เทคโนโลยีในปัจจุบันได้เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้กับผู้คนในยุคนี้อย่างมาก จนแทบจะไม่สามารถจินตนาการได้ว่าถ้าขาดสิ่งของอำนวยความสะดวกแบบที่มีอยู่นี้ชีวิตจะเห็นอย่างไร โดยในบทความชิ้นนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ไม่เชิง แต่เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการซักเสื้อผ้า กับเครื่องซักผ้ามินิ ที่ได้รวบรวมมาไว้ที่นี่ให้ทุกคนได้ลองไปติดตามกัน
เครื่องซักผ้ามินิถือได้ว่าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์กับชีวิตคนเมืองในตอนนี้ได้ดี เพราะเครื่องซักผ้ามักจะมีขนาดที่ใหญ่ คับที่ อาจจะไม่เหมาะกับห้อง หรือคอนโดในแต่ละที่ที่มีพื้นที่จำกัด การเลือกใช้เครื่องซักผ้ามินิจึงเป็นคำตอบที่น่าสนใจไม่น้อย ในบางบ้านเองก็มีการซื้อเครื่องซักผ้ามินิไว้ติดบ้านด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะไว้ทำความสะอาดเสื้อผ้า หรือสิ่งของที่มีขนาดเล็ก ลดค่าใช้จ่าย และใช้งานง่ายได้ทุกที่เมื่อต้องการ ถ้าอยากรู้แล้วว่าในบทความจัดอันดับ 10 เครื่องซักผ้ามินิจะมีเครื่องซักผ้าอะไรบ้างไปติดตามกันได้
10 เครื่องซักผ้ามินิ
1.Sonar [PCM] EW-A160
![Sonar [PCM] EW-A160 Sonar [PCM] EW-A160](https://buyerguidereview.info/wp-content/uploads/2021/05/309286-1-l.jpg)
ราคา: 1,499 บาท
ขนาด: 37 x 32 x 50 ซม.
น้ำหนัก: 5 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 1 ถัง
ความจุ: 2.5-4 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: –
กำลังไฟ: –
ความโดดเด่นของกระแสที่ไม่มีใครต้านได้กับการรีวิวของเครื่องซักผ้ามินิรุ่น Sonar [PCM] EW-A160 เนื่องจากขนาดที่เล็ก ทำให้สามารถช่วยประหยัดเนื้อที่ เหมาะสำหรับชีวิตของคนเมืองในปัจจุบันที่มีพื้นที่อาศัยที่จำกัด แต่อย่างไรก็ดีความสามารถของเครื่องซักผ้ารุ่นนี้ถึงจะเล็ก แต่แรงปั่นกลับมีพลังสูงทำให้เสื้อผ้าที่ได้ทำความสะอาดจากตัวเครื่องสะอาด แต่ด้วยตัวถังที่เล็กทำให้ใส่ได้จำนวนน้อย ต้องซักหลายครั้งถึงจะได้ปริมาณเท่ากับเครื่องซักผ้าปกติ
ด้านวัสดุตัวเครื่องทำจากพลาสติกคุณภาพสูง ทำให้มีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการใช้งาน เรื่องอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้ามินินี้จึงหายห่วงไปได้เลย เพราะว่าอยู่ได้นานตามการดูแลของผู้ใช้เพราะวัสดุสามารถที่จะเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ด้านการใช้งานของตัวเครื่องเองไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เปิดฝา ทำการใส่เสื้อผ้า หรือสิ่งของที่ต้องการซักลงไป และทำการปั่นได้เลย ตัวเครื่องสามารถทำงานได้เงียบ ไม่ส่งเสียงรบกวนเหมือนกับเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ รับรองได้ว่าถ้ากำลังมองเครื่องซักผ้าขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้ง่าย ตัวเลือกอย่าง Sonar [PCM] EW-A160 ก็ดูดีไม่น้อย
ข้อดี
– ช่วยประหยัดเนื้อที่
– พลาสติกคุณภาพสูง