ถ้าพูดถึงเตาอบไมโครเวฟ คิดว่าทุกคนต้องรู้จัก เพราะมันเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบอาหารสำหรับทุกคน เนื่องจากการใช้งานที่ง่าย ช่วยประหยัดเวลา และช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย ไมโครเวฟได้มีบทบาทมากยิ่งขึ้นในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากทุกคนต้องการอะไรที่ใช้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เช่น ถ้าคุณอยากกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสักชาม คุณจะเลือกอะไร ระหว่างการต้มบะหมี่ด้วยเตาแก๊ส กับการใช้ไมโครเวฟ แน่นอนคิดว่าทุกคนก็ต้องเลือกอย่างหลังคือใช้ไมโครเวฟ เพราะเพียงคุณนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่ชาม ใส่น้ำและเครื่องปรุง หลังจากนั้นนำไปใส่ในไมโครเวฟ เสียงติ๊งจะดังขึ้นใน 3 นาที นั่นคือคุณจะได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยขั้นตอนที่ง่าย ๆ และรวดเร็ว ที่สำคัญคืออิ่มสบายท้อง
ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เตาไมโครเวฟก็เช่นกัน ปัจจุบันมีการพัฒนาไมโครเวฟให้มีฟังก์ชันหลากหลายขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น ฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง ฟังก์ชันการอบอาหาร ฟังก์ชันการอุ่นอาหาร เป็นต้น คิดว่าทุกคนคงอยากรู้ว่าทำไมไมโครเวฟถึงช่วยให้การทำอาหารของเราง่ายขึ้นมันมีวิธีการทำงานอย่างไร มาดูกันเลย
ระบบการทำงานของเตาไมโครเวฟ จะส่งคลื่นไมโครเวฟจะพุ่งเข้าสู่อาหารจากทุกทิศทุกทางโดยรอบของผนังเตาด้านในแล้วแผ่กระจายไปสู่อาหาร เมื่อคลื่นไปกระทบอาหาร จะทำให้โมเลกุลของอาหารเกิดการสั่น และเสียดสีกันก่อให้เกิดเป็นพลังงานความร้อน ทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว ลักษณะเช่นเดียวกับการที่เราใช้มือถูกันไปมาเร็ว ๆ จะรู้สึกร้อนขึ้นมาทันทีนั่นเอง จากคุณสมบัติเด่นของคลื่นไมโครเวฟจึงเป็นการรักษาคุณค่าของอาหารไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการหุง ต้ม อบ นึ่ง ปิ้ง ย่าง ทอด และคุณสมบัติพิเศษที่ได้รับมากกว่าการประกอบอาหารด้วยวิธีดังเดิมหลายประการ อาทิ ความสะดวกรวดเร็ว ประหยัด ปลอดภัย และไร้เขม่าควันไฟ
การเลือกใช้ระดับความร้อนในการประกอบอาหาร เตาไมโครเวฟได้วิวัฒนาการให้ความสะดวกสบายในการเลือกใช้ระดับของกกำลังคลื่นไมโครเวฟในการประกอบอาหารแต่ละประเภทอย่างเหมาะสม เริ่มตั้งแต่การทำละลายอาหารแช่แข็ง อุ่นอาหาร ต้ม ตุ๋น อบ ย่าง ทอด และอีกมากมาย โดยระดับของไมโครเวฟในการทำอาหารนั้นมีอยู่ด้วยกัน 5 ระดับก็คือ ระดับ HIGH, ระดับ MEDIUM HIGH, ระดับ MEDIUM, ระดับ MEDIUM LOW และระดับ LOW การทำงานของทั้งห้าระดับนั้นก็มีกำลังคลื่นไมโครเวฟที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้
- การทำอาหารแบบระดับ HIGH เป็นระดับที่แรงที่สุด การใช้การทำอาหารในระดับนี้จะช่วยให้อาหารสุกได้อย่างรวดเร็ว
