10 อันดับ ไมโครเวฟ ที่น่าใช้ที่สุด

ถ้าพูดถึงเตาอบไมโครเวฟ คิดว่าทุกคนต้องรู้จัก เพราะมันเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบอาหารสำหรับทุกคน เนื่องจากการใช้งานที่ง่าย ช่วยประหยัดเวลา และช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย ไมโครเวฟได้มีบทบาทมากยิ่งขึ้นในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากทุกคนต้องการอะไรที่ใช้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เช่น ถ้าคุณอยากกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสักชาม คุณจะเลือกอะไร ระหว่างการต้มบะหมี่ด้วยเตาแก๊ส กับการใช้ไมโครเวฟ แน่นอนคิดว่าทุกคนก็ต้องเลือกอย่างหลังคือใช้ไมโครเวฟ เพราะเพียงคุณนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่ชาม ใส่น้ำและเครื่องปรุง หลังจากนั้นนำไปใส่ในไมโครเวฟ เสียงติ๊งจะดังขึ้นใน 3 นาที นั่นคือคุณจะได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยขั้นตอนที่ง่าย ๆ และรวดเร็ว ที่สำคัญคืออิ่มสบายท้อง 

ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เตาไมโครเวฟก็เช่นกัน ปัจจุบันมีการพัฒนาไมโครเวฟให้มีฟังก์ชันหลากหลายขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง ฟังก์ชันการอบอาหาร ฟังก์ชันการอุ่นอาหาร เป็นต้น คิดว่าทุกคนคงอยากรู้ว่าทำไมไมโครเวฟถึงช่วยให้การทำอาหารของเราง่ายขึ้นมันมีวิธีการทำงานอย่างไร มาดูกันเลย 

ระบบการทำงานของเตาไมโครเวฟ จะส่งคลื่นไมโครเวฟจะพุ่งเข้าสู่อาหารจากทุกทิศทุกทางโดยรอบของผนังเตาด้านในแล้วแผ่กระจายไปสู่อาหาร เมื่อคลื่นไปกระทบอาหาร จะทำให้โมเลกุลของอาหารเกิดการสั่น และเสียดสีกันก่อให้เกิดเป็นพลังงานความร้อน ทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว ลักษณะเช่นเดียวกับการที่เราใช้มือถูกันไปมาเร็ว ๆ จะรู้สึกร้อนขึ้นมาทันทีนั่นเอง จากคุณสมบัติเด่นของคลื่นไมโครเวฟจึงเป็นการรักษาคุณค่าของอาหารไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการหุง ต้ม อบ นึ่ง ปิ้ง ย่าง ทอด และคุณสมบัติพิเศษที่ได้รับมากกว่าการประกอบอาหารด้วยวิธีดังเดิมหลายประการ อาทิ ความสะดวกรวดเร็ว ประหยัด ปลอดภัย และไร้เขม่าควันไฟ

การเลือกใช้ระดับความร้อนในการประกอบอาหาร เตาไมโครเวฟได้วิวัฒนาการให้ความสะดวกสบายในการเลือกใช้ระดับของกกำลังคลื่นไมโครเวฟในการประกอบอาหารแต่ละประเภทอย่างเหมาะสม เริ่มตั้งแต่การทำละลายอาหารแช่แข็ง อุ่นอาหาร ต้ม ตุ๋น อบ ย่าง ทอด และอีกมากมาย โดยระดับของไมโครเวฟในการทำอาหารนั้นมีอยู่ด้วยกัน 5 ระดับก็คือ ระดับ HIGH, ระดับ MEDIUM HIGH, ระดับ MEDIUM, ระดับ MEDIUM LOW และระดับ LOW การทำงานของทั้งห้าระดับนั้นก็มีกำลังคลื่นไมโครเวฟที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้

  1. การทำอาหารแบบระดับ HIGH เป็นระดับที่แรงที่สุด การใช้การทำอาหารในระดับนี้จะช่วยให้อาหารสุกได้อย่างรวดเร็ว

มากขึ้น โดยปกติแล้วก็จะใช้ในการทำอาหารประเภท ปลา เบคอน หรือผักต่าง ๆ และยังสามารถใช้งานในการอุ่นอาหาร ทำเครื่องดื่มร้อน หรือละลายเนย และเนื้อได้ด้วย

