อุปกรณ์ที่คิดว่าหลายคนรู้จักกันดี และจัดได้ว่าเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่มีการใช้งานในเหตุการณ์เฉพาะอย่าง ไฟฉาย ที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่ไม่ได้มีกันในทุกบ้าน เนื่องจากโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันก็มีความสามารถที่หลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การฉายไฟ หรือการทำให้เกิดแสงสว่างในบางที่ที่ต้องการ
แต่อย่างไรก็ดีการมีอุปกรณ์อเนกประสงค์อย่าง ไฟฉายติดห้อง หรือบ้านเอาไว้ก็เป็นการเตรียมพร้อมที่ดี เพราะไม่มีทางรู้เลยว่าในบางสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไฟฉายอาจจะเป็นตัวช่วยที่หลายคนร้องเรียกหา แต่อย่างไรก็ดีไฟฉายไม่ได้มีเพียงแค่ประเภทเดียวเท่านั้น เพราะไฟฉายมีหลายรูปแบบที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน โดยหนึ่งในรูปแบบที่เรียกได้ว่ามีความนิยมไม่แพ้กับรูปแบบพกพาคือ ไฟฉายคาดหัว ที่จะเหมาะสำหรับเหล่าพนักงานก่อสร้าง, คนที่ออกไปเก็บผักตอนเช้ามืด, คนที่ไปเดินป่า หรือหนึ่งในภาพจำของคนที่ไปกรีดยาง พวกเขาเหล่านี้ก็มักจะใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการเพิ่มแสงสว่างเฉพาะจุด และใช้สองมือที่ว่างในการทำกิจกรรมอื่นประกอบได้อีกด้วย ซึ่งในบทความชิ้นนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับไฟฉายคาดหัวที่เป็นที่นิยม และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่มีตัวเลือกในใจ แต่กำลังหาข้อมูลของไฟฉายประเภทนี้อยู่ จะมีแบรนด์ใด รุ่นไหนบ้าง ไปติดตามกันได้
10 ไฟฉายคาดหัว
1. NexTool Nato Multi-functional Headlight
1. NexTool Nato Multi-functional Headlight

ราคา: 449 บาท
ความสว่าง: 170 ลูเมน
ระยะการส่องไกล: 50 เมตร
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: Type-C
หลายคนมักจะเข้าใจว่าไฟฉายคาดหัวมักจะต้องมีขนาดหลอดไฟที่ใหญ่ และทำให้ทุกครั้งที่ทำการใช้งาน ที่ต้องสวมใส่บนหัวมีอาการหนักบริเวณรอบศีรษะเป็นพิเศษ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไฟฉายคาดหัวมีหลายขนาด นอกจากแบบใหญ่ที่หลายคนเคยเห็นแล้ว ก็มีขนาดที่เล็ก กะทัดรัด และสวมใส่ง่ายอย่าง NexTool Nato Multi-functional Headlight ที่จะทำให้ทุกครั้งที่ได้สวมใส่บนศีรษะของคุณ ไม่หนักหัว และรู้สึกสบายเสียด้วยซ้ำ เพราะวัสดุที่รัดทำมาจากผ้าคุณภาพสูงที่ถ่ายเทได้เป็นอย่างดี อีกทั้งด้านฟังก์ชันการทำงานของไฟฉายรุ่นนี้ที่ถูกออกแบบมาในลักษณะหลอดไฟที่ส่องแสงตามแนวยาว ทำให้แสงส่องได้กว้างขึ้น ค่าความสว่างนั้นอยู่ที่ 170 ลูเมน แบตเตอรี่รวม 640 มิลลิแอมป์ สามารถที่จะใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 18 ชั่วโมง
ด้านการชาร์จพลังงานมาในรูปแบบของ Type-C ที่หลายคนรู้ดีว่าการชาร์จแบบ Type-C จะทำให้พลังงานสามารถเข้าไปยังอุปกรณ์ได้เร็วยิ่งขึ้น ถ้าทั้งหมดนี้เป็นส่งที่คุณประทับใจ และตามหาอยู่ ดูเหมือนนี่จะเป็นไฟฉายที่คุณจำเป็นต้องจดลงรายการสั่งซื้อเพิ่มเติม
ข้อดี
– กระจายแสงไฟในด้านข้างได้กว้างกว่าเดิม
– ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 18 ชั่วโมง
– ชาร์จแบบ Type-C
– วัสดุที่รัดทำมาจากผ้าคุณภาพสูงที่ถ่ายเท
ข้อเสีย
– หากสายชาร์จ Type-C หายจะหาอุปกรณ์มาชาร์จแทนค่อนข้างยาก เพราะเป็นลักษณะสายชาร์จที่มีจำกัด
2. BioLite HeadLamp 330

ราคา: 2,150 บาท
ความสว่าง: 330 ลูเมน
ระยะการส่องไกล: 75 เมตร
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: Micro USB
โดดเด่นเหนือใครด้วยความสามารถของการใช้งานที่ติดต่อกันได้มากถึง 40 ชั่วโมง ไฟฉายคาดหัวแบรนด์อเมริกาเครื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานให้เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีดีไซน์สุดแปลกตา ที่นำ 3D SlimFit เทคโนโลยีที่จะสนับสนุนการคาดศีรษะที่ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ หรือรัดกับหัวมากเกินไป ด้านฟังก์ชันในการทำงานที่เต็มเปี่ยม ความสว่างสูงสุดถึง 330 ลูเมน แบตเตอรี่ที่มีความจุ 900 มิลลิแอมป์ หากใช้งานในโหมดพลังงานอาจจะทำให้คุณสามารถมีไฟส่องสว่างจากไฟฉายที่คาดหัวของคุณได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง หรือเกือบสองวันกันเลย หากทั้งหมดเป็นสิ่งที่คุณกำลังตามหา การใส่ชื่อของ BioLite HeadLamp 330 ไปในรายการที่ต้องซื้อก็ดูเป็นทางออกที่น่าสนใจไม่น้อย
ข้อดี
– ดีไซน์แบบ 3D SlimFit เพื่อให้คาดหัวได้อย่างกระชับ
– สว่างสูงสุดถึง 330 ลูเมน
– ใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมง ในโหมดพลังงานต่ำ
– ชาร์จนั้นเป็นแบบ Micro USB
ข้อเสีย
–
3. NICRON H30F

ราคา: 1,299 บาท
ความสว่าง: 900 ลูเมน
ระยะการส่องไกล: 140 เมตร
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: Micro USB
NICRON เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เหล่าคนที่ใช้งานไฟฉายคาดหัวรู้จัก และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เนื่องจากแบรนด์นี้เป็นแบรนด์รุ่นบุกเบิกสำหรับไฟฉายประเภทนี้ทำให้มีประสบการณ์ และไฟฉายที่ตอบโจทย์กับลักษณะการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายได้ดี โดยจุดเด่นของไฟฉายรุ่น NICRON H30F ที่นำมาแนะนำกันในบทความนี้มีคุณสมบัติที่กันน้ำได้ถึงระดับ IPX8 ไม่ว่าคุณจะบังเอิญทำไฟฉายนี้ตกน้ำ และจมหาย น้ำเข้าไฟฉายจากทุกทิศ ไฟฉายรุ่นนี้จะไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และพร้อมสำหรับการทำงานต่อไปได้ นอกจากเรื่องคุณสมบัติกันน้ำได้ทุกส่วนแล้ว NICRON H30F ยังมีรูปแบบในการฉายไฟออกไปได้มากถึง 5 รูปแบบด้วยกันดังนี้ ไฟสูง, ไฟกลาง, ไฟต่ำ, ไฟกะพริบ และไฟ SOS ที่เรียกได้ว่ามีครบครันในไฟฉายคาดหัวเครื่องนี้ โดยที่ตัวเครื่องยังสามารถส่องสว่างสูง 900 ลูเมน พร้อมกับฟังก์ชันในการปรับเข้า และออกตามความต้องการของผู้ใช้งานได้ตามการใช้งาน
ข้อดี
– ใช้งานได้ถึง 50,000 ครั้ง
– ไฟฉายสามารถปรับได้ถึง 5 รูปแบบ
– สว่างสูง 900 ลูเมน
– กันน้ำที่ระดับสูงสุดถึง IPX8
– สามารถปรับซูมได้
ข้อเสีย
– อายุการใช้งานที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งจะแตกต่างกับไฟฉายรุ่นอื่นที่สามารถใช้ได้ยาวนานกว่า
4. MILWAUKEE L4HL-201

ราคา: 2,388 บาท
ความสว่าง: 475 ลูเมน
ระยะการส่องไกล: 52 เมตร
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: Micro USB
มาในดีไซน์ที่แปลกตา และชวนให้ตั้งคำถามเพราะด้วยรูปร่าง และงานออกแบบที่เหนือจินตนาการ แต่อย่างไรก็ดีความน่าสนใจของไฟฉายคาดหัวเครื่องนี้คือ ความสามารถในการทำงานที่หลากหลาย และตอบโจทย์สำหรับอาชีพช่างทุกประเภท ฟังก์ชันในการทำงานของไฟฉายรุ่นนี้คือ TRUEVIEW™ ที่ให้ความสว่างสูงถึง 475 ลูเมน ซึ่งจัดได้ว่าเป็นความสว่างที่ค่อนข้างมาก และตัวเครื่องมีแบตเตอรี่ที่อึดถึกเพียงพอใช้งานได้หลายชั่วโมง ระดับแสงได้ 3 รูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดีหนึ่งในสิ่งที่ดูเป็นก้าวใหม่ของวงการไฟฉายประเภทนี้คือ การการันตีความสามารถของการชาร์จแบตเตอรี่ที่ชาร์จเพียงชั่วโมงเดียวก็ทำให้แบตเตอรี่ของเครื่องเต็มได้แล้ว
ข้อดี
– TRUEVIEW™ ที่ให้ความสว่างสูงถึง 475 ลูเมน
– ปรับระดับแสงได้ 3 รูปแบบ
– ใช้เวลาน้อยในการชาร์จพลังงาน
– ดีไซน์แปลกตา
ข้อเสีย
– หัวชาร์จมีจำกัด เพราะในปัจจุบันผู้คนไม่เลือกใช้หัวชาร์จแบบ Micro USB แล้ว
5. LEOMAX 3909A

ราคา: 199 บาท
ความสว่าง: ไม่ระบุ
ระยะการส่องไกล: ไม่ระบุ
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: USB-A
จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในไฟฉายคาดหัวที่น่าติดตามเป็นพิเศษ เนื่องจากความสามารถในการทำงานของไฟฉายรุ่นนี้ที่สามารถปรับให้กับลักษณะงานที่หลากหลายได้ดี โดยตัวฉายสามารถที่จะถอดสายคล้องออก และใช้ถือเป็นไฟฉายแบบถือ พกพาได้ หรือจะทำการใส่สายคล้องแล้วคาดหัวเพื่อใช้เป็นไฟฉายคาดหัวที่เป็นฟังก์ชันหลัก หรือจะใช้แขวน และติดกับวัตถุก็ได้อีกเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถที่จะทำการดัดแปลงให้กับความต้องการได้ดีเยี่ยม ด้านฟังก์ชันการชาร์จไฟฉายรุ่น LEOMAX 3909A ก็ถือได้ว่าค่อนข้างชาร์จง่าย เพราะหัวในลักษณะนี้มีการใช้งานโดยทั่วไป
ข้อดี
– ราคาย่อมเยา
– ประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย
– ชาร์จแบตเตอรี่ง่ายผ่านพอร์ต USB
ข้อเสีย
– ไม่กันน้ำ ทำให้การใช้งานท่ามกลางสายฝน หรือโดนน้ำหกใส่อาจจะทำให้ตัวเครื่องเกิดปัญหาขึ้นได้
6. SBS

ราคา: 359 บาท
ความสว่าง: 1,000 ลูเมน
ระยะการส่องไกล: 200 เมตร
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: Micro USB
ใครที่ชื่นชอบในการใช้ไฟฉายประเภทนี้ และต้องการงานที่ประสิทธิภาพในการทำงานที่อยู่ระดับชั้นนำ ไฟฉายรุ่นนี้ถือได้ว่าตอบโจทย์คุณได้แน่นอน เนื่องจากสเปคของเครื่องกับราคาที่เริ่มเพียงหลักร้อย นี่คือไฟฉายที่ขายให้เกินคุ้มที่สุด เพราะหลอดไฟชนิด CREE XM-L T6 สามารถที่จะส่องแสงได้ 200 เมตร อีกทั้งยังปรับแนวทางการส่องแสงได้อีกในลักษณะ 90 องศา ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมง โดยมีรูปแบบของการส่องแสงสว่างได้ 3 ระดับตามความเหมาะสมของงานดังนี้ สว่างมาก สว่างน้อยและไฟกะพริบ ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่น่าจะเข้าใจผู้ใช้งาน และในราคาที่ย่อมเยา แต่ความสามารถของเครื่องที่เกินราคา ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งตัวที่ทำยอดขายได้ถล่มทลาย
ข้อดี
– หลอดไฟชนิด CREE XM-L T6 ส่องได้ไกลถึง 200 เมตร
– แบตเตอรี่ชนิด 18650 ถึง 2 ก้อน
– ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมง
– แสงไฟนั้นสามารถปรับได้ 3 รูปแบบ คือ สว่างมาก สว่างน้อยและไฟกะพริบ
ข้อเสีย
– ใช้งานเป็นลักษณะแบตเตอรี่ที่อาจจะไม่สะดวกเท่ากับการชาร์จพลังงาน
7. Randy RD-702

ราคา: 320 บาท
ความสว่าง: ไม่ระบุ
ระยะการส่องไกล: ไม่ระบุ
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: แท่นชาร์จภายนอก
ถ้าได้มีโอกาสในการตามอ่านรีวิวไฟฉายประเภทคาดหัวมาก่อนบ้าง นี่จะเป็นไฟฉายที่มีการพูดถึงมากที่สุดตัวหนึ่ง เพราะฟังก์ชันในการทำงานที่เพียบพร้อม ทำให้การมีไฟฉายรุ่นนี้ติดตัวเป็นความคิดที่ดี เพราะไฟฉายเลือกใช้หลอดไฟเลเซอร์ Osram chip LED คุณภาพดี มีแบตเตอรี่ภายในตัวถึง 2,200 มิลลิแอมป์ ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกการใช้งานจะไม่เกิดปัญหาแบตเตอรี่หมดก่อนที่งานจะเสร็จ เพราะด้วยปริมาณแบตเตอรี่ที่ให้มาสูงมาก สามารถที่จะใช้งานติดต่อกันได้หลายชั่วโมง
ข้อดี
– มีแบตเตอรี่ภายในตัวถึง 2,200 มิลลิแอมป์
– หลอดไฟเลเซอร์ Osram chip LED คุณภาพดี
– สามารถกันน้ำได้
ข้อเสีย
– เป็นไฟฉายที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก
8. BEEBEST FH100

ราคา: 499 บาท
ความสว่าง: 105 ลูเมน
ระยะการส่องไกล: ไม่ระบุ
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: Micro USB
ถ้าคุณต้องการไฟฉายลักษณะเป็นที่คาดติดกับหัว เน้นน้ำหนักที่เบา และกันได้ทั้งน้ำ และฝุ่น คุณสมบัติทั้งหมดนี้มีอยู่ในไฟฉายรุ่น BEEBEST FH100 เป็นไฟฉายคาดหัวที่มีรูปแบบของงานออกแบบที่ทันสมัย หรืออาจจะเรียกว่าล้ำสมัยเลยก็ว่าได้ ตัวไฟฉายมีน้ำหนักเพียง 27 กรัม ทำให้พอนำไปคาดกับหัว ทำให้รู้สึกไม่หนักมากจนเกินไป ในขณะเดียวกันคุณจะรู้สึกถึงน้ำหนักของสายรัดเสียมากกว่า ด้านฟังก์ชันในการทำงานของไฟฉายรุ่นนี้ กันฝุ่น และน้ำได้ที่ระดับ IP54 ที่ต่อให้คุณเผลอทำไฟฉายรุ่นดังกล่าวตกน้ำ หรือไม่ได้ทำความสะอาด และต้องหยิบมาใช้งานก่อน ก็ไม่ได้เป็นการลดทอนประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องลดลงแต่อย่างใด ความสว่างที่ 105 ลูเมน จาก CREE คุณภาพดี
ข้อดี
– ไฟฉายมีน้ำหนักเพียง 27 กรัม
– กันฝุ่น และน้ำได้ที่ระดับ IP54
– หลอดไฟสองสีที่มาจาก CREE คุณภาพดี
– ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา
ข้อเสีย
–
9. LEDLENSER MH11

ราคา: 5,200 บาท
ความสว่าง: 1,000 ลูเมน
ระยะการส่องไกล: 320 เมตร
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: แท่นชาร์จภายนอก
ไฟฉายรุ่นตัวยอดนิยม เนื่องจากฟังก์ชันในการทำงานที่ให้มา ไม่ว่าจะเป็น ใช้ชิป LED ที่ทางแบรนด์พัฒนาขึ้นเอง, แบตเตอรี่ 18650 คุณภาพดี, ระบบ Advance Focus System ที่ทำให้ซูมได้ และปรับสีไฟได้ถึง 3 สี ได้แก่ สีแดง สีเขียว และสีฟ้า ด้วยความสามารถทั้งหมดนี้ที่มีในไฟฉายรุ่น LEDLENSER MH11 ทำให้กลายเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของคนที่ต้องการไฟฉายระดับมืออาชีพ
ข้อดี
– ปรับสีไฟได้ถึง 3 สี ได้แก่ สีแดง สีเขียว และสีฟ้า
– ความสว่างสูงสุดถึง 1,000 ลูเมน
– ระบบ Advance Focus System ที่ทำให้ไฟฉายสามารถซูมได้
ข้อเสีย
–
10. NatureHike NH00T002-D

ราคา: 940 บาท
ความสว่าง: 140 ลูเมน
ระยะการส่องไกล: 35 เมตร
พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่: Micro USB
หากกังวลเรื่องของการสวมใส่ไฟฉาย และจะรู้สึกหนักที่หัว หรือโดนบีบที่ศีรษะ สิ่งนั้นอาจจะเกิดขึ้นกับการใช้งานของไฟฉายตัวอื่น แต่ไม่ใช่สำหรับไฟฉายรุ่นนี้ NatureHike NH00T002-D แน่นอน เพราะตัวเครื่องที่ถูกออกแบบมาเพื่อการสวมใส่เป็นเวลานาน เน้นความสะดวกสบาย และน้ำหนักเบา ทำให้ปัญหาเรื่องของการรัดรอบศีรษะไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลของไฟฉายรุ่นนี้ ฟังก์ชันการทำงานมีหลอดไฟเป็นหลอดชนิด LED คู่ ที่ให้ความสว่างสูงสุด 140 ลูเมน ที่ให้แสงไฟที่เพียงพอไม่ได้มากเกินไป หรือน้อยไป หากเลือกที่จะใช้งานในโหมดประหยัดพลังงาน ตัวไฟฉายมีความสามารถในการมอบแสงสว่างที่ยาวนานต่อเนื่องได้ถึง 8 – 12 ชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 1,200 มิลลิแอมป์เลยทีเดียว และอีกจุดเด่นของไฟฉายรุ่นนี้คือ เป็นไฟฉายขนาดเล็กที่กันน้ำได้ดีเยี่ยมด้วยการกันน้ำที่ระดับ IPX6
ข้อดี
– การกันน้ำที่ระดับ IPX6
– ใช้ต่อเนื่องได้ถึง 8 – 12 ชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 1,200 มิลลิแอมป์
– ความสว่างสูงสุด 140 ลูเมน
– น้ำหนักเบา สะดวกสบายเวลาใช้งาน
ข้อเสีย
– หาหัวชาร์จมาใช้งานด้วยค่อนข้างยาก
ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดของไฟฉายประเภทคาดหัวที่มักจะไม่ได้มีความนิยมในหมู่ผู้ใช้งานมักนัก แต่ก็มีตลาดที่แข็งแรงของตัวเอง ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังมองหาไฟฉายประเภทนี้ หวังว่าบทความชิ้นนี้จะมีประโยชน์ช่วยให้คุณได้ตัดสินใจง่ายขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย สามารถติดตามบทความดี ๆ ในลักษณะนี้อีกได้ผ่านช่องทางเดียวกันนี้