มากขึ้น โดยปกติแล้วก็จะใช้ในการทำอาหารประเภท ปลา เบคอน หรือผักต่าง ๆ และยังสามารถใช้งานในการอุ่นอาหาร ทำเครื่องดื่มร้อน หรือละลายเนย และเนื้อได้ด้วย
- การทำอาหารแบบระดับ MEDIUM HIGH เป็นการปรุงอาหารในระดับที่รองลงมา โดยการทำอาหารระดับนี้เหมาะกับอบ
ปิ้ง และใช้ในการปรุงอาหารที่สุกแล้ว
- การทำอาหารแบบระดับ MEDIUM เป็นการทำอาหารระดับที่เหมาะสำหรับอาหารประเภท ซุป สเต็ก ข้าว อาหารแช่แข็ง
ละลายน้ำแข็ง หรือการต้มไข่
- การทำอาหารแบบระดับ MEDIUM LOW เป็นระดับความร้อนที่เหมาะกับการละลายอาหารแช่แข็ง การเคี่ยว หรืออุ่น
อาหารบางประเภท
- การทำอาหารแบบระดับ LOW เป็นระดับความร้อนที่เหมาะสำหรับการอุ่นอาหารที่ไม่ต้องการความร้อนมากจนเกินไป
ซึ่งก็คือเป็นอาหารที่ผ่านการทำให้สุกมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
เทคนิคการเลือกซื้อไมโครเวฟ คุณควรเลือกขนาดของเตาไมโครเวฟตามความเหมาะสม หรือ ความจำเป็นในการใช้งาน ราคาที่อยู่ในระดับที่สามารถรับได้ ตรวจดูโครงสร้างหรือวัสดุของเตา ว่าดูมีความแข็งแรง ทนทานมากแค่ไหน มีระบบความปลอดภัย คือ มีสายดิน สามารถทำความสะอาดได้ง่ายหรือไม่ มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย แต่ไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป และควรจะสามารถทำได้ ทั้งการทำให้อาหารร้อนและสุกได้ ซึ่งดีกว่าเตาอบไมโครเวฟบางรุ่น ที่ทำได้แต่เฉพาะการทำให้ร้อนเพียงอย่างเดียว มีระบบที่สามารถตรวจสอบอุณหภูมิของอาหารได้ คุณอาจจะเลือกจากยี่ห้อหรือแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีศูนย์บริการ และมีการรับประกันสินค้า
เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ย่อมจะมีโอกาสเสียหาย หรือมีการเสื่อมสภาพได้ ดังนั้น การซ่อมแซมแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือดูจากกำลังไฟที่ใช้ เพราะเตาไมโครเวฟในแต่ละรุ่น หรือแต่ละยี่ห้อนั้น ก็อาจมีความแตกต่างกัน ในเรื่องการใช้กำลังไฟในการใช้งาน การเลือกชนิดที่กินไฟน้อย ก็ย่อมเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าไปด้วยนั่นเอง เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรื่องเตาไมโครเวฟ และวิธีการเลือกซื้อเตาไมโครเวฟ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเตาไมโครเวฟที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของทุกคน แต่หากคุณยังไม่สามารถตัดสินใจได้จริง ๆ วันนี้เรามี 10 ไมโครเวฟที่ น่าจะซื้อมาใช้ จะมียี่ห้ออะไร และรุ่นไหนกันบ้างมาดูกันเลย
รายการ 10 ไมโครเวฟ น่าซื้อ
7. Samsung รุ่น MS23F300EEK/ST
1.Electrolux รุ่น EMM20K18GW

กำลังไฟฟ้า: 800 วัตต์
ปรับความร้อน: 5 ระดับ
โปรแกรมละลายอาหารแช่แข็ง: ได้
การควบคุมการทำงาน: ระบบลูกบิด
ขนาดความจุ: 20 ลิตร
ขนาดเครื่อง: 45.1 x 34.3 x 25.8 ซม.
น้ำหนัก: 12 กิโลกรัม
สี: ขาว
ราคา: 2,590 บาท
Electrolux รุ่น EMM20K18GW เตาไมโครเวฟจากแบรนด์ดัง ที่มาด้วยขนาดความจุที่ 20 ลิตร กำลังไฟให้มาจำนวน 800 วัตต์ ตัวเครื่องสามารถที่จะปรับระดับความร้อนได้ 5 ระดับ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็งด้วย มีระบบจานหมุน ที่ช่วยให้อาหารนั้นสุกได้อย่างทั่วถึง โดยผ่านการควบคุมการทำงานด้วยระบบลูกบิด ที่มีความทนทานต่อการใช้งาน และยังมีประตูกระจกนิรภัย ที่ทนทานต่อแรงกระแทก มีความปลอดภัย รวมถึงยังสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายด้วย ที่สำคัญยังมีการดีไซน์ตัวเครื่องออกมาให้เล็ก กะทัดรัด และใช้งานได้ง่ายมากนั่นเอง
ข้อดี
- สามารถที่จะปรับระดับความร้อนได้ 5 ระดับ
- มีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็ง
- มีประตูกระจกนิรภัย ที่ทนทานต่อแรงกระแทก มีความปลอดภัย
- การดีไซน์ตัวเครื่องออกมาให้เล็ก กะทัดรัด และใช้งานได้ง่ายมาก
ข้อเสีย
– ไม่สามารถย่างอาหารได้
2.Midea รุ่น MMO-20J91

ปริมาณความจุ (ลิตร) : 20
กำลังไฟฟ้า (วัตต์) : 700
ฟังก์ชันการทำงาน : ไมโครเวฟ อุ่น
โปรแกรมปรุงอาหาร : 5
ตั้งเวลาได้ (นาที) : 35
โปรแกรมละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ : ได้
ขนาดเครื่อง (ซม.) : 35.80 x 44.00 x 25.90
สี: ขาว
น้ำหนัก (กิโลกรัม) : 10.2
ราคา: 1,990 บาท
Midea รุ่น MMO-20J91 ไมโครเวฟที่ถูกออกแบบมาสำหรับการทำอาหารเพื่อคนในครอบครัว โดยไมโครเวฟรุ่นนี้มาพร้อมกับความจุตัวเครื่องที่ 20 ลิตร กำลังไฟ 700 วัตต์ อีกทั้งยังมีการทำฟังก์ชันการใช้งานออกมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย ซึ่งมีการควบคุมการทำงานของอุณหภูมิผ่านลูกบิด ที่สามารถตั้งเวลาได้สูงสุด 35 นาที รวมถึงยังได้มีการใส่ฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งสำหรับอาหารแช่แข็งมาให้ด้วย เพื่อให้การปรุงอาหารนั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
ข้อดี
- สามารถที่จะปรุงอาหารได้ 5 ระดับ
- มีการทำฟังก์ชันการใช้งานออกมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย
- มีฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งสำหรับอาหารแช่แข็งมาให้ด้วย
ข้อเสีย
– ไม่สามารถอบอาหารและย่างอาหารได้
3.TOSHIBA รุ่น MWP-MM20P

ปรับระดับความร้อน: 5 ระดับ
ประตูกระจกนิรภัย: มี
ปริมาณความจุ (ลิตร): 20
กำลังไฟ (วัตต์): 700
ฟังก์ชันการทำงาน: อุ่น
โปรแกรมละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ: ได้
สี: ขาว
น้ำหนัก (กิโลกรัม): 10.7
ราคา: 2,190 บาท
TOSHIBA รุ่น MWP-MM20P ไมโครเวฟที่ผ่านการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยการใช้ปุ่ม ที่มีการดีไซน์ออกมาเป็นอย่างดี และสวยงาม โดยเครื่องรุ่นนี้สามารถปรับความร้อนในการปรุงอาหารได้ 5 ระดับ อีกทั้งยังมีระบบจานหมุนอัจฉริยะที่สามารถจดจำตำแหน่งในการหมุนได้ดี รวมถึงยังเป็นเครื่องที่มีการใส่ฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งได้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องก็ทำมาจากวัสดุที่ดี มีคุณภาพ ทำให้มีความทนทาน เสียหายได้ยาก และมีความปลอดภัยในการใช้งานที่สูงมากอีกด้วย
ข้อดี
- สามารถปรับความร้อนในการปรุงอาหารได้ 5 ระดับ
- มีระบบจานหมุนอัจฉริยะที่สามารถจดจำตำแหน่งในการหมุนได้ดี
- มีฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็ง
- ทำมาจากวัสดุที่ดี มีคุณภาพ ทำให้มีความทนทาน เสียหายได้ยาก และมีความปลอดภัยในการใช้งานที่สูง
ข้อเสีย
– ไม่สามารถอบอาหารและย่างอาหารได้
4.Sharp รุ่น R-220

ความจุ: 22 ลิตร
กำลังไฟ: 800 วัตต์
ขนาด: 46 x 38 x 27.5 ซม.
น้ำหนัก: 12 กก.
สี: ขาว
ราคา: 2,190 บาท
Sharp รุ่น R-220 เป็นไมโครเวฟที่มีความจุอยู่ที่ 22 ลิตร สามารถที่จะปรับระดับความร้อนในการทำอาหารได้ 5 ระดับ โดยเลือกเวลาในการปรุงอาหารได้สูงสุด 30 นาที ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำอาหารให้สุกได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึง อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งด้วย ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ผ่านการควบคุมด้วยระบบ Jog Dial ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังมีระบบจานหมุนสัมพันธ์ที่จะช่วยให้อาหารนั้นสุกอย่างทั่วถึงนั่นเอง
ข้อดี
- สามารถที่จะปรับระดับความร้อนในการทำอาหารได้ 5 ระดับ
- มีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็ง
- ผ่านการควบคุมด้วยระบบ Jog Dial ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสีย
– ไม่สามารถย่างอาหารได้
5.Sharp รุ่น R-2100G-S

ความจุ (ลิตร): 20
กำลังไฟฟ้า (วัตต์): 800
ฟังก์ชันการทำงาน: อุ่น
ปรับความร้อนได้ (ระดับ): 5
ตั้งเวลาได้ (นาที): 35
ละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ: ได้
ขนาด(ซม.): 44.00 x 25.90 x 33.80
สี: เงิน
น้ำหนัก(กิโลกรัม): 11
ราคา: 1,990 บาท
Sharp รุ่น R-2100G-S เป็นไมโครเวฟที่ผ่านออกแบบมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถใช้ไมโครเวฟเครื่องนี้ในการทำอาหาร หรืออุ่นอาหารก็ได้ โดยเครื่องนี้มีความจุของเครื่องอยู่ที่ 20 ลิตร มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ง่าย และครบครัน ซึ่งสามารถที่จะเลือกระดับความร้อนในการปรุงอาหารได้ 5 ระดับ อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย มีขนาดกะทัดรัด รวมถึงยังมีฟังก์ชันสำหรับการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งได้ด้วย
ข้อดี
– ดีไซน์ทันสมัย
– ใช้งานง่ายด้วยระบบลูกบิด
– สามารถปรับความร้อนได้ 5 ระดับ
– ปุ่มตั้งเวลาและน้ำหนักสำหรับการละลายอาหาร
ข้อเสีย
– ไม่สามารถอบอาหารและย่างอาหารได้
6.TOSHIBA รุ่น ER-SGS23(K)TH

ปรับความร้อนได้ (ระดับ): 11 ระดับ
ระบบการทำงาน: ดิจิตอล
โปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ: 6 โปรแกรม
ฉลากประหยัดไฟ: เบอร์ 5
ขนาด: 485 x 410 x 293 mm
น้ำหนัก: 13.2 kg
ความจุ: 23 ลิตร
กำลังไฟฟ้า: 1,250 วัตต์
ราคา: 2,990 บาท
TOSHIBA รุ่น ER-SGS23(K)TH เป็นไมโครเวฟระบบย่าง ที่ได้มีการออกแบบมาให้มีฟังก์ชันที่หลากหลาย โดยผ่านการควบคุมการทำงานด้วยระบบดิจิตอล จึงทำให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ พร้อมด้วยหน้าจอทีมี่การแสดงผมแบบ LED ซึ่งสามารถที่จะเลือกโปรแกรมในการทำอาหารได้ 6 แบบ และมีระดับความร้อนของไมโครเวฟถึง 11 ระดับ ทำให้สามารถที่จะทำอาหารได้ในแบบที่ต้องการเลย อีกทั้งตัวเครื่องได้มาพร้อมกับระบบฮีสเตอร์ ที่จะช่วยในเรื่องของการกระจายความร้อนให้อาหารนั้นสุก กรอบนอกนุ่มใน และมีสีสันที่สวยงามอีกด้วย
