิเศษกว่าคือ ระบบการปรับระดับอุณหภูมิเพื่อการชงกาแฟที่ปรับได้ถึง 4 ระดับ เพื่อการสกัดกาแฟออกมาได้อย่างมีคุณภาพเต็มที่ มาพร้อมกับ มีโหมด espresso boost เอาใจคนรักเอสเพรสโซ่ ที่มีการประมวลน้ำร้อนและกาแฟออกมาได้อย่างพอเหมาะ เพราะกาแฟถ้วยนี้ต้องเต็มไปด้วยความเข้มข้นและร้อนแรง จึงต้องใช้ทั้งอุณหภูมิและแรงดันมากพอสมควร ซึ่ง KP3405 ถูกตั้งระบบออกมาเพื่อทำเอสเพรสโซ่โดยเฉพาะ 

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาพร้อมกับปุ่มเลือกการชงกาแฟสำหรับคนที่รักความหลากหลาย ด้วยเมนูชงกาแฟ 13 แบบ เรียกได้ว่า เปิดร้านเล็ก ๆ สำหรับการขายกาแฟก็สามารถทำได้ทันที อีกทั้ง เอาใจคนชอบความใหญ่เต็มพิกัด กับระบบการชงแบบ XL function กับกาแฟแก้วโต ดื่มได้อย่างจุใจ ที่สำคัญ ไม่เสียกลิ่นและรสชาติจากปริมาณน้ำในการชงกาแฟที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย 

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด

– ถังใส่น้ำจุ

– มีฟังก์ชัน LED Control Ring

– มีฟังก์ชันที่สามารถหยุดทำงานอัตโนมัติหลังจากการใช้งานเสร็จ

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ใช้งานได้หลากหลาย ในราคาที่จับต้องได้

– มีโหมด XL function

ข้อเสีย

– ใช้กำลังไฟสูง

6. KRUPS รุ่น KP3408 

KRUPS-รุ่น-KP3408

ขนาดถังใส่น้ำ(ลิตร): 0.8

กำลังไฟฟ้า(วัตต์): 1500

ระบบแรงดันน้ำ: 15 บาร์

ขนาด(ซม): 27.20 x 11.00 x 27.10

LED Control: มี

XL function: มี

ราคา: 4,490 บาท 

ยังมีมาให้เลือกแบบไม่จำกัด กับ เครื่องชงกาแฟแคปซูล KRUPS ที่ส่งเครื่องชงกาแฟขนาดกะทัดรัดเข้าประกวดในอีกหลายรายการ และแต่ละแบบได้ใจนักดื่มกาแฟกันแทบทั้งสิ้น ซึ่งในรุ่น KP3408 เป็นการพัฒนารูปแบบการชงกาแฟให้มีความง่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมกับดีไซน์เฉพาะแบบที่มองดูก็รู้ว่านี่แหละ KRUPS 

ความพิเศษของเครื่องชงกาแฟขนาดกะทัดรัดรุ่นนี้ คือสามารถช่วยออกแบบกาแฟ และเครื่องดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น เพราะสูตรการชงของทั้งสองแบบ มีส่วนผสมและความเข้มข้นที่แตกต่างกัน ดังนั้น ความใส่ใจที่ถูกบรรจุอยู่ใน KRUPS รุ่น KP3408 นี้จึงออกแบบมาเพื่อคนรักความหลากหลายในการดื่มกาแฟอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกแบบจุดรับกาแฟ ที่ได้รับแนวคิดและการพัฒนาจาก NESCAFÉ® Dolce Gusto® ที่ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะสำหรับการผลิตเครื่องชงกาแฟรุ่นนี้เท่านั้น จึงไม่แปลกใจ ที่ KRUPS รุ่น KP3408 จึงเป็นตัวเลือกเบอร์ต้น ๆ ของคนรักกาแฟตัวจริง เสียงจริง 

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด

– ถังใส่น้ำจุ

– มีฟังก์ชัน LED Control Ring

– มีโหมดประหยัดพลังงาน ที่สามารถหยุดทำงานอัตโนมัติหลังจากการใช้งานเสร็จ

– มีโหมด XL function

ข้อเสีย

– ใช้กำลังไฟสูง

7.KRUPS รุ่น Mini Me KP120H66 

KRUPS-รุ่น-Mini-Me-KP120H66

กำลังไฟฟ้า: 1500 วัตต์

แรงดันน้ำ: 15 บาร์

ระบบควบคุมการปรับระดับน้ำแบบอัตโนมัติ: 7 ระดับ

ถังใส่น้ำขนาด: 0.8 ลิตร 

ปรับตามขนาดแก้ว: 3 ระดับ

โหมดประหยัดพลังงาน: มี

ขนาดเครื่อง (ซม.) (W x L x H): 30.5*19.4*37.5

น้ำหนัก(กก.): 2.55

ราคา: 4,490 บาท

ด้วยรูปทรงสูงโปร่ง ดูแปลกตา เรียกได้ว่า มาแบบผิดฝาผิดแนวกับพี่น้องในรุ่นอื่น ๆ ของ KRUPS กับ KRUPS  Mini Me KP120H66 ที่ดูสะโอดสะองสวยงาม ยิ่งถ้าเป็นตัวสีแดงแล้ว ยิ่งดูเข้มขลังตามแบบฉบับของเครื่องดื่มที่ต้องร้อนแรงประดุจนรก และ ดำดุจปีศาจ แต่ลุ่มลึก รสละมุนประดุจความรัก ซึ่ง KP120H66 สามารถดึงรสชาติ กลิ่น และ ครีมม่าของกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยระบบการควบคุมอุณหภูมิแบบ Thermoblock กับการกลั่นกาแฟตามความร้อนที่เหมาะสมต่อเมล็ดกาแฟ และรูปแบบกาแฟในแต่ละชนิด คุณจึงสามารถสัมผัสกับความลึกซึ้งดื่มด่ำของกาแฟได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับเครื่องอัดความอันขนาด 15 บาร์ สำหรับการสกัดกาแฟออกมาได้ครบเข้มทุกรสชาติ พิเศษ การถาดรองปรับระดับได้ เพื่อการปรับขนาดของแก้วในการรับน้ำกาแฟที่ทำออกมาได้อย่างลงตัวเป็นอย่างยิ่ง

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด

– ถังใส่น้ำจุ

– มีเทคโนโลยีทำความร้อนแบบ Thermoblock

– มีโหมดประหยัดพลังงาน ตัวเครื่องจะปิดอัตโนมัติหากไม่ใช้งาน

– ถาดรองน้ำสามารถปรับระดับได้ 3 ระดับ

– มีระบบควบคุมการปรับระดับน้ำแบบอัตโนมัติถึง 7 ระดับ

ข้อเสีย

– ใช้กำลังไฟสูง

8.KRUPS รุ่น Piccolo XS KP1A01

KRUPS-รุ่น-Piccolo-XS-KP1A01

กำลังไฟฟ้า (วัตต์): 1600

ความจุ: 0.8 ลิตร

ขนาด (กว้าง x สูง x ลึก) : 14 x 28 x 27 ซม.

ถาดรองน้ำปรับได้: 3 ระดับ

โหมดประหยัดพลังงาน: มี

ราคา: 2,490 บาท

ความน่ารักที่มาพร้อมกับความกะทัดรัด เหมาะสำหรับการดื่มแบบช็อตเล็ก ๆ ยามบ่าย กับเครื่องชงกาแฟแคปซูล KRUPS ในรุ่น Piccolo XS KP1A01 สำหรับสายขอบกาแฟแก้วโต อาจดูไม่ค่อยปลื้มนัก สำหรับการดื่มที่ไม่เน้นปริมาณ แต่เน้นคุณภาพและความดื่มด่ำในรสกาแฟแบบเต็มที่  KP1A01 สามารถดึงประสบการณ์แห่งความรื่นรมย์ของรสกาแฟออกมาได้อย่างเต็มพิกัด อาจไม่มีฟังก์ชันการชงมากนัก แต่ถือว่า เป็นตัวช่วย อำนวยความสะดวกให้คุณสามารถได้ดื่มกาแฟถ้วยโปรดได้อย่างรวดเร็ว 

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด

– ถังใส่น้ำจุ

 – มีโหมดประหยัดพลังงาน ตัวเครื่องจะปิดอัตโนมัติหากไม่ใช้งาน

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 เครื่องฟอกอากาศใช้งานที่บ้าน

– ถาดรองน้ำสามารถปรับระดับได้ 3 ระดับ

ข้อเสีย

– ใช้กำลังไฟสูง

9.NESPRESSO รุ่น ESSENZA MINI

NESPRESSO-รุ่น-ESSENZA-MINI

กำลังไฟ: 1,310 วัตต์

แรงดันไฟฟ้า: 220-240 โวลต์

แรงดันน้ำ: 19 บาร์

ความยาวสายไฟ: 0.8 เมตร

ความจุแทงก์น้ำ: 0.6 ลิตร

ความสามารถในการบรรจุจำนวนแคปซูลที่ใช้แล้ว : 6

ขนาดสินค้า: กว้าง 11 x ยาว 20.5 x สูง 32.5 ซม.

น้ำหนักสินค้า: 2,300 กรัม

ราคา: 4,500 บาท

ปล่อยให้ค่ายอื่นเขาโชว์ตัวกันมามาก ถึงเวลาพี่ใหญ่แห่งวงการกาแฟ เสนอตัวเข้าประกวดกันบ้าง กับ NESPRESSO รุ่น ESSENZA MINI ลิขสิทธิ์เฉพาะจากการพัฒนาและออกแบบของค่าย เนสกาแฟ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการกาแฟ ส่งเครื่องชงกาแฟดีไซน์ล้ำสมัย และมุ่งเน้นไปที่การชงแบบ เอสเพรสโซ่เป็นหลัก เพราะคุณสามารถนำไปต่อยอดกลายเป็นเครื่องดื่มที่คุณรักได้หลากหลายรูปแบบ แม้ว่าตัวเครื่องจะทำได้แค่ เอสเพรสโซ่ แต่เพราะความดื่มด่ำ และอารมณ์ของกาแฟที่กลั่นออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้การนำเครื่องดื่มแก้วนี้ไปประยุกต์กลายเป็น ลาเต้ มอคค่า หรือ คาปูชิโน่ ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี เพราะตัวเครื่องมาด้วยแรงดันสูงขนาด 19 บาร์ ที่ดึงกลิ่นอโรมาเฉพาะตัวของกาแฟออกมาได้แทบทั้งหมด เรียกว่า ด้วยอุณหภูมิเฉพาะ แรงดันที่ใช่ และด้วยรูปแบบการทำงานเฉพาะตัวของเนสกาแฟ ทำให้เครื่องชงกาแฟรุ่น กับ NESPRESSO รุ่น ESSENZA MINI เป็นเครื่องชงที่คุณพลาดไม่ได้

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา

– แรงดันน้ำสูง

– มีโหมดประหยัดพลังงาน ตัวเครื่องจะปิดอัตโนมัติหากไม่ใช้งาน

– ระบบทำความร้อนเร็ว

ข้อเสีย

– ความจุถังน้ำน้อย

10.Xiaomi รุ่น S1201

Xiaomi-รุ่น-S1201

ความดัน: 19 บาร์

ความถี่: 50Hz 

ความจุ: 620ml. 

กำลังไฟ: 1200W 

แรงดันไฟฟ้า: 220-240V

ขนาด: 330 x 215 x 85mm.

น้ำหนัก: 4 กิโลกรัม

ราคา: 3,000 บาท 

ถือเป็นเซอร์ไพรส์สำหรับสายกาแฟมาก ที่ Xiaomi หันมาลงสนามตลาดเครื่องชงกาแฟด้วย เป็นการยืนยันถึงวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศจีน กับ Xiaomi S1201 เครื่องชงกาแฟขนาดกะทัดรัด อาจด้อยไปบ้างในเรื่องของรูปทรง แต่โดยรวมก็ถือว่าดูสวยงามทันสมัย มาพร้อมกับพลังในการดันกลิ่นและรสของกาแฟผ่านทางไอน้ำร้อนขนาด 19 บาร์ รส กลิ่น และน้ำมันกาแฟ ย่อมถูกสกัดออกมาได้อย่างเต็มที่ คุณจึงสามารถรื่นรมย์ไปกับรสชาติของกาแฟได้ในทุกเวลาที่คุณต้องการ 

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา

– มีโหมดประหยัดพลังงาน ตัวเครื่องจะปิดอัตโนมัติหากไม่ใช้งาน

– ใช้งานร่วมกับแคปซูลกาแฟหลายยี่ห้อ

– อะแดปเตอร์ปลอดภัยใช้ได้กับทุกประเทศ

ข้อเสีย

– ความจุของถังน้ำน้อย

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ 10 อันดับ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่น่าซื้อมาใช้ มียี่ห้อไหน รุ่นไหนถูกใจกันบ้างหรือเปล่า เราหวังว่าเกร็ดความรู้เรื่องเครื่องชงกาแฟแคปซูลในวันนี้ จะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลได้อย่างเหมาะสมกับตัวคุณ และด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูลของคุณ จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงรสชาติกาแฟที่หอมกรุ่นและรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้ตลอดเวลา