
โทรศัพท์ Huawei หรือ “หัวเว่ย” ได้ชื่อว่าเป็นค่ายโทรศัพท์มือถือจากประเทศจีน ที่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณภาพของสินค้าในปัจจุบัน ไม่ได้ด้อยกว่าคุณภาพของค่ายคู่แข่งแต่อย่างใด ซึ่งปัจจุบันทางด้าน หัวเว่ย ยังเตรียมความพร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้สินค้าตรงตามจุดประสงค์การใช้งาน โดยจุดเด่นของมือถือจากค่ายนี้คือ กล้องถ่ายรูป โดยเรียกได้ว่าเป็นค่ายมือถือที่เน้นการพัฒนากล้องถ่ายรูปมาโดยตลอด ซึ่งสอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำในยุค Social Media และ New Normal ดังนั้นวันนี้เราจึงคัด 10 รุ่นจาก หัวเว่ย ที่กำลังมาแรง และยังเป็นสินค้าขายดี เพื่อช่วยให้การตัดสินใจของทุกคนก่อนซื้อโทรศัพท์ง่ายมากขึ้น
โดย 10 อันดับ โทรศัพท์ Huawei มาแรงไม่ตกเทรนด์ ที่ควรจับจอง มีดังนี้
1. Huawei P20 Pro
สำหรับรุ่นนี้มีความน่าสนใจไม่น้อยหน้ารุ่นอื่น หรือจากค่ายอื่น ถึงแม้จะคลอดออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2018 ก็ตาม จุดเด่นนั้นยังคงเป็น “กล้อง” แต่ความแตกต่างของกล้อง และถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างมากคือ ทาง หัวเว่ย ตัดสินใจจับมือกับ leica บริษัทผลิตกล้องเจ้าดังระดับโลก ร่วมกันพัฒนากล้องที่ดีที่สุดในบรรดามือถือทุกรุ่น เพื่อให้ได้กล้องที่เต็มไปด้วยคุณภาพตัวแรก ส่งผลให้ในเวลานี้ทุกคนต่างลงความเห็นว่า P20 Pro คือโทรศัพท์ที่มาพร้อมกับกล้องระดับเทพของจริง ส่วนบอดี้ออกแบบได้สวยใช่เล่น พร้อมกับเล่นสีตั้งแต่ข้างล่างจนถึงข้างบน ซึ่งรายละเอียดรุ่น P20 Pro มีดังนี้

ยี่ห้อ : Huawei
รุ่น : P20 Pro
ระบบปฏิบัติการ : Android 8.1 Oreo
หน้าจอ : 6.1 นิ้ว ความคมชัด 1,080 x 2,240 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : Kirin 970
หน่วยความจำ : Ram 6 GB Rom 128 GB
กล้อง : กล้องหลัง 3 ตัว ความชัดอยู่ที่ 40 +8 +20 MP กล้องหน้า 24 MP
แบตเตอรี่ : 4,000 มิลลิแอมป์
Port เชื่อมต่อ : USB-C
สี : ดำ, ฟ้า, Twilight
ราคา : เปิดตัวอยู่ที่ 27,990 บาท
ข้อดี
1. กล้อง AI เปิด-ปิดได้ง่าย
2. ความเร็วในการทำงานถือว่าทำได้ดี เมื่อใช้งานทั่วไป
3. บอดี้ทนต่อรอยขีดข่วนเพราะทำจาก Gorilla Glass
4. กันน้ำลึกที่ 1 เมตร และมีระบบป้องกันละอองฝุ่นเพิ่มเข้ามา
5. ระบบความปลอดภัยมาพร้อมทั้งสแกนหน้า, ลายนิ้วมือ
6. รองรับ 2 ซิม
ข้อเสีย
1. มีอาการกระตุกเมื่อใช้ Google เนื่องจากยังไม่มีฟังก์ชันรองรับ Google Mobile Services
2. HUAWEI P30 Pro
จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ หัวเว่ย เปิดตัวออกมาได้อย่างร้อนแรงสุด ๆ เพราะกระชากใจชาวสมาร์ตโฟนได้อย่างดีทีเดียว ซึ่งถึงแม้ว่า P30 Pro จะเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 แต่จนถึงทุกวันนี้ยังคงเป็นที่นิยมเหมือนเดิม เนื่องจากได้ชื่อว่า “ดีที่สุดในโลก” นั่นเอง โดยเฉพาะกล้อง ซึ่ง หัวเว่ย ไม่เคยทำพลาดหรือทำให้ใครๆ ต้องรู้สึกผิดหวังกับความคมชัดแน่นอน ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ของตัว P30 Pro มีดังนี้

ยี่ห้อ : HUAWEI
รุ่น : P30 Pro
ระบบปฏิบัติการ : Android 9 (Pie)
หน้าจอ : 6.47 นิ้ว ความคมชัด 2,340 x 1,080 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : HiSilicon Kirin 980 Octa Core ความเร็ว 2.6 GHz
หน่วยความจำ : Ram 8 GB Rom 256 GB
กล้อง : กล้องหลัง 3 ตัว ความชัดอยู่ที่ 40+20+8 MP กล้องหน้า 32 MP
แบตเตอรี่ : 4,200 มิลลิแอมป์
Port เชื่อมต่อ : USB-C 3.0
สี : ดำ, ส้มอำพัน, ขาวไข่มุก, ฟ้าชมพู และสีฟ้าน้ำทะเล
ราคา : เปิดตัวอยู่ที่ 31,990 บาท
ข้อดี
1. การทำงานรวดเร็วกว่า P20 Pro อย่างเห็นได้ชัด
2. การใช้งานถือว่าไปได้ดี เพราะเครื่องไม่ร้อนไว
3. แบตใช้งานได้นาน
4. การป้องกันถือว่าทำได้ดีเพราะกันน้ำลึกชั่วคราวได้ 2 เมตร อีกทั้งยังติดออปชันป้องกันฝุ่นมาให้อีกด้วย
5. รองรับการชาร์จเร็วและระบบไร้สาย
ข้อเสีย
1. กล้องหน้ายังไม่รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K
2. ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
3. ไม่มีลำโพงสเตอร์ริโอ
3. HUAWEI Y7a
ถึงแม้ Y7a จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรุ่นเล็กของค่ายหัวเว่ย แต่สเปคที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดกลับครบเครื่องเกินตัว เพราะมีดีไซน์หน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมกับความคมชัดในระดับ FHD+ ส่วนบอดี้โดดเด่นอย่างมากกับการไล่เฉดสีสวยงาม ช่วยยกระดับให้มีความหรูหราเพิ่มมากขึ้น ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่เจ้า Y7a ตัวนี้ ยังคงเป็นที่นิยมของสาวก หัวเว่ย ติดลำดับต้น ๆ มาตั้งแต่วันเปิดตัวเมื่อปลายปี 2020 ส่วนรายการละเอียดของตัวเครื่องมีดังนี้

ยี่ห้อ : HUAWEI
รุ่น : Y7a
ระบบปฏิบัติการ :EMUI 10.1 Based On Android 10
หน้าจอ : 6.67 นิ้ว ความคมชัด 1,080 x 2,400 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : Kirin 710A Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz
หน่วยความจำ : Ram 4 GB Rom 128 GB
กล้อง : กล้องหลัง 4 ตัว ความชัดอยู่ที่ 48+8+2+2 MP กล้องหน้า 8 MP
แบตเตอรี่ : 5,000 มิลลิแอมป์
Port เชื่อมต่อ : USB-C 3.0
สี : ดำ ชมพู เขียว
ราคา : เปิดตัวที่ 5,999 บาท
ข้อดี
1. หน้าจอใหญ่และมีความคมชัดมากขึ้น ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม
2. ความเร็วในการทำงานดีขึ้นในราคาคุ้มค่า
3. แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน และยังรองรับการชาร์จเร็ว 22.5W อีกด้วย
ข้อเสีย
1. ไม่รองรับ wi-fi ในคลื่นความถี่ 5 GHz
2. ไม่รองรับ Google Mobile Services
3. ไม่รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K
4. ไม่มีระบบกันสั่นเวลาถ่ายภาพ
4. HUAWEI Mate 40 Pro
ตัวนี้จัดอยู่ในหมวดเรือธงของ หัวเว่ย อีกรุ่น ซึ่งถือว่าเป็นอีกรุ่นที่มีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เพราะเป็นการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา ช่วยเพิ่มความหรูหราเพิ่มขึ้นไปอีก โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Horizon Display ขอบโค้งได้ใจ ส่วนระบบการทำงานเรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าเรือธงจากค่ายอื่น ๆ แม้แต่น้อย เพราะตอบสนองต่อการสัมผัสลื่นไหลต่อเนื่องโดยไม่มีสะดุด ซึ่งรายละเอียดของ Mate 40 Pro มีดังนี้

ยี่ห้อ : HUAWEI
รุ่น : Mate 40 Pro
ระบบปฏิบัติการ :EMUI 11 Based On Android 10
หน้าจอ : 6.76 นิ้ว ความคมชัด 1,344 x 2,772 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : Kirin 9000 5G Octa Core ความเร็ว 3.13 GHz
หน่วยความจำ : Ram 8 GB Rom 256 GB
กล้อง : กล้องหลัง 3 ตัว ความชัดอยู่ที่ 50+20+12 MP กล้องหน้า13 MP
แบตเตอรี่ : 4,400 มิลลิแอมป์ Li-Pol
Port เชื่อมต่อ : USB-C 3.1
สี : ดำ, เงิน
ราคา : เปิดตัวที่ 34,990 บาท
ข้อดี
1. การดีไซน์ออกมาทันสมัยดูหรูหรา
2. หน้าจอใหญ่รองรับการใช้งานได้ลงตัว
3. กล้องตอบโจทย์การถ่ายถาพได้ดี
4. แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควร
5. รองรับการชาร์จไว รวมถึงการชาร์จแบบไม่มีสาย
6. ระบบกันฝุ่น และกันน้ำมีประสิทธิภาพสูง
ข้อเสีย
1. ไม่มีบริการของ Google Mobile Services
2. น้ำหนักของตัวเครื่องรวมแบตถือว่าหนักมากเกินไป
5. HUAWEI P40 Pro
เป็นอีกรุ่นที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเรือธงของค่าย หัวเว่ย ด้วยระบบการทำงานที่ยกของดีมาไว้ในเครื่องเดียว พร้อมความหรูหราอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งระบบการตอบสนองรวดเร็วทันใจ จนทำให้การทำงานไหลลื่นมากขึ้น ส่วนเรื่องกล้องยังคงไว้ใจ หัวเว่ย ได้เหมือนเดิม หลังจากจัดกล้องหลัง 4 ตัว ซึ่งมีทั้งเลนส์ Vision Sensor, periscope, Ultra wide และ Tof 3D ซึ่งทำให้หลายคนลืมกล้องหนัก ๆ ที่เคยแบกไปได้เลย ส่วนเรื่องรายละเอียดของ P40 Pro มีดังนี้

ยี่ห้อ : HUAWEI
รุ่น : P40 Pro
ระบบปฏิบัติการ : EMUI 10.1 Based On Android 10
หน้าจอ : 6.58 ความคมชัด 1,200 X 2,640 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : Kirin 990 5G Octa Corr ความเร็ว 2.85 GHz
หน่วยความจำ : Ram 8 GB Rom 256 GB
กล้อง: กล้องหลัง 4 ตัว ความคมชัด 50+12+40+TOF 3D MP กล้องหน้าความคมชัดที่ 32 MP
แบตเตอรี่ : 4,200 มิลลิแอมป์ Li-Pol
Port เชื่อมต่อ : USB-C 3.1
สี : ดำ, ขาว, น้ำเงิน, เทา, ทอง
ราคา : เปิดตัวที่ 31,990 บาท
ข้อดี
1. ช่วยให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี GPU Turo 3.0
2. ช่วยให้การถ่ายภาพไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป
3. แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
4. รองรับการชาร์จเร็ว และชาร์จไร้สาย
ข้อเสีย
1. ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
2. การเพิ่มหน่วยความจำเสริมยังบังคับใช้แค่ Nano Memory Card เท่านั้น
3. ไม่มีฟังก์ชันใช้งาน Google Play Services
6. HUAWEI nova 7 SE
มือถือคุณภาพระดับเทพของค่ายที่มีจุดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายรูป และยังมีประสิทธิภาพในการทำงานที่เหนือชั้น โดยมาพร้อมกับบอดี้สีสันสวยงามแบบไล่เฉดสี ในขณะที่หน้าจอยังอยู่ในระดับ 6.53 นิ้ว พร้อมกับแสดงผลด้วยความคมชัดในระดับ Full HD+ ส่วนเรื่องของคุณภาพกล้อง ยังคงไว้ใจได้ค่ายมือถือเจ้านี้ได้เหมือนเดิม เพราะทางด้าน หัวเว่ย ตั้งใจใส่มาให้ถึง 5 ตัว ด้วยกันรวมหน้า-หลัง อีกทั้งยังเพิ่มจุดเด่นที่ถูกใจยูทูปเบอร์มากขึ้น ด้วยลูกเล่นสามารถบันทึกภาพวิดีโอ 4K ส่วนเรื่องการชาร์จถือว่าเป็นสิ่งที่ หัวเว่ย ทำได้ดีเช่นเดียวกัน เพราะจัดออปชันรองรับการชาร์จเร็วเข้ามา ช่วยให้การใช้งานไหลลื่นมากขึ้น ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ มีดังนี้

ยี่ห้อ : HUAWEI
รุ่น : nova 7 SE
ระบบปฏิบัติการ : EMUI 10.1 Based On Android 10
หน้าจอ : 6.5 นิ้ว ความคมชัดอยู่ที่ 1,080 x 2,400 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : Kirin 820 5G Octa Core ความเร็ว 2.36 GHz
หน่วยความจำ : Ram 8 GB Rom 128 GB
กล้อง : กล้องหลัง 4 ตัว ความคมชัดอยู่ที่ 64+8+8+2 MP กล้องหน้า 32 MP
แบตเตอรี่ : 4,ooo มิลลิแอมป์ Li-Pol
Port เชื่อมต่อ : USB-C 2.0
สี : เขียว , เงินหม่น
ราคา : เปิดตัว 11,990 บาท
ข้อดี
1. หน้าจอใหญ่ช่วยให้การทำงานไหลลื่นมากขึ้น
2. รองรับการชาร์จไว 40W ซึ่งใช้เวลาชาร์จ 0-70 % ภายในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น
3. กล้องยังเป็นจุดแข็งเหมือนเดิม แม้ว่าสเปคส่วนอื่น ไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเรือธงก็ตาม
4. รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K รวมถึงมีฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย
ข้อเสีย
1. ยังคงไม่มี Google Play Services เหมือนเดิม
2. ไม่มีอุปกรณ์กันน้ำและฝุ่น
3. มีปัญหาในเรื่องถ่ายภาพตอนกลางคืน
7. HUAWEI nova 7 5G
มือถือที่ทางหัวเว่ยจัดสิ่งดี ๆ เข้ามาในเครื่องหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกล้องถ่ายรูป และเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงานโดดเด่น และเรียบง่ายมากขึ้น ด้วยบอดี้ที่โดดเด่น โดยยึดความหรูหราเข้ามาช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ตัวเครื่อง ส่วนการแสดงผลหน้าจอถือว่าทำได้ดี เพราะเพิ่มหน้าจอให้มีขนาด 6.53 นิ้ว พร้อมแนบความคมชัดในระดับ full HD+ นอกจากนั้นยังรองรับการชาร์จเร็ว 40W อีกทั้งทำให้การทำงานไหลลื่นมากขึ้น ด้วยการเพิ่มระบบรับสัญญาณ 5 GB ส่วนรายละเอียดของตัวเครื่องมีดังนี้

ยี่ห้อ : HUAWEI
รุ่น : nova 7 5G
ระบบปฏิบัติการ : EMUI 10.1 Based On Android 10
หน้าจอ : 6.53 นิ้ว ความคมชัดอยู่ที่ 1,080 x 2,400 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : Kirin 985 Octa Core ความเร็ว 2.5836 GHz
หน่วยความจำ : Ram 8 GB Rom 256 GB
กล้อง: กล้องหลัง 4 ตัว ความคมชัดอยู่ที่ 64+8+8+2 MP กล้องหน้า 32 MP
แบตเตอรี่ : 4,000 มิลลิแอมป์
Port เชื่อมต่อ : USB-C 2.0
สี : ม่วง, เงินหม่น
ราคา : 16,990 บาท
ข้อดี
1. การทำงานไหลลื่นมากขึ้นจากการเพิ่มตัวรับสัญญาณ 5G
2. ถ่ายรูปได้สวยตามที่ต้องการจากความละเอียดรวมกันมากถึง 82 MP
3. ประหยัดเวลาและสามารถใช้งานได้ในเวลาเร่งด่วน จากฟังก์ชันชาร์จเร็ว 40W
4. หน้าจอใหญ่ขึ้นทำให้การทำงานทำได้ง่ายมากขึ้น
ข้อเสีย
1. ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
2. ยังไม่มีบริการ Google Play Services
3. มีแอปที่เกินความจำเป็นมากเกินไป
8. HUAWEI Y6p

สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่อยู่ในโหมดประหยัดงบประมาณ เพราะราคาไม่ได้สูงมาก แต่คุณภาพกลับอัดแน่นสุด ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ และครบถ้วนทุกการใช้งาน โดยจุดเด่นของ Y6p นอกจากตัวกล้องทั้งหน้าและหลังแล้ว จุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างคือสีสันบอดี้ที่ หัวเว่ย ตั้งใจนำเสนอ ส่วนรายละเอียดมีดังนี้
ยี่ห้อ :HUAWEI
รุ่น : Y6p
ระบบปฏิบัติการ : EMUI 10.1 Based On Android 10
หน้าจอ : 6.3 นิ้ว ความคมชัดอยู่ที่ 720 x 1,600 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : Mediatek MT6762 Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz
หน่วยความจำ : Ram 4 GB Rom 64 GB
กล้อง: กล้องหลัง 3 ตัว ความคมชัดอยู่ที่ 13+5+2 MP กล้องหน้า 8 MP
แบตเตอรี่ : 5,000 มิลลิแอมป์ li-pol
Port เชื่อมต่อ : Micro USB 2.0
สี : ดำ ม่วง, เขียว
ราคา : 3,999 บาท
ข้อดี
1. ราคาไม่แพง
2. การใช้งานพื้นฐานบนสมาร์ตโฟนหัวเว่ยตอบโจทย์ได้ดี
3. กล้องที่ให้มาสามารถตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี ในราคาจับต้องได้
4. สามารถใช้งานได้นานขึ้น เพราะแบตเตอรี่มีความจุมากถึง 5,000 มิลลิแอมป์
ข้อเสีย
1. ยังไม่รองรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
2. ไม่รองรับฟังก์ชันชาร์จไว
3. ยังมีปัญหาการใช้ Google Mobile Services
4. ความละเอียดหน้าจอยังเป็นแค่ HD+
9. HUAWEI Y6 (2019)
สำหรับรุ่นนี้ยังคงอยู่ในระดับกลาง ซึ่งทาง หัวเว่ย ออกแบบมาเพื่อให้การใช้งานโทรศัพท์มือถือพื้นฐานใช้งานได้ง่ายเหมือนเดิม แต่เพิ่มลูกเล่นด้วยดีไซน์ที่ให้เห็นถึงความหรูหรา ในราคาที่หาคบหาสุด ๆ พร้อมกันนั้นยังชูจุดเด่นด้วยกล้องหน้าหลังสุดเฉี่ยวมากขึ้น พร้อมกับหน้าจอที่แสดงผล FullView Display ด้วยขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงานของโทรศัพท์เป็นอีกรุ่นที่แฟนหัวเว่ยยังให้ความนิยมอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ ของ Y6 (2019) มีดังนี้

ยี่ห้อ : HUAWEI
รุ่น : Y6 (2019)
ระบบปฏิบัติการ : Android 9 Pie
หน้าจอ : 6.09 ความคมชัดที่ 720 x 1,560 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio A22 MT6761
หน่วยความจำ : Ram 3 GB Rom 32 GB
กล้อง : กล้องหลังความคมชัดที่ 13 MP และกล้องหน้าความคมชัดที่ 8 MP
แบตเตอรี่ : 3,020 มิลลิแอมป์
Port เชื่อมต่อ : Micro USB 2.0
สี : ดำ น้ำเงิน
ราคา : เปิดตัวที่ 3,999 บาท
ข้อดี
1. สามารถถ่ายโอนข้อมูลกับ Flash Drive ได้โดยตรง
2. การใช้งานได้นานมากขึ้น เพราะให้ความจุแบตเตอรี่มากถึง 5,000 มิลลิแอมป์
3. สามารถถ่ายภาพได้กว้างมากขึ้น จากเลนส์ Wide ซึ่งกว้างถึง 120 องศา
4. ให้การเล่นเกมสนุกมากขึ้นทั้งหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมความชัด Full HD+
5. มีเทคโนโลยี GPU Turbo มาให้
ข้อเสีย
1. ยังมีปัญหาในเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อ หลังยังเป็นแค่ Micro USB 2.0 เท่านั้น
2. ไม่รองรับการชาร์จเร็ว
3. ไม่รองรับ Near Field Communication (NFC) หรือเทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สายระยะใกล้
10. HUAWEI Nova 3e (P20 Lite)
ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจแม้ว่าเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 แต่ปัจจุบันยังคงเป็นที่นิยมเหมือนเดิม ด้วยจุดเด่นคือการถ่ายเซลฟี ซึ่งทำให้ภาพจากกล้องหน้าของคุณดูดีขึ้นจากเดิมทันตาเห็น ด้วยรูปลักษณ์สะดุดตา จากการใส่กระจกเพิ่มความโดดเด่นที่ฝาหลัง พร้อมยังใจดีใส่ความจุมาให้ถึง 128 GB ซึ่งทำให้การจัดเก็บรูปต่าง ๆ ได้จุดใจมากขึ้น นอกจากนั้นเจ้า Nova3e ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นร่างอวตารของ P20 อีกด้วย ส่วนรายละเอียดของรุ่นนี้มีดังนี้

ยี่ห้อ : HUAWEI
รุ่น : Nova3e (P20 Lite)
ระบบปฏิบัติการ : Android 8.0 Oreo
หน้าจอ : 5.84 นิ้ว ความคมชัด 2,280 x 1,080 พิกเซล
หน่วยประมวลผล : Kirin 659
หน่วยความจำ : Ram 4 GB Rom 128 GB
กล้อง : กล้องหลัง 2 ตัว ความคมชัดที่ 16+2 MP และกล้องหน้า 24 MP
แบตเตอรี่ : 3,000 มิลลิแอมป์
Port เชื่อมต่อ : USB-C 2.0
สี : ดำ ชมพู ฟ้า
ราคา : เปิดตัวที่ 10,990 บาท
ข้อดี
1. ทำให้การถ่ายเซลฟีง่ายมากขึ้น หลังเพิ่ม Light Fusion มาให้
2. สำหรับตัวเครื่องถือว่าทนทานเพราะทำมาจากกระจกแข็ง
3. หน้าจอน่าใช้เพราะมีความละเอียด FHD+
4. รองรับการชาร์จเร็ว
5. ราคาสมเหตุสมผล
ข้อเสีย
1. ระบบปฏิบัติการที่ให้มาไม่เหมาะกับการเล่นเกม
2. ไม่รองรับ Full Netcom 3.0
สำหรับ “โทรศัพท์ Huawei” ทุกรุ่นที่ออกมายังคงเป็นที่นิยมต่อเนื่อง ไม่แพ้ค่ายมือถือระบบปฏิบัติการ Android อื่น ๆ เนื่องจากจุดเด่นที่หัวเว่ยใช้เป็นตัวชูโรงเป็นพิเศษมาโดยตลอดคือ “กล้องถ่ายรูป” ซึ่งที่ผ่านมาสามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้ตรงใจมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าหรือกล้องหลัง ส่วนการใช้งานพื้นฐานถือว่าทางด้านค่ายมือถือจากแดนมังกร สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดีไม่แพ้กล้องถ่ายรูปแต่อย่างใด