ข้อดี
– ดีไซน์ทันสมัย
– ควบคุมการทำงานด้วยระบบดิจิตอล
– สามารถปรับความร้อนได้ 11 ระดับ
– มีฟังก์ชัน Grill ปิ้งย่าง
– มีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ 6 เมนู
ข้อเสีย
– เครื่องค่อนข้างหนัก
– ใช้กำลังไฟสูง ส่งผลให้ค่าไฟแพง
7.Samsung รุ่น MS23F300EEK/ST

ขนาด Cavity (WxHxD): 330 x 211 x 324 mm
Outside (WxHxD): 489 x 275 x 374 mm
น้ำหนัก: 11.5 kg
ความจุ: 23 ลิตร
กำลังไฟฟ้า: 1150 W
ระบบควบคุมการทำงาน: แบบปุ่มหมุน
พลังงาน: 220 โวลต์ / 50 เฮิรตซ์
ราคา: 2,390 บาท
Samsung รุ่น MS23F300EEK/ST เป็นไมโครเวฟจากแบรนด์ดังอย่าง Samsung ที่ได้มีการออกแบบมาให้ความสวยงาม และเรียบหรู โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบกระจายความร้อน 3 ทิศทาง ที่จะมาช่วยให้อาหารนั้นสุกได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในเรื่องของการใช้งานนั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านปุ่มปรับ ที่สามารถตั้งเวลา และป้อนค่าน้ำหนัก หรือเลือกฟังก์ชันของกำลังไฟที่เหมาะสมกับอาหารได้ รวมถึงตัวเครื่องยังได้ผ่านการเคลือบ Epoxy และทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดด้วย
ข้อดี
– ดีไซน์สวยงาม เรียบหรู
– ผลิตจากวัสดุมีคุณภาพ มีความแข็งแรง ทนทาน
– ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มหมุน Dual Dial
– ระบบกระจายความร้อน 3 ทิศทาง
– สามารถตั้งเวลาและป้อนค่าน้ำหนัก (กรัม) หรือเลือกกำลังไฟ
– หน้าจอแสดงผล LED (ICE BLUE)
ข้อเสีย
– ใช้กำลังไฟสูง ส่งผลให้ค่าไฟแพง
8.Sharp รุ่น R-2201F-K

ความจุ (ลิตร): 20
ระบบ (ลูกบิด/สัมผัส): สัมผัส
ละลายน้ำแช่แข็งอัตโนมัติ: ได้
ตั้งความร้อนได้ (ระดับ): 11
ตั้งเวลาทำอาหารได้ (นาที): 99.50
น้ำหนัก(กิโลกรัม): 11.5
ขนาดเครื่อง (ซม.): 44.0 W X 25.8 H X 35.7 D
ราคา: 2,390 บาท
Sharp รุ่น R-2201F-K ไมโครเวฟจากแบรนด์ดังที่มีการดีไซน์ออกมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยนอกจากตัวเครื่องที่มีการดีไซน์มาให้สวยงามน่าใช้แล้ว ก็ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่มีความแม่นยำ ด้วยระบบปุ่มสัมผัส ที่สามารถเลือกระดับของความร้อนได้ถึง 11 ระดับ อีกทั้งยังมาพร้อมกับโปรแกรมการทำอาหารจำนวน 6 โปรแกรม รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยที่จะช่วยป้องกันเด็กที่เข้ามาใช้เครื่องอีกด้วย
ข้อดี
– ดีไซน์สวยงามทันสมัย
– ระบบปุ่มสัมผัส (TOUCH CONTROL)