  1. การทำอาหารแบบระดับ MEDIUM HIGH เป็นการปรุงอาหารในระดับที่รองลงมา โดยการทำอาหารระดับนี้เหมาะกับอบ 

ปิ้ง และใช้ในการปรุงอาหารที่สุกแล้ว

  1. การทำอาหารแบบระดับ MEDIUM เป็นการทำอาหารระดับที่เหมาะสำหรับอาหารประเภท ซุป สเต็ก ข้าว อาหารแช่แข็ง 

ละลายน้ำแข็ง หรือการต้มไข่

  1. การทำอาหารแบบระดับ MEDIUM LOW เป็นระดับความร้อนที่เหมาะกับการละลายอาหารแช่แข็ง การเคี่ยว หรืออุ่น

อาหารบางประเภท 

  1. การทำอาหารแบบระดับ LOW เป็นระดับความร้อนที่เหมาะสำหรับการอุ่นอาหารที่ไม่ต้องการความร้อนมากจนเกินไป 

ซึ่งก็คือเป็นอาหารที่ผ่านการทำให้สุกมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

เทคนิคการเลือกซื้อไมโครเวฟ คุณควรเลือกขนาดของเตาไมโครเวฟตามความเหมาะสม หรือ ความจำเป็นในการใช้งาน ราคาที่อยู่ในระดับที่สามารถรับได้ ตรวจดูโครงสร้างหรือวัสดุของเตา ว่าดูมีความแข็งแรง ทนทานมากแค่ไหน มีระบบความปลอดภัย คือ มีสายดิน สามารถทำความสะอาดได้ง่ายหรือไม่ มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย แต่ไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป และควรจะสามารถทำได้ ทั้งการทำให้อาหารร้อนและสุกได้ ซึ่งดีกว่าเตาอบไมโครเวฟบางรุ่น ที่ทำได้แต่เฉพาะการทำให้ร้อนเพียงอย่างเดียว มีระบบที่สามารถตรวจสอบอุณหภูมิของอาหารได้ คุณอาจจะเลือกจากยี่ห้อหรือแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีศูนย์บริการ และมีการรับประกันสินค้า 

เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ย่อมจะมีโอกาสเสียหาย หรือมีการเสื่อมสภาพได้ ดังนั้น การซ่อมแซมแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือดูจากกำลังไฟที่ใช้ เพราะเตาไมโครเวฟในแต่ละรุ่น หรือแต่ละยี่ห้อนั้น ก็อาจมีความแตกต่างกัน ในเรื่องการใช้กำลังไฟในการใช้งาน การเลือกชนิดที่กินไฟน้อย ก็ย่อมเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าไปด้วยนั่นเอง เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรื่องเตาไมโครเวฟ และวิธีการเลือกซื้อเตาไมโครเวฟ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเตาไมโครเวฟที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของทุกคน แต่หากคุณยังไม่สามารถตัดสินใจได้จริง ๆ วันนี้เรามี 10 ไมโครเวฟที่ น่าจะซื้อมาใช้ จะมียี่ห้ออะไร และรุ่นไหนกันบ้างมาดูกันเลย 

รายการ 10 ไมโครเวฟ น่าซื้อ

1. Electrolux รุ่น EMM20K18GW

2. Midea รุ่น MMO-20J91

3. Toshiba รุ่น MWP-MM20P

4. Sharp รุ่น R-220

5. Sharp รุ่น R-2100G-S

6. Tshiba รุ่น ER-SGS23(K)TH

7. Samsung รุ่น MS23F300EEK/ST

8. Sharp รุ่น R-2201F-K

9. Sharp รุ่น R-200W

10. Electrolux รุ่น EMM2331MK

1.Electrolux รุ่น EMM20K18GW

Electrolux รุ่น EMM2331MK

กำลังไฟฟ้า: 800 วัตต์

ปรับความร้อน: 5 ระดับ

โปรแกรมละลายอาหารแช่แข็ง: ได้

การควบคุมการทำงาน: ระบบลูกบิด 

ขนาดความจุ: 20 ลิตร

ขนาดเครื่อง: 45.1 x 34.3 x 25.8 ซม.

น้ำหนัก: 12 กิโลกรัม

สี: ขาว

ราคา: 2,590 บาท

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 เครื่องตีฟองนม ยี่ห้อไหนดี

Electrolux รุ่น EMM20K18GW เตาไมโครเวฟจากแบรนด์ดัง ที่มาด้วยขนาดความจุที่ 20 ลิตร กำลังไฟให้มาจำนวน 800 วัตต์ ตัวเครื่องสามารถที่จะปรับระดับความร้อนได้ 5 ระดับ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็งด้วย มีระบบจานหมุน ที่ช่วยให้อาหารนั้นสุกได้อย่างทั่วถึง โดยผ่านการควบคุมการทำงานด้วยระบบลูกบิด ที่มีความทนทานต่อการใช้งาน และยังมีประตูกระจกนิรภัย ที่ทนทานต่อแรงกระแทก มีความปลอดภัย รวมถึงยังสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายด้วย ที่สำคัญยังมีการดีไซน์ตัวเครื่องออกมาให้เล็ก กะทัดรัด และใช้งานได้ง่ายมากนั่นเอง

ข้อดี

  • สามารถที่จะปรับระดับความร้อนได้ 5 ระดับ
  • มีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็ง
  • มีประตูกระจกนิรภัย ที่ทนทานต่อแรงกระแทก มีความปลอดภัย
  • การดีไซน์ตัวเครื่องออกมาให้เล็ก กะทัดรัด และใช้งานได้ง่ายมาก

ข้อเสีย

– ไม่สามารถย่างอาหารได้

2.Midea รุ่น MMO-20J91

Midea รุ่น MMO-20J91

ปริมาณความจุ (ลิตร) : 20

กำลังไฟฟ้า (วัตต์) : 700

ฟังก์ชันการทำงาน : ไมโครเวฟ อุ่น

โปรแกรมปรุงอาหาร : 5

ตั้งเวลาได้ (นาที) : 35

โปรแกรมละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ : ได้

ขนาดเครื่อง (ซม.) : 35.80 x 44.00 x 25.90

สี: ขาว

น้ำหนัก (กิโลกรัม) : 10.2

ราคา: 1,990 บาท 

Midea รุ่น MMO-20J91 ไมโครเวฟที่ถูกออกแบบมาสำหรับการทำอาหารเพื่อคนในครอบครัว โดยไมโครเวฟรุ่นนี้มาพร้อมกับความจุตัวเครื่องที่ 20 ลิตร กำลังไฟ 700 วัตต์ อีกทั้งยังมีการทำฟังก์ชันการใช้งานออกมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย ซึ่งมีการควบคุมการทำงานของอุณหภูมิผ่านลูกบิด ที่สามารถตั้งเวลาได้สูงสุด 35 นาที รวมถึงยังได้มีการใส่ฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งสำหรับอาหารแช่แข็งมาให้ด้วย เพื่อให้การปรุงอาหารนั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

ข้อดี

  • สามารถที่จะปรุงอาหารได้ 5 ระดับ
  • มีการทำฟังก์ชันการใช้งานออกมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย
  • มีฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งสำหรับอาหารแช่แข็งมาให้ด้วย

ข้อเสีย

– ไม่สามารถอบอาหารและย่างอาหารได้

3.TOSHIBA รุ่น MWP-MM20P

TOSHIBA รุ่น MWP-MM20P

ปรับระดับความร้อน: 5 ระดับ 

ประตูกระจกนิรภัย: มี

ปริมาณความจุ (ลิตร): 20

กำลังไฟ (วัตต์): 700

ฟังก์ชันการทำงาน: อุ่น

โปรแกรมละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ: ได้

สี: ขาว

น้ำหนัก (กิโลกรัม): 10.7

ราคา: 2,190 บาท 

TOSHIBA รุ่น MWP-MM20P ไมโครเวฟที่ผ่านการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยการใช้ปุ่ม ที่มีการดีไซน์ออกมาเป็นอย่างดี และสวยงาม โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถปรับความร้อนในการปรุงอาหารได้ 5 ระดับ อีกทั้งยังมีระบบจานหมุนอัจฉริยะที่สามารถจดจำตำแหน่งในการหมุนได้ดี รวมถึงยังเป็นเครื่องที่มีการใส่ฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งได้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องก็ทำมาจากวัสดุที่ดี มีคุณภาพ ทำให้มีความทนทาน เสียหายได้ยาก และมีความปลอดภัยในการใช้งานที่สูงมากอีกด้วย

ข้อดี

  • สามารถปรับความร้อนในการปรุงอาหารได้ 5 ระดับ
  • มีระบบจานหมุนอัจฉริยะที่สามารถจดจำตำแหน่งในการหมุนได้ดี
  • มีฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็ง
  • ทำมาจากวัสดุที่ดี มีคุณภาพ ทำให้มีความทนทาน เสียหายได้ยาก และมีความปลอดภัยในการใช้งานที่สูง

ข้อเสีย

– ไม่สามารถอบอาหารและย่างอาหารได้

4.Sharp รุ่น R-220

Sharp รุ่น R-220

ความจุ: 22 ลิตร

กำลังไฟ: 800 วัตต์

ขนาด: 46 x 38 x 27.5 ซม.

น้ำหนัก: 12 กก.

สี: ขาว

ราคา: 2,190 บาท 

Sharp รุ่น R-220 เป็นไมโครเวฟที่มีความจุอยู่ที่ 22 ลิตร สามารถที่จะปรับระดับความร้อนในการทำอาหารได้ 5 ระดับ โดยเลือกเวลาในการปรุงอาหารได้สูงสุด 30 นาที ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำอาหารให้สุกได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึง อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งด้วย ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ผ่านการควบคุมด้วยระบบ Jog Dial ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังมีระบบจานหมุนสัมพันธ์ที่จะช่วยให้อาหารนั้นสุกอย่างทั่วถึงนั่นเอง

ข้อดี

  • สามารถที่จะปรับระดับความร้อนในการทำอาหารได้ 5 ระดับ
  • มีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็ง
  • ผ่านการควบคุมด้วยระบบ Jog Dial ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย

ข้อเสีย

– ไม่สามารถย่างอาหารได้

5.Sharp รุ่น R-2100G-S

Sharp รุ่น R-2100G-S

ความจุ (ลิตร): 20

กำลังไฟฟ้า (วัตต์): 800

ฟังก์ชันการทำงาน: อุ่น

ปรับความร้อนได้ (ระดับ): 5

ตั้งเวลาได้ (นาที): 35

ละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ: ได้

ขนาด(ซม.): 44.00 x 25.90 x 33.80

สี: เงิน

น้ำหนัก(กิโลกรัม): 11

ราคา: 1,990 บาท 

Sharp รุ่น R-2100G-S เป็นไมโครเวฟที่ผ่านออกแบบมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถใช้ไมโครเวฟเครื่องนี้ในการทำอาหาร หรืออุ่นอาหารก็ได้ โดยเครื่องนี้มีความจุของเครื่องอยู่ที่ 20 ลิตร มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ง่าย และครบครัน ซึ่งสามารถที่จะเลือกระดับความร้อนในการปรุงอาหารได้ 5 ระดับ อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย มีขนาดกะทัดรัด รวมถึงยังมีฟังก์ชันสำหรับการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งได้ด้วย

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 โคมไฟอ่านหนังสือดีไซน์สวย ใช้งานดี

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย

– ใช้งานง่ายด้วยระบบลูกบิด

– สามารถปรับความร้อนได้ 5 ระดับ

– ปุ่มตั้งเวลาและน้ำหนักสำหรับการละลายอาหาร

ข้อเสีย

– ไม่สามารถอบอาหารและย่างอาหารได้

6.TOSHIBA รุ่น ER-SGS23(K)TH

TOSHIBA รุ่น ER-SGS23(K)TH

ปรับความร้อนได้ (ระดับ): 11 ระดับ

ระบบการทำงาน: ดิจิตอล

โปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ: 6 โปรแกรม

ฉลากประหยัดไฟ: เบอร์ 5

ขนาด: 485 x 410 x 293 mm

น้ำหนัก: 13.2 kg

ความจุ: 23 ลิตร

กำลังไฟฟ้า: 1,250 วัตต์

ราคา: 2,990 บาท

TOSHIBA รุ่น ER-SGS23(K)TH เป็นไมโครเวฟระบบย่าง ที่ได้มีการออกแบบมาให้มีฟังก์ชันที่หลากหลาย โดยผ่านการควบคุมการทำงานด้วยระบบดิจิตอล จึงทำให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ พร้อมด้วยหน้าจอทีมี่การแสดงผมแบบ LED ซึ่งสามารถที่จะเลือกโปรแกรมในการทำอาหารได้ 6 แบบ และมีระดับความร้อนของไมโครเวฟถึง 11 ระดับ ทำให้สามารถที่จะทำอาหารได้ในแบบที่ต้องการเลย อีกทั้งตัวเครื่องได้มาพร้อมกับระบบฮีสเตอร์ ที่จะช่วยในเรื่องของการกระจายความร้อนให้อาหารนั้นสุก กรอบนอกนุ่มใน และมีสีสันที่สวยงามอีกด้วย

ข้อดี

– ดีไซน์ทันสมัย

– ควบคุมการทำงานด้วยระบบดิจิตอล 

– สามารถปรับความร้อนได้ 11 ระดับ

– มีฟังก์ชัน Grill ปิ้งย่าง

– มีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ 6 เมนู

ข้อเสีย

– เครื่องค่อนข้างหนัก

– ใช้กำลังไฟสูง ส่งผลให้ค่าไฟแพง

7.Samsung รุ่น MS23F300EEK/ST

Samsung รุ่น MS23F300EEK/ST

ขนาด Cavity (WxHxD): 330 x 211 x 324 mm

Outside (WxHxD): 489 x 275 x 374 mm

น้ำหนัก: 11.5 kg

ความจุ: 23 ลิตร

กำลังไฟฟ้า: 1150 W

ระบบควบคุมการทำงาน: แบบปุ่มหมุน 

พลังงาน: 220 โวลต์ / 50 เฮิรตซ์

ราคา: 2,390 บาท 

Samsung รุ่น MS23F300EEK/ST เป็นไมโครเวฟจากแบรนด์ดังอย่าง Samsung ที่ได้มีการออกแบบมาให้ความสวยงาม และเรียบหรู โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบกระจายความร้อน 3 ทิศทาง ที่จะมาช่วยให้อาหารนั้นสุกได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในเรื่องของการใช้งานนั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านปุ่มปรับ ที่สามารถตั้งเวลา และป้อนค่าน้ำหนัก หรือเลือกฟังก์ชันของกำลังไฟที่เหมาะสมกับอาหารได้ รวมถึงตัวเครื่องยังได้ผ่านการเคลือบ Epoxy และทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดด้วย

ข้อดี

– ดีไซน์สวยงาม เรียบหรู

– ผลิตจากวัสดุมีคุณภาพ มีความแข็งแรง ทนทาน

– ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มหมุน Dual Dial

– ระบบกระจายความร้อน 3 ทิศทาง

– สามารถตั้งเวลาและป้อนค่าน้ำหนัก (กรัม) หรือเลือกกำลังไฟ

– หน้าจอแสดงผล LED (ICE BLUE)

ข้อเสีย

– ใช้กำลังไฟสูง ส่งผลให้ค่าไฟแพง

8.Sharp รุ่น R-2201F-K

Sharp รุ่น R-2201F-K

ความจุ (ลิตร): 20

ระบบ (ลูกบิด/สัมผัส): สัมผัส

ละลายน้ำแช่แข็งอัตโนมัติ: ได้

ตั้งความร้อนได้ (ระดับ): 11

ตั้งเวลาทำอาหารได้ (นาที): 99.50

น้ำหนัก(กิโลกรัม): 11.5

ขนาดเครื่อง (ซม.): 44.0 W X 25.8 H X 35.7 D

ราคา: 2,390 บาท 

Sharp รุ่น R-2201F-K ไมโครเวฟจากแบรนด์ดังที่มีการดีไซน์ออกมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยนอกจากตัวเครื่องที่มีการดีไซน์มาให้สวยงามน่าใช้แล้ว ก็ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่มีความแม่นยำ ด้วยระบบปุ่มสัมผัส ที่สามารถเลือกระดับของความร้อนได้ถึง 11 ระดับ อีกทั้งยังมาพร้อมกับโปรแกรมการทำอาหารจำนวน 6 โปรแกรม รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยที่จะช่วยป้องกันเด็กที่เข้ามาใช้เครื่องอีกด้วย

ข้อดี

– ดีไซน์สวยงามทันสมัย

– ระบบปุ่มสัมผัส (TOUCH CONTROL)

– ระดับความร้อนได้ถึง 11 ระดับ

– มีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ 6 โปรแกรม 

– โปรแกรมป้องกันเด็กใช้เครื่อง (CHILD LOCK)

ข้อเสีย

– เครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก

9.Sharp รุ่น R-200W

Sharp รุ่น R-200W

ความจุ: 20 ลิตร

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 แอร์เคลื่อนที่ ใช้งานง่าย คลายร้อนทั่วทั้งบ้าน

กำลังไฟ: 800 วัตต์

ระดับความร้อน: 5 ระดับ 

โปรแกรมในการละลายน้ำแข็ง: ได้

การควบคุมการทำงาน: แบบหมุน

ขนาดเครื่อง : 43.9×25.62×33.82 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 10.9 กิโลกรัม

ราคา: 2,190 บาท 

Sharp รุ่น R-200W ไมโครเวฟอีกหนึ่งรุ่นของ Sharp ที่มาในกำลังไฟ 800 วัตต์ มีความจุอยู่ที่ 20 ลิตร โดยมาพร้อมกับระบบจานหมุนอัตโนมัติ และยังสามารถปรับความร้อนในการทำอาหารได้ 5 ระดับ ซึ่งสามารถเลือกเวลาในการปรุงอาหารได้นานสูงสุด 35 นาที รวมถึงยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งด้วย

ข้อดี

– ดีไซน์สวยงามทันสมัย

– ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มหมุน

– ระดับความร้อนได้ 5 ระดับ

ข้อเสีย

– ไม่สามารถย่างอาหารได้

10.Electrolux รุ่น EMM2331MK

Electrolux รุ่น EMM2331MK

ความจุ(ลิตร): 23

ปรับความร้อน: 6 ระดับ

ตั้งเวลาการอุ่นได้สูงสุด: 35 นาที

ระบบการควบคุม: ลูกบิด 

กำลังไฟ(วัตต์): 800

โปรแกรมปรุงอาหาร(โปรแกรม): 1 

ประตูหนา(ชั้น): 2

สี: ดำ

ขนาด(ซม.): 48.50 x 40.00 x 29.30

น้ำหนัก(กิโลกรัม): 13

ราคา: 2,990 บาท

Electrolux รุ่น EMM2331MK เป็นไมโครเวฟที่มาพร้อมกับขนาดความจุที่ 23 ลิตร โดยมีการดีไซน์ตัวเครื่องออกมาได้สวยงาม ทันสมัย ผ่านการควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่สะดวก และง่ายดาย พร้อมทั้งยังมีระบบที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็ง และมีระบบจานหมุนอัตโนมัติ ที่ช่วยทำให้อาหารนั้นสุกง่าย และสุกได้อย่างทั่วถึง ซึ่งผ่านการควบคุมระบบด้วยลูกบิด ที่มีความทนทาน และใช่งานง่าย

ข้อดี

– ดีไซน์สวยงามทันสมัย

– ควบคุมการทำงานด้วยแบบลูกบิด

– ประตูกระจกนิรภัย

– ระดับความร้อนได้ 6 ระดับ

ข้อเสีย

– ไม่สามารถย่างอาหารได้

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 อันดับ ไมโครเวฟ ที่น่าซื้อมาใช้ มียี่ห้อไหน รุ่นไหนที่ถูกใจกันบ้าง สำหรับบทความไมโครเวฟที่เราได้ตั้งใจนำมาเสนอในวันนี้ เป็นเพียงการแนะนำในเบื้องต้นในการเลือกซื้อไมโครเวฟ ซึ่งผู้เขียนบทความก็หวังว่า บทความของเราจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการเลือกซื้อไมโครเวฟของคุณให้ได้ตรงตามความต้องการใช้งานและคุ้มค่าที่สุด นอกจากการใช้งานไมโครเวฟของคุณแล้ว อย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดไมโครเวฟของคุณหลังการใช้เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของเตาไมโครเวฟของคุณ