
การทำความสะอาดฟันเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น ที่สำคัญ คือ ต้องมีการตรวจสุขภาพช่องปากประจำปี เพื่อให้ฟันแข็งแรงอยู่คู่กับเราไปอย่างยาวนาน และปฏิบัติตามข้อแนะนำสำหรับความต่อเนื่องในการแปรงฟัน โดยต้องแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือก่อนนอน เพื่อไม่ให้คราบอาหารที่เรารับประทานในแต่ละวันเกิดการสะสมในซอกฟัน ส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมา ดังนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องมีตัวช่วยในการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ทุกการแปรงฟันจะทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม ไม่เหลือสิ่งตกค้าง กลิ่นปากหอมสดชื่น เผยรอยยิ้มอันสดใส และหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจในเวลานี้ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก นั่นก็คือแปรงสีฟันไฟฟ้านั่นเอง
แปรงสีฟันไฟฟ้าคืออะไร
อุปกรณ์ทำความสะอาดฟันและช่องปาก ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้า สามารถพกพาสะดวก ตอบสนองผู้ที่ต้องการทำความสะอาดฟันอย่างล้ำลึก โดยมีกระบวนการทำงาน คือ หัวแปรงจะมีแรงสั่นสะเทือน ซึ่งมีหน้าที่ในการกำจัดคราบต่าง ๆ และเศษอาหารที่อยู่ในซอกฟันให้หลุดออกมา เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย และสำหรับส่วนประกอบอื่น ๆ มีลักษณะเช่นเดียวกับแปรงธรรมดา แต่มีฟังชันก์ที่ซับซ้อนกว่า ต้องชาร์จไฟจึงจะสามารถใช้งานได้ และราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากมีการผสมผสานนำเทคโนโลยีเข้าไปในส่วนของการทำงาน
ข้อดี-ข้อเสียของแปรงสีฟันไฟฟ้า
แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยผลักดันทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกในยุคปัจจุบันนั้น มีความทันสมัย รวดเร็ว และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่ในขณะเดียวกันทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- ทำความสะอาดได้ล้ำลึก โดยส่วนใหญ่หากเราแปรงฟันด้วยแปรงฟันธรรมดาบริเวณซอกฟัน อาจจะไม่สะอาดเพียงพอ จำเป็นจะต้องใช้น้ำยาบ้วนปากร่วมด้วย แต่การใช้ไฟฟ้าเปรียบเสมือนการรวมนำเอาแปรงสีฟันธรรมดาร่วมกับน้ำยาบ้วนปาก เพิ่มประสิทธิภาพที่สูงขึ้นถึง 2 เท่า
- ผลิตขึ้นเพื่อคนที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง หลายคนที่ต้องเผชิญหน้ากับโรคที่ยากต่อการขยับหรือเคลื่อนไหวร่างกายด้วยตนเอง หรือผู้สูงอายุ เนื่องจากการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องออกแรง เพียงแค่ลากไปบริเวณที่ต้องทำความสะอาด
ข้อเสีย
- ส่งผลร้ายกับเหงือก การสั่นสะเทือนที่มากเกินไปอาจจะมีส่วนทำให้เหงือกมีปัญหา หากไม่มีการใช้อย่างระมัดระวัง
- ทำให้ฟันสึกง่าย เช่นเดียวกันแต่เหตุผลก่อนหน้า คือ แรงสั่นสะเทือนของแปรงสีฟันอาจรุนแรงกว่าที่เราแปรงเอง
- ราคาสูงและต้องเปลี่ยนหัวแปรงบ่อย
แปรงสีฟันไฟฟ้าต่างจากแปรงสีฟันธรรมดาอย่างไร
- ราคาและการใช้งาน การใช้แปรงสีฟันธรรมดาโดยทั่วไปจำเป็นที่จะต้องอาศัยเทคนิคในการแปรงฟัน เพื่อทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณ โดยต้องใช้เวลาประมาณ 2 นาทีใน 1 ครั้ง ซึ่งมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย มีสีสันสดใส ที่สำคัญ คือ พกพาสะดวก ทั้งรูปแบบธรรมดาหรือไฟฟ้า แต่มีความแตกต่าง คือ แปรงฟันธรรมดาไม่ใช้แบตเตอรี่และไม่ต้องชาร์จไฟ มีราคาถูกกว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าถึงหลายเท่าตัว นอกจากนั้น ยังต่างกันเรื่องเทคโนโลยีที่ใช้
- เวลาที่ใช้และความสะอาด สำหรับการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าจะมีระบบจับเวลาในตัว ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกังวลว่า เมื่อไหร่จะแปรงฟันเสร็จสักที อีกทั้งในแง่ของความสะอาดแปรงสีฟันไฟฟ้า สามารถเข้าถึงมุมที่เข้าถึงยากทำให้สะอาดมากกว่า
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การใช้แปรงสีฟันไม่ว่าจะรูปแบบใด จำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดอย่างล้ำลึกร่วมกับกับยาสีฟันที่มีประสิทธิภาพหรือน้ำยาบ้วนปาก เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งฟัน เหงือก และกระพุ้งแก้ม สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการหรืองบประมาณที่มีอยู่
วิธีเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า
ก่อนใช้งานต้องรู้วิธีการเลือกซื้อ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
- ขนาดหัวแปรง ควรเริ่มต้นที่ประมาณ 0.5-1 นิ้ว และความยาวประมาณ 1 นิ้ว เพราะเป็นขนาดที่สามารถเข้าถึงบริเวณที่เข้าถึงยาก ทำความสะอาดฟันได้ทุกที่
- ขนแปรง ขั้นแรกต้องรู้ถึงสภาพฟันของตนเองว่า เหมาะกับขนแปรงประเภทไหน เพราะในท้องตลาดมีขนแปรงให้เลือก ตั้งแต่ชนิดอ่อนนุ่ม อ่อนนุ่มพิเศษ กลางไปจนถึงแข็ง โดยเน้นวัสดุที่ถนอมเหงือก
- ด้ามจับ เน้นความแข็งแรง ความยาวพอเหมาะ
- แหล่งพลังงาน เลือกให้เหมาะสมตามการใช้งานของตนเอง เพราะแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีให้เลือก มีตั้งแต่การชาร์จด้วยปลั๊กไฟ การใช้ถ่าน และการใช้แบตเตอรี่
- ฟังก์ชันพิเศษ เป็นส่วนที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น แต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราในหลาย ๆ บริบท เช่น สามารถเลือกระดับความแรงของแปรงได้ มีตัวจับเวลาสำหรับการทำความสะอาดฟัน ด้ามจับที่ออกแบบมาให้กันน้ำ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับวงจรไฟฟ้าภายใน ที่สำคัญต้องอย่าลืมพิจารณาอัตราการสั่นของแต่ละรุ่น เพื่อให้แน่ใจว่า แรงสั่นสะเทือนจะไม่แรงเกินไปจนส่งผลทำให้มีส่วนในการทำร้ายเหงือกและฟัน
- มีเครื่องหมายที่ได้รับมาตรฐาน อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ต้องใช้กระแสไฟ จำเป็นที่จะต้องได้รับมาตรฐานและยอมรับโดยทั่วไปว่า สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
แนะนำแปรงสีฟันไฟฟ้า
2. Sparkle Sonic Toothbrush Daily White Plus
4. Xiaomi Mijia Toothbrush Soocare X3 Soocas
7. PHILIPS Sonicare รุ่น HX6857/30
9. SPARKLE Sonic Advanced Active รุ่น SK0375
10. Fairywill Sonic Electric Toothbrush
1. PHILIP Sonicare Elite

ข้อดี : แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบ SonicHX3215
ยี่ห้อ : PHILIP Sonicare Elite
จับเวลา : ตัวตั้งเวลากระตุ้นการแปรงฟันระยะเวลา 2 นาทีแบบละเอียด
แหล่งพลังงาน : แบตเตอรี่
ระบบสั่น : 62,000 ครั้ง ต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : ไม่มี
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงใหม่ทุก 3 เดือน
PHILIP Sonicare Elite ด้วยเทคโนโลยีพิเศษในการสั่นด้วยคลื่นโซนิค ช่วยให้ขนแปรงมีความถี่ในการทำความสะอาดต่อเนื่องสูงถึง 62,000 ครั้งต่อนาที ทำให้สามารถทำความสะอาดซอกฟันได้อย่างล้ำลึกและทั่วถึง พร้อมกับระบบจัดตั้งเวลาแบบละเอียด ส่งสัญญาณเมื่อครบกำหนด 2 นาที ใช้แบตเตอรี่ที่อึดและทนทาน เพราะชาร์จเพียง 1 ครั้งสามารถใช้งานได้นานถึง 14 วัน หัวแปรงที่สามารถเสียบเข้ากับด้ามยึดติดแน่น ง่ายต่อการดูแลทำความสะอาด หากใครที่เป็นมือใหม่ก็สามารถใช้งานได้ เนื่องจากมีระบบแนะนำและตัวเลือกสำหรับการปรับเปลี่ยนให้ได้ปฏิบัติตามในช่วง 14 วันแรก ช่วยให้การแปรงฟันกลายเป็นเรื่องง่ายและสะอาดล้ำลึกมากยิ่งขึ้น ใครที่กำลังมองหาตัวเลือกสำหรับเริ่มต้นพลาดไม่ได้
2. Sparkle Sonic Toothbrush Daily White Plus

ข้อดี : ฟันสะอาดยิ้มอย่างมั่นใจ
ยี่ห้อ : Sparkle Sonic Toothbrush Daily White Plus
จับเวลา : N/A
แหล่งพลังงาน : แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน ขนาด AAA
ระบบสั่น : ทำความสะอาด 22,000 ครั้งต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : ไม่มี
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงใหม่ทุก 3 เดือน
Sparkle Sonic Toothbrush Daily White Plus ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ฟันขาวขจัดคราบพลัคและผู้ที่จัดฟัน เพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึกด้วยการสั่นสะเทือนสูงถึง 22,000 ครั้งใน 1 นาที ซึ่งมีคุณสมบัติทำความสะอาดฟันได้อย่างล้ำลึก สามารถเปลี่ยนหัวแปลงได้ หากมีการใช้งานครบ 3 เดือน ดีไซน์ขนแปรงดูปองท์ไนลอนปลายกลมมน พร้อมความนุ่มของขนแปรง ช่วยให้ไม่มีผลกระทบต่อเหงือก ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างครบวงจร
3. Oral-B Braun Vitality

ข้อดี : ใช้งานง่าย
ยี่ห้อ : Oral-B Braun Vitality
จับเวลา : ตัวจับเวลา 2 นาที
แหล่งพลังงาน : ระบบชาร์จไฟ
ระบบสั่น : 7,600 ครั้งต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : ไม่มี
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนแปลงทุก 3 เดือน
Oral-B Braun Vitality แปรงสีฟันที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยและผู้เริ่มต้น สามารถใช้งานได้ง่าย แบตเตอรี่อึดและทน การชาร์จไฟ 1 ครั้ง สามารถใช้ได้ต่อเนื่องถึง 5 วัน โดยใน 1 วันสามารถแปลงได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที พร้อมด้ามจับที่ออกแบบมาให้กันลื่นและกันน้ำ ทำให้ตัวเครื่องสามารถล้างได้โดยตรง เพิ่มความพิเศษด้วยหัวแปรงดูปองท์นำเข้า สามารถทำความสะอาดได้อย่างแม่นยำ แม้จุดที่เข้าถึงยาก ได้รับการการันตี ไม่มีผลต่อการทำลายเหงือก ผสมผสานเทคโนโลยี 2D เพิ่มพลังในการทำความสะอาดสูงกว่าแปรงฟันธรรมดาถึง 2 เท่า อีกหนึ่งแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับ จากสมาคมทันตแพทย์อเมริกาแนะนำให้ใช้ โดดเด่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีกับการออกแบบที่เรียบง่าย พร้อมดูแลช่องปากในทุกซอกทุกมุม
4. Xiaomi Mijia Toothbrush Soocare X3 Soocas

ข้อดี : ขจัดคราบหินปูนหมดจด
ยี่ห้อ : Xiaomi Mijia Toothbrush Soocare X3 Soocas
จับเวลา : ตัวจับเวลา 2-2.30 นาที
แหล่งพลังงาน : แบตเตอรี่ลิเธี่ยม
ระบบสั่น : 37,200 ครั้งต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : หัวแปรง 3 ชนิด
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน
Xiaomi Mijia Toothbrush Soocare X3 Soocas แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จไฟไร้สายกันน้ำ โดดเด่นสามารถขจัดคราบหินปูนได้อย่างหมดจดและปลอดภัยสูง ปรับโหมดทำความสะอาดได้ทั้งหมด 4 โหมดได้แก่ โหมดทำงานปกติ โหมดดูแลเหงือก โหมดเพิ่มความขาว โหมดป้องกันยาสีฟันกระเด็น การชาร์จ 1 ครั้ง สามารถใช้งานได้ถึง 25 วันด้วยความจุแบตเตอรี่ 1,000 mAh พร้อมแท่นชาร์จไร้สายใช้เวลาชาร์จ 16 ชั่วโมง เพิ่มความพิเศษกับหัวแปรงอัจฉริยะนุ่มพิเศษนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ด้วยการสั่นสะเทือนที่ทำความสะอาดช่องปากได้ดีขึ้นสูงถึง 40% อีกทั้งยังมีฟังก์ชันเสริมที่สามารถควบคุมการทำงานผ่านแอป Soocare และ Mi Home ความสะดวกสบายด้วยระบบต้องเวลาแปรงฟัน ครบกำหนดเมื่อไหร่เตือนเมื่อนั้น เสริมด้วยตั้งเวลาแปรงลิ้นอีก 10 วินาที เรียกได้ว่าสะอาดหมดจดทุกซอกทุกมุม นอกจากนั้นหัวแปรงยังสามารถใช้งานได้แม้กระทั่งในน้ำ เพราะออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ในระดับน้ำลึก 1 เมตรนานถึง 30 นาที การันตีด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การแปรงฟันรูปแบบใหม่ช่วยทำความสะอาดในทุกอณู
5. SYSTEMA Sonic

ข้อดี : เสียงเงียบทรงพลัง
ยี่ห้อ : SYSTEMA Sonic
จับเวลา : N/A
แหล่งพลังงาน : ถ่านอัลคาไลน์
ระบบสั่น : N/A
อุปกรณ์เสริม : หัวแปรง 2 ชิ้น
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน
SYSTEMA Sonic คุณสมบัติของขนแปรงแหลมอ่อนนุ่ม ทำให้ทำความสะอาดฟันง่ายและไม่ทำร้ายเหงือก ซึ่งผลิตจาก Polybutylene Terephthalate มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูงและคงรูป ช่วยให้มีความคงทนในการใช้งาน พร้อมหัวแปรงชนิดพิเศษสามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ขนาดกำลังพอดีไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เสริมด้วยคอแปรงมีลักษณะเรียวยาว ผลิตจากวัสดุ Elastomer มีน้ำหนักเบาทำให้สะดวกต่อการใช้งาน พกพาสะดวกไปได้ทุกที่
6. Kemei รุ่น KM-907

ข้อดี : แปรงสีฟันไฟฟ้าไร้สายระบบอัลตร้าโซนิค
ยี่ห้อ : Kemei รุ่น KM-907
จับเวลา : 2 นาที ตัดทุก 30 วินาที
แหล่งพลังงาน : ระบบชาร์จไฟแบบอัลตร้าโซนิค
ระบบสั่น : 30,000 ครั้ง ต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : หัวแปรงอะไหล่ 3 ชุด
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน
Kemei รุ่น KM-907 สามารถทำความสะอาดซอกฟันได้ถึง 360 องศา ช่วยสร้างเสริมประสบการณ์การแปรงฟันที่สะดวกสบาย ขนแปรงนุ่มยืดหยุ่นกันน้ำได้แบบ 100% พร้อมระบบสั่งด้วยความถี่เสียงที่ไม่มีเสียงดังรบกวนขณะแปรงฟัน พกพาสะดวก น้ำหนักเบา ดีไซน์ทันสมัย สามารถปรับเปลี่ยนหัวแปรงได้ถึง 4 หัว พร้อมทั้งการทำงานในรูปแบบของระบบอัลตร้าโซนิค ไร้สายทำให้สะดวกต่อการใช้งาน เพื่อการทำความสะอาดสุดล้ำลึก
7. PHILIPS Sonicare รุ่น HX6857/30

ข้อดี : แรงลึกซอกทุกมุม
ยี่ห้อ : PHILIPS Sonicare รุ่น HX6857/30
จับเวลา : 2 นาทีต่อครั้ง
แหล่งพลังงาน : แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน
ระบบสั่น : 62,000 ครั้งต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : หัวแปลง 3 ชนิด กล่องเก็บสำหรับเดินทาง และที่ชาร์จ
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน
PHILIPS Sonicare รุ่น HX6857/30 โดดเด่นด้วยโหมดการทำงานสูงสุด 3 โหมด คือ Cleen เพื่อทำความสะอาดอย่างยอดเยี่ยมในทุก ๆ วัน Gum Care นวดเหงือก และสีขาวขจัดคราบบนผิวฟัน ด้วยความเร็วในการทำงานสูงถึง 62,000 ครั้งต่อนาที จึงทำให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกและสะอาดหมดจด ซึ่งมีผลทำให้สุขภาพเหงือกดีขึ้น สามารถลดอาการฟันผุได้เป็นอย่างดี พ่วงด้วยเทคโนโลยีเซนเซอร์อัจฉริยะ มีสัญญาณเตือนหากแปรงแรงเกินไป เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อเนื่องและฟันได้ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการแจ้งเตือนให้ทราบเมื่อหมดอายุการใช้งานของหัวแปรง โดดเด่นด้วยแบตที่อึดและทน การชาร์จไฟ 1 ครั้งสามารถใช้งานได้สูงถึง 14 วัน เหมาะสำหรับการใช้งาน ทั้งที่บ้าน และพกไปยังสถานที่ต่าง ๆ เนื่องจากดีไซน์ที่จับถนัดมือมี น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย
8. Lansung Sonic Ultrasonic

ข้อดี : แปรงสีฟันช่วยเพิ่มความขาว
ยี่ห้อ : Lansung Sonic Ultrasonic
จับเวลา : 2 นาที ต่อครั้ง
แหล่งพลังงาน : ระบบชาร์จไฟ
ระบบสั่น : 30,000 ครั้ง ต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : หัวแปรง 7 หัว
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน
Lansung Sonic Ultrasonic ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ความโค้งมนของแปรงที่สามารถเข้าสู่พื้นผิวฟันได้มากขึ้น ทั้งรูปแบบการตัดแบบรังสีไวโอเลต และดีไซน์โค้งตัว W พิเศษด้วยแปรงชนิดดูปองท์ สร้างผิวสัมผัสนุ่มลื่นไม่บาดเหงือก ทำความสะอาดหมดจด พร้อมระบบตอบสนองการทำงานที่ต่างกันถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดทำความสะอาด โหมดจดอ่อนโยน และโหมดนวด อุปกรณ์สำหรับชาร์จไฟที่ทนทาน เพราะการชาร์จ 1 ครั้งสามารถใช้งานได้ 20 วัน เก็บง่ายพกพาสะดวกด้วยแท่นชาร์จไร้สาย การันตีความปลอดภัยสูง ไม่มีโลหะเหนี่ยวนำ ที่สำคัญ คือ ถึงแม้ว่า จะมีระบบกันสั่นสูงถึง 30,000 ครั้งใน 1 นาที ไม่ต้องกังวลใจกับเสียงรบกวน นอกจากนั้นด้วยส่วนประกอบที่ออกแบบมาสามารถกันน้ำในระดับน้ำลึก 1 เมตร นาน 30 นาที ด้านนอกชุบเคลือบด้วยสารเคมีเฉพาะที่ต้านทานการกัดกร่อน รับรองความเสถียรของปุ่มช่วยให้แข็งแรงทนทาน ดีไซน์เรียบหรู สีสันสดใส
9. SPARKLE Sonic Advanced Active รุ่น SK0375

ข้อดี : สุดยอดโหมดทำความสะอาด 5 โหมด
ยี่ห้อ : SPARKLE Sonic Advanced Active รุ่น SK0375
จับเวลา : 3 นาที
แหล่งพลังงาน : ชาร์จจากปลั๊กไฟ
ระบบสั่น : 40,000 ครั้ง ต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : แท่นชาร์จ
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน
SPARKLE Sonic Advanced Active รุ่น SK0375 แปรงสีฟันไฟฟ้า เพื่อการทำความสะอาดที่สุดของฟันขาวที่สายรักฟันและใส่ใจสุขภาพช่องปากพลาดไม่ได้ เสริมทัพด้วยโหมดการใช้งานปรับได้ถึง 5 โหมด ช่วยให้การดูแลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ได้แก่ โหมดฟันขาวเป็นเงา โหมดดูแลความสะอาดโหมดดูแลอย่างอ่อนโยน โหมดนวดดูแลเหงือก และโหมดดูแลความสะอาดล้ำลึก เพื่อช่วยให้การทำความสะอาด ขจัดคราบพลัค ด้วยพลังการสั่นของหัวแปรงสูงถึง 40,000 ครั้งต่อนาที ออกแบบมาให้สามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้ พร้อมระบบตั้งเวลา 2 นาที ที่จะมีการเตือนเพื่อเปลี่ยนบริเวณทำความสะอาดทุก 30 วินาที พร้อมแท่นชาร์จรุ่นพิเศษชาร์จ 1 ครั้ง สามารถใช้งานได้นานถึง 21 วัน สามารถใช้งานในระดับน้ำลึก 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที ตัวเลือกดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการขจัดคราบพลัค ผู้ที่จัดฟัน และต้องการมีฟันขาวไม่ควรพลาด
10. Fairywill Sonic Electric Toothbrush

ข้อดี : การสั่นสะเทือนเสียงดังน้อยกว่า โหมดปรับ 5 โหมด
ยี่ห้อ : Fairywill Sonic Electric Toothbrush7
จับเวลา : 2 นาที
แหล่งพลังงาน : ใช้สาย USB แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน
ระบบสั่น : 40,000 ครั้ง ต่อนาที
อุปกรณ์เสริม : สายชาร์จพร้อมหัวแปรง 3 หัว
ข้อควรระวัง : ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน
Fairywill Sonic Electric Toothbrush เทคโนโลยีสุดล้ำ กับการสั่นสะเทือนที่รบกวนน้อย แต่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดด้วยไมโครความถี่สูง เห็นผลภายใน 1 สัปดาห์ พร้อมฟังก์ชันการทำงานสูงถึง 5 โหมดได้แก่ โหมดทำงานเข้มข้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีคราบหินปูนทำความสะอาดล้ำลึก, โหมดทำงานปกติ, โหมดทำงานอย่างอ่อนโยน, โหมดทำความสะอาดฟันหน้า และโหมดนวดเหงือก มาพร้อมกับดีไซน์ที่ช่วยให้พกพาสะดวก ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเพียง 0.55 กก. ทั้งหัวแปรงและด้ามออกแบบมาให้กันน้ำ พร้อมแบตเตอรี่ประหยัดพลังงาน ชาร์จ 1 ครั้งใช้งานได้ถึง 30 วัน การันตีว่า ช่วยขจัดคราบได้ 100% และด้วยคุณสมบัติสุดพิเศษในการกำจัดคราบจุลินทรีย์ได้มากกว่าแปรงสีฟันธรรมดาถึง 10 เท่า
สุขภาพปาก ฟัน เหงือก และกระพุ้งแก้ม เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากปล่อยให้มีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟัน จะก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดกลิ่นปาก คราบหินปูน คราบพลัค และปัญหาด้านอื่น ๆ อีกมากมาย หากปล่อยเอาไว้ก็จะกลายเป็นอาการเรื้อรังได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีการทำความสะอาดในยุคปัจจุบัน ที่ได้นำเอานวัตกรรมใหม่ ๆ ในการดูแลทำความสะอาดที่ล้ำลึกมากขึ้น หัวแปรงใช้พลังงานจากกระแสไฟฟ้า และหมุนด้วยความถี่มหาศาลใน 1 นาที เพื่อทำการขจัดคราบได้อย่าง ตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาตัวช่วยในการทำความสะอาดฟันให้ขาวสว่างกระจ่างใส ลดคราบหินปูน บำรุงเหงือกให้กลับมาแข็งแรง ดูดี เสริมรอยยิ้มสร้างความมั่นใจ
ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกับแปรงธรรมดาทั่วไปแล้วแปรงสีฟันไฟฟ้า อาจจะมีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่าหลายเท่าตัว แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและผลที่ได้รับ ก็คู่ควรที่จะนำมาใช้ ซึ่งสามารถหาได้ง่าย มีบางแบรนด์หรือบางยี่ห้อที่ราคาสามารถจับต้องได้ แต่ได้รับประสิทธิภาพแบบครบครัน หากถามใครสนใจสามารถทำการศึกษารายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าให้ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด และอย่าลืมตรวจสุขภาพฟันทุกปี เพื่อสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันนี้และตลอดไป