– ระดับความร้อนได้ถึง 11 ระดับ
– มีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ 6 โปรแกรม
– โปรแกรมป้องกันเด็กใช้เครื่อง (CHILD LOCK)
ข้อเสีย
– เครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก
9.Sharp รุ่น R-200W

ความจุ: 20 ลิตร
กำลังไฟ: 800 วัตต์
ระดับความร้อน: 5 ระดับ
โปรแกรมในการละลายน้ำแข็ง: ได้
การควบคุมการทำงาน: แบบหมุน
ขนาดเครื่อง : 43.9×25.62×33.82 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 10.9 กิโลกรัม
ราคา: 2,190 บาท
Sharp รุ่น R-200W ไมโครเวฟอีกหนึ่งรุ่นของ Sharp ที่มาในกำลังไฟ 800 วัตต์ มีความจุอยู่ที่ 20 ลิตร โดยมาพร้อมกับระบบจานหมุนอัตโนมัติ และยังสามารถปรับความร้อนในการทำอาหารได้ 5 ระดับ ซึ่งสามารถเลือกเวลาในการปรุงอาหารได้นานสูงสุด 35 นาที รวมถึงยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็งจากอาหารแช่แข็งด้วย
ข้อดี
– ดีไซน์สวยงามทันสมัย
– ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มหมุน
– ระดับความร้อนได้ 5 ระดับ
ข้อเสีย
– ไม่สามารถย่างอาหารได้
10.Electrolux รุ่น EMM2331MK

ความจุ(ลิตร): 23
ปรับความร้อน: 6 ระดับ
ตั้งเวลาการอุ่นได้สูงสุด: 35 นาที
ระบบการควบคุม: ลูกบิด
กำลังไฟ(วัตต์): 800
โปรแกรมปรุงอาหาร(โปรแกรม): 1
ประตูหนา(ชั้น): 2
สี: ดำ
ขนาด(ซม.): 48.50 x 40.00 x 29.30
น้ำหนัก(กิโลกรัม): 13
ราคา: 2,990 บาท
Electrolux รุ่น EMM2331MK เป็นไมโครเวฟที่มาพร้อมกับขนาดความจุที่ 23 ลิตร โดยมีการดีไซน์ตัวเครื่องออกมาได้สวยงาม ทันสมัย ผ่านการควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่สะดวก และง่ายดาย พร้อมทั้งยังมีระบบที่ช่วยในเรื่องของการละลายน้ำแข็ง และมีระบบจานหมุนอัตโนมัติ ที่ช่วยทำให้อาหารนั้นสุกง่าย และสุกได้อย่างทั่วถึง ซึ่งผ่านการควบคุมระบบด้วยลูกบิด ที่มีความทนทาน และใช่งานง่าย
ข้อดี
– ดีไซน์สวยงามทันสมัย
– ควบคุมการทำงานด้วยแบบลูกบิด
– ประตูกระจกนิรภัย
– ระดับความร้อนได้ 6 ระดับ
ข้อเสีย
– ไม่สามารถย่างอาหารได้
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 อันดับ ไมโครเวฟ ที่น่าซื้อมาใช้ มียี่ห้อไหน รุ่นไหนที่ถูกใจกันบ้าง สำหรับบทความไมโครเวฟที่เราได้ตั้งใจนำมาเสนอในวันนี้ เป็นเพียงการแนะนำในเบื้องต้นในการเลือกซื้อไมโครเวฟ ซึ่งผู้เขียนบทความก็หวังว่า บทความของเราจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการเลือกซื้อไมโครเวฟของคุณให้ได้ตรงตามความต้องการใช้งานและคุ้มค่าที่สุด นอกจากการใช้งานไมโครเวฟของคุณแล้ว อย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดไมโครเวฟของคุณหลังการใช้เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของเตาไมโครเวฟของคุณ