
ไลฟ์สไตล์ที่เร่งด่วนเสมอ ชีวิตที่ต้องการความคล่องตัวทำให้ผู้คนในยุคนี้พยายามมองหาเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่าย และสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ด้วยชีวิตคนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโด หรือห้องพักที่มีพื้นที่จำกัด ทำให้เรื่องการใช้ชีวิตจำเป็นต้องคิดให้มากกว่าเดิมสองเท่า และเป็นต้นกำเนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดที่ช่วยทำให้ชีวิตของผู้ใช้งานง่ายขึ้นเพียงปลายนิ้ว โดยในบทความชิ้นนี้ได้นำเครื่องอบผ้าที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปี 2021 มาแนะนำให้กับคนที่กำลังมองหาตัวช่วยให้ผ้าแห้งได้ทันใจ และประหยัดเวลาในการทำงานบ้านไปหลายเท่าตัว
เครื่องอบผ้ามีประโยชน์ในด้านใดบ้าง อาจจะเป็นคำถามที่เกิดขึ้นได้สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้สัมผัสถึงมนต์เสน่ห์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ คุณสามารถที่จะเสกให้ผ้าแห้งได้ภายในสิบนาที และที่สำคัญถ้าคุณเป็นคนรักในกลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มต้องการให้กลิ่นติดผ้าหอม ทนทาน และยาวนานขึ้น เครื่องอบผ้าช่วยได้มากเลยทีเดียว ซึ่งบทความชิ้นนี้ได้ทำการรวบรวมรายการ 10 อันดับของเครื่องอบผ้าที่น่าสนใจประจำต้นปีนี้ไว้ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีเครื่องอบผ้ารุ่นใดบ้างไปติดตามกันได้
10 อันดับเครื่องอบผ้า
1. Haier HDV70E1

ราคา: 10,990 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: ระบบลมร้อน
ขนาด: 83 x 58.5 x 60 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: ไม่มี
ความจุ: 7 กก.
การรับประกัน: ตัวเครื่อง 1 ปี / มอเตอร์ 5 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
ใครที่กังวลว่าอุณหภูมิของเครื่องอบผ้าจะสูงเกินไป และหากนำเสื้อผ้าเข้าไปอบในเครื่องอบผ้าจะทำให้คุณภาพของผ้าที่รักต้องแห้งกรอบ และเสียทรง เครื่องอบผ้าจาก Haier HDV70E1 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดูดีไม่น้อย เพราะเครื่องอบผ้ารุ่นนี้จาก Haier ภายในเครื่องอบผ้ามีระบบเซนเซอร์คำนวณอุณหภูมิที่จะรักษาไม่ให้การอบผ้ามีอุณหภูมิที่สูงเกินไป หรือจะน้อยเกินไป เพื่อให้ผ้าที่ทำการอบแห้งพอดีและไม่ส่งผลเสียกับเนื้อผ้าแน่นอน
ความโดดเด่นหนึ่งของเครื่องอบผ้านี้คือมีการผสานเทคโนโลยีอย่าง Reversible Tumble ที่จะทำให้การอบผ้ามีลักษณะเป็นการหมุนทวนเข็ม และตามเข็มนาฬิกา เพื่อทำให้ผ้าเกิดการคลี่ออกจากกัน ไม่พันกัน และลดรอยยับที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ที่สำคัญคือหมดปัญหาเรื่องของผ้าที่แห้งไม่สม่ำเสมอกัน ให้ทุกส่วนของผ้าที่อบมีความแห้งเสมอกัน และผู้ใช้งานยังสามารถที่จะเลือกรูปแบบในการอบผ้าได้อย่างตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นกับโปรแกรมที่มีมากับเครื่องถึง 9 โปรแกรมด้วยกัน
ข้อดี
– ระบบเซนเซอร์คำนวณอุณหภูมิ
– ลักษณะเป็นการหมุนทวนเข็ม และตามเข็มนาฬิกา เพื่อทำให้ผ้าไม่พันกัน
– โปรแกรมที่มีมากับเครื่องถึง 9 โปรแกรม
ข้อเสีย
– ไม่มีระบบในการรองรับผ้ายับ
2. ALTEC

ราคา: 2,990 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: ระบบลมร้อนแบบพกพา
ขนาด: 150 x 52 x 45 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: ไม่มี
ความจุ: 10 กก.
การรับประกัน: 2 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
บางครั้งในการอบผ้า เสื้อผ้าที่ทำการเข้าเครื่องอบผ้าแห้งจริง แต่ในบางส่วนของเสื้อผ้าอาจจะยังมีความชื้นอยู่ในขณะเดียวกัน นี่คือหนึ่งในสิ่งที่เครื่องอบผ้ารุ่นนี้ได้พัฒนาความสามารถของการอบผ้าให้เป็นในลักษณะของการใช้ลมร้อนไหลเวียนตลอดในทุกส่วนด้วยลักษณะของลมที่เดินทางแบบ 360 องศา ทำให้ตัวเสื้อผ้าที่ใส่เข้าไปข้างในเครื่องอบผ้า ALTEC นี้แห้งได้เร็ว และที่สำคัญคือไม่ชื้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามอุณหภูมิของตัวเครื่องอบผ้านี้จะถูกตั้งอัตโนมัติที่ 65 องศาเซลเซียส ที่เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการอบผ้า และยังเป็นช่วงอุณหภูมิที่รักษา และถนอมเส้นใยของเสื้อผ้าได้ดีทีเดียว ทำให้ตลอดการใช้งานเครื่องอบผ้าหมดห่วงเรื่องความเสียหายที่เกิดจากการอบร้อนไปได้เลย ตัวเครื่องสามารถที่จะทำการตั้งเวลาได้มากสูงสุดถึง 180 นาที เพื่อให้เหมาะแต่ละลักษณะการใช้งานได้เป็นพิเศษ พร้อมสำหรับใส่เสื้อผ้าได้ทุกประเภทเรียกได้ว่าเป็นการใช้งานเครื่องอบผ้าที่สารพัดประโยชน์ ตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว และไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบที่ต้องการตัวช่วยในหลากหลายสถานการณ์
ข้อดี
– ลักษณะของลมที่เดินทางแบบ 360 องศา
– ถนอมเส้นใยของเสื้อผ้า
– ตั้งเวลาได้มากสูงสุดถึง 180 นาที
ข้อเสีย
– มีเสียงรบกวนในระหว่างที่เครื่องทำงาน
3. Beko DA8112PX0W

ราคา: 17,990 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: ระบบลมร้อน
ขนาด: 85.6 x 59.7 x 58.4 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: มี
ความจุ: 8 กก.
การรับประกัน: ตัวเครื่อง 2 ปี / มอเตอร์ 5 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
เป็นหนึ่งในเครื่องอบผ้าที่ค่อนข้างมีระบบในการทำงานซับซ้อน และต้องมีการต่อเติมให้เข้ากับตัวบ้านเป็นพิเศษ ทำให้เครื่องอบผ้ารุ่นนี้เหมาะกับการเป็นเครื่องอบผ้าที่ใช้ในบ้านเดี่ยวของผู้ใช้งาน เพราะระบบการทำงานของเครื่องอบผ้าเครื่องนี้มีการถ่ายเทความร้อนในการอบผ้าจากภายในสู่ภายนอก ทำให้การจะใช้งานเครื่องอบผ้าเครื่องนี้ควรที่จะทำการต่อท่อระบายความร้อนไปนอกบ้านเพิ่มเติมเข้าไปอีก แต่อย่างไรก็ตามความยุ่งยากในการใช้งานนี้มีเหตุผลที่ทำให้ตัวเครื่องนี้ดูซับซ้อนกว่าเครื่องอบผ้าประเภทอื่น เพราะตัวเครื่องมีโปรแกรมในการอบผ้าที่ผู้ใช้งานเลือกได้มากถึง 15 โปรแกรมกันเลยทีเดียว
โปรแกรมที่ตัวเครื่องอบผ้านี้สามารถจัดการได้มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการอบผ้าที่มีลักษณะเป็นยีนส์ หรือโปรแกรมสำหรับชุดกีฬา เป็นต้น นี่คือจุดเด่นของเครื่องอบผ้าแห้งรุ่น Beko DA8112PX0W ถ้าผ้าที่คุณต้องการอบมีหลากหลายประเภท และต้องการการดูแลขั้นสุด เครื่องอบผ้ารุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ต้องแลกมาด้วยการเพิ่มเติม หรือจัดสรรให้เข้ากับบ้านเดี่ยวของคุณสักเล็กน้อย อย่างไรตัวเครื่องมีระบบ Auto-Anti Creasing ที่จะมีลักษณะในการอบผ้าที่ทั้งหมุนตามเข็มนาฬิกา และทวนเข็มเพื่อให้ผ้าที่ทำการอบแห้งทั่วถึงกัน และคลี่ไปในการอบครั้งนั้น
ข้อดี
– โปรแกรมในการทำงานที่รองรับมากถึง 15 โปรแกรม
– หมุนตามเข็มนาฬิกา และทวนเข็มเพื่อให้ผ้าที่ทำการอบแห้งทั่วถึง
ข้อเสีย
–
4. AJ CD-001

ราคา: 2,990 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: ระบบลมร้อนแบบพกพา
ขนาด: 153 x 53 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: ไม่มี
ความจุ: 10 – 12 กก.
การรับประกัน: 1 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
ถ้ากำลังมองหาเครื่องอบผ้าที่ประหยัดพื้นที่ สามารถประกอบเพื่อใช้งานได้ และถอดเพื่อเก็บเข้าที่หลังจากใช้งานเสร็จให้เรียบร้อย เครื่องอบผ้า AJ CD-001 ที่มาในลักษณะของถุงอบลมร้อนที่จะทำการอบด้วยลมอุณหภูมิสูงให้ไหลเวียนอยู่ภายใน โดยความน่าสนใจของเครื่องอบผ้ารุ่นนี้คือสามารถใส่เสื้อผ้าได้จำนวนมาก ทำให้ยิ่งช่วยประหยัดเวลาในการอบผ้าไปได้เยอะ เพราะไม่ใช่เครื่องอบผ้าทุกรุ่น หรือทุกแบรนด์ที่จะสามารถใส่ได้จำนวนมาก เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคในการอบผ้าให้ทั่วถึง ซึ่งอุณหภูมิที่ใช้เป็นหลักในการอบผ้าของเครื่องอบผ้ารุ่นนี้คือ 70 องศาเซลเซียส ด้วยอุณหภูมิที่กำลังดีนี้จะทำให้ผ้าสามารถแห้งได้เร็ว และยังช่วยถนอมผ้าได้ไปในตัวอีกด้วย ความน่าสนใจอีกหนึ่งจุดของ AJ CD-001 คือไร้เสียงรบกวน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำการอบผ้าทิ้งไว้ และใช้ชีวิตต่อเพื่อทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้เลย ไม่รบกวนสมาธิแต่อย่างใด
ข้อดี
– ไร้เสียงรบกวน
– ใส่เสื้อผ้าได้จำนวนมาก
– อุณหภูมิในการอบผ้าที่สูงถึง 70 องศาเซลเซียส
ข้อเสีย
– ตัวเครื่องไม่มีรูปแบบในการอบผ้าที่เหมาะกับชนิดผ้าเฉพาะ
5. Toshiba TD-H80SET

ราคา: 14,990 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: ระบบลมร้อน
ขนาด: 84 x 59.5 x 55.5 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: มี
ความจุ: 7 กก.
การรับประกัน: ตัวเครื่อง 1 ปี / มอเตอร์ 10 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
เทคโนโลยีทำให้ทุกเรื่องเป็นไปได้ และใช้งานง่ายยิ่งขึ้นกับเครื่องอบผ้าที่มีหน้าจอพร้อมสั่งการแบบหน้าจอ LED ที่คุณจะสามารถเห็นระบบทำงาน และแจ้งสถานะอยู่ตลอด อีกทั้งตัวเครื่องอบผ้ารุ่น Toshiba TD-H80SET เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีระบบคอยดูแล และจัดการอุณหภูมิของการอบผ้าให้ไม่สูงเกินจนส่งผลเสียกับผ้า หรือน้อยเกินไปที่ทำให้ผ้าไม่แห้งสม่ำเสมอกันด้วย เซนเซอร์ SenseDry ทำให้การอบผ้าที่อาจจะดูเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ชนิดผ้า อุณหภูมิที่ควรใช้ หรือจะเป็นเวลาในการอบ ให้เครื่องอบผ้านี้ช่วยจัดการได้เองอัตโนมัติ
ปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้จากการอบผ้าในลักษณะนี้คือ ผ้าที่ทำการอบจะออกมายับ และพันกันจนยากต่อการนำไปตากแดด หรือใช้งานต่อ แต่ตัวเครื่อง Toshiba TD-H80SET ได้ผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่เฉพาะตัวอย่าง Anti-Crease หรือระบบการหมุนทวนเข็มและตามเข็มนาฬิกา ซึ่งเป็นระบบที่จะยังประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านให้กับผู้ใช้งานได้ดี เพราะผู้ใช้งานจะได้ผ้าที่คลี่ และง่ายต่อการรีดผ้า ทำให้ช่วยประหยัดทั้งเวลาในการรีดผ้า และไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการนำออกจากเครื่องอบผ้า เพราะผ้าจะอยู่ในลักษณะที่พร้อมต่อการนำไปสู่การดูแลผ้าขั้นตอนต่อไปได้ทันที Toshiba TD-H80SET จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เรื่องการอบผ้าเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้ว
ข้อดี
– หน้าจอพร้อมสั่งการแบบหน้าจอ LED
– อย่าง Anti-Crease หรือระบบการหมุนทวนเข็มและตามเข็มนาฬิกา
– เซนเซอร์ SenseDry
ข้อเสีย
– มีเสียงรบกวนเล็กน้อย
6. Beko DU10133GA0W

ราคา: 32,990 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: ระบบควบแน่น
ขนาด: 84.6 x 59.7 x 65.4 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: มี
ความจุ: 10 กก.
การรับประกัน: ตัวเครื่อง 2 ปี / มอเตอร์ 5 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
ท้าทายด้วยความสามารถที่ล้ำสมัย อาจจะเป็นคำนิยามที่ตรงสเปคกับเครื่องอบผ้ารุ่นนี้ เพราะความสามารถของตัวเครื่องทำให้ผ้าแห้งได้ภายในเวลา 15 นาทีเพียงเท่านั้น ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสถิติในการอบผ้าทีใช้เวลาสั้น และกระชับมากที่สุดเท่าที่มีมา นอกจากนั้นตัวเครื่องอบผ้ามีโปรแกรมในการทำงานของเครื่องได้มากถึง 15 โปรแกรมด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะมีผ้าชนิดใดเครื่องอบผ้ารุ่นนี้สามารถที่จะทำการอบผ้าให้เหมาะสมกับชนิดผ้าได้อย่างเหมาะสม
เหนือชั้นกว่าแค่เครื่องอบผ้าแห้ง เพราะเครื่องอบผ้ารุ่นนี้ยังสามารถที่จะทำความสะอาดได้ไปในตัวอีกด้วย ทำให้ผ้าที่ผู้ใช้งานได้นอกจากจะแห้ง ไม่ชื้น และที่สำคัญยังได้ผ้าที่หอมสะอาด เป็นการทำความสะอาดที่ช่วยแบ่งเบาภาระไปในตัว เป็นฟังก์ชันเสริมที่เข้ามาเพิ่มในตัวเครื่องได้อย่างน่าสนใจ
ข้อดี
– อบผ้าได้รวดเร็วมากที่สุดเพียง 15 นาทีเพียงเท่านั้น
– มีโปรแกรมในการจัดการอบผ้าที่เหมาะกับแต่ละชนิด
ข้อเสีย
– ราคาที่สูงพอตัว
7. Electrolux EWW8023AEWA

ราคา: 27,990 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: –
ขนาด: 85 x 60 x 57.5 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: มี
ความจุ: ซัก 8 กก. / อบ 5 กก.
การรับประกัน: อะไหล่ไฟฟ้า 2 ปี / มอเตอร์และตัวถัง 10 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
หนึ่งในสิ่งที่เป็นจุดเด่นหลักของเครื่องอบผ้าจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Electrolux กับเครื่องอบผ้า Electrolux EWW8023AEWA คือ มอเตอร์ EcoInverter ที่ใส่เข้ามาในเครื่องอบผ้าที่จะช่วยในการดูแลระบบการสั่นของเครื่องให้เบา แต่สามารถทำงานได้ดี นั้นหมายความว่าตลอดระยะเวลาการทำงานของเครื่องอบผ้ารุ่นนี้จะไม่ส่งเสียงรบกวนผู้ใช้งาน และเป็นเครื่องอบผ้าอัจฉริยะที่จะทำการประมวลผลเรื่องน้ำหนัก และพลังงานที่จำเป็นต้องใช้จากการใส่เสื้อผ้าเข้าไปในตัวเครื่อง ทำให้การทำงานของเครื่องอบผ้าเครื่องนี้ใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น เป็นอีกหนึ่งเครื่องอบผ้าที่ช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคู่คิด และช่วยทำให้ชีวิตของผู้ใช้สะดวกสบายได้น่าประทับใจทีเดียว
ข้อดี
– มีระบบในการจัดการตัวเครื่องที่ดี ทำให้มีเสียงรบกวนต่ำ
– เครื่องอบผ้าอัจฉริยะที่จะทำการประมวลผลเรื่องน้ำหนัก
– ประหยัดพลังงาน
ข้อเสีย
– ราคาสูง แต่น่าลงทุนในระยะยาว และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
8. Bosch WVG30460TH

ราคา: 39,900 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: –
ขนาด: 84.8 x 59.8 x 59 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: มี
ความจุ: ซัก 8 กก. / อบ 5 กก.
การรับประกัน: ตัวเครื่อง 2 ปี / มอเตอร์ 10 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
หากตอนนี้กำลังมองหาเครื่องอบผ้าสำหรับชีวิตคนเมือง ที่อาศัยอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด และเครื่องอบผ้านี้จะต้องดูเข้ากับบรรยากาศของห้องด้วยในขณะเดียวกัน Bosch WVG30460TH อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองหาอยู่ รูปแบบงานออกแบบของตัวเครื่องทันสมัย และสามารถทารอบผ้าให้แห้ง ไม่ชื้นได้ภายในเวลาไม่ถึง 60 นาที คุณแทบจะไม่ต้องนำผ้าที่อบจากเครื่องอบผ้านี้ ไปตากแดดอีกเลย โดยจุดน่าสนใจของเครื่องอบผ้ารุ่นนี้คือ การที่เครื่องอบผ้ามีฟังก์ชันในการทำงานที่เป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้งาน 2 ฟังก์ชันกัน แบ่งเป็นการอบผ้าแบบแห้งพิเศษ และแบบถนอมเนื้อผ้า ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกเพื่อให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการ และเนื้อผ้าได้เอง
ข้อดี
– ถนอมเนื้อผ้า
– ทางเลือกให้กับผู้ใช้งาน 2 ฟังก์ชัน
– อบผ้าแบบไม่ต้องไปตากเพิ่มเติมภายใน 60 นาที
ข้อเสีย
– มีเสียงรบกวนตลอดการใช้งาน
9. Electrolux EDH903BEWA

ราคา: 47,990 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: ระบบปั๊มความร้อน
ขนาด: 85 x 60 x 60 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: มี
ความจุ: 9 กก.
การรับประกัน: ตัวเครื่อง 2 ปี / มอเตอร์ 10 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
สำหรับแบรนด์ Electrolux เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีความเข้าใจในผู้บริโภค และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมฟังก์ชันในการทำงานได้ดีพอตัว ยิ่งสำหรับเทคโนโลยีในเครื่องอบผ้า Electrolux EDH903BEWA ก็จัดได้ว่าน่าประทับใจสำหรับคุณพ่อบ้าน และแม่บ้าน เนื่องจากเป็นการผลิตเครื่องอบผ้าที่ตอบโจทย์ได้ในหลายความต้องการได้อย่างครอบคลุม DelicateCare ที่จะทำให้ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป สำหรับการอบผ้าที่มีความพิเศษอย่าง ผ้าขนสัตว์ หรือผ้าไหม ที่จัดได้ว่าเป็นผ้าที่ต้องมีการดูแลดี ๆ โดยเฉพาะการนำมาอบแห้งกับเครื่องอบผ้านี้ เพราะหากมีความร้อนที่มากเกินไป ผ้าเองก็อาจจะยุบตัว และที่สำคัญก็อาจจะทำให้รูปทรงของตัวผ้าเสียทรงได้ง่าย แต่ด้วยเทคโนโลยีนี้ทำให้เพียงแค่คุณใส่ผ้าเข้าไป และเลือกประเภทในการอบให้เหมาะสม ก็ทำให้ตัวผ้าแห้ง ไม่ชื้น และไม่เสียทรงอีกด้วย
ความน่าสนใจของตัวเครื่องอบผ้าเครื่องนี้ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะเครื่องอบผ้ารุ่น Electrolux EDH903BEWA สามารถที่จะทำงานผ่านมือถือได้โดยตรง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน หรือเวลาใด ถ้ามีผ้าที่ใส่เข้าไปในตัวเครื่องแล้ว เผลอลืมเปิดทำงาน หรือต้องการรู้สถานะในการทำงานของตัวเครื่อง สามารถที่จะตรวจสอบได้โดยตรงจาก แอปพลิเคชัน Electrolux Life ที่ทำให้เรื่องอบผ้าที่อาจจะเป็นเรื่องต้องใส่ใจเป็นพิเศษในผ้าบางชนิด กลายเป็นเรื่องที่ง่าย และเหมือนมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลอยู่เคียงข้างเสมอ ทุกเรื่องสามารถเป็นเรื่องง่ายได้ถ้าเลือกใช้อุปกรณ์ที่เข้าใจ และเชี่ยวชาญอย่าง Electrolux EDH903BEWA
ข้อดี
– ระบบการจัดการเพื่ออบผ้าในแต่ละชนิด
– ควบคุมการทำงานได้ผ่าน แอปพลิเคชัน Electrolux Life
ข้อเสีย
– ราคาสูงเป็นพิเศษ
10. Bosch WTW85560TH

ราคา: 35,900 บาท
ประเภทเครื่องอบผ้า: ระบบปั๊มความร้อน
ขนาด: 84.2 x 59.8 x 59.9 ซม.
มีระบบป้องกันผ้ายับ: มี
ความจุ: 9 กก.
การรับประกัน: ตัวเครื่อง 2 ปี / มอเตอร์ 10 ปี
ตั้งเวลาล่วงหน้าได้: ทำได้
เทคโนโลยีที่นำเข้ามาเพิ่มในเครื่องอบผ้าทำให้การอบผ้าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย และสะดวกกับทุกคน ด้วย ระบบ Heat Pump ผสานกับเทคโนโลยี DuoTronic ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะทำหน้าที่เป็นเซนเซอร์ในการตรวจจับน้ำหนัก และอุณหภูมิของผ้า เพื่อให้ได้การอบผ้าที่มีความร้อนที่สมดุล และทำให้ผ้าแห้งโดยที่ไม่ทำร้ายเนื้อผ้าแต่อย่างใด ถ้ากำลังมองหาเครื่องอบผ้าที่ใช้งานง่าย และไม่ต้องควบคุม ดูแลเยอะ เครื่องอบผ้า Bosch WTW85560TH ก็เป็นตัวเลือกแรกที่อยากแนะนำ
นอกจากระบบที่เข้ามาเสริมการทำงานของเครื่องอบผ้ารุ่นนี้แล้ว ยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือ ระบบ Anti-Crease ที่จะลดปัญหาในเรื่องของผ้ายับตัวในขณะที่เครื่องกำลังทำการอบ ทันทีที่ผ้าได้ผ่านกระบวนการอบแห้งเรียบร้อยก็พร้อมสำหรับการดูแลในขั้นตอนต่อไปได้อย่างไม่ติดขัด เพราะจัดได้ว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานในการใช้เครื่องอบผ้าที่มักจะทำให้ผ้าพันกัน และเป็นรอยยับ ซึ่งจะเป็นปัญหาที่หนักสำหรับการรีดเพื่อให้ผ้าเรียบในภายหลัง การใช้เครื่องอบผ้าที่มีระบบ Anti-Crease ทำให้ช่วยลดขั้นตอนในการทำงานไปได้มากพอตัว
ข้อดี
– ระบบ Heat Pump ผสานกับเทคโนโลยี DuoTronic
– ระบบ Anti-Crease
ข้อเสีย
– ราคาที่สูง อยู่ในเกณฑ์เครื่องอบผ้าที่ระดับไฮคลาส
ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดของเครื่องอบผ้าที่น่าติดตาม และน่าซื้อมาไว้ใช้ที่บ้าน หรือห้องที่คุณต้องการ โดยจะสังเกตได้ว่าเครื่องอบผ้าแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นด้านฟังก์ชันในการใช้งาน หรือจะเป็นคุณสมบัติของตัวเครื่องที่มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร การเลือกซื้อเครื่องอบผ้าที่ดีควรจะพิจารณาจากประเภทของเครื่องอบผ้า และความจุ รวมไปถึงความต้องการในการใช้งาน ถ้าวิเคราะห์จากสิ่งเหล่านี้จะทำให้สามารถเลือกเครื่องอบผ้าได้เหมาะกับชนิดงาน และง่ายต่อการใช้งานของคุณได้ดีอีกด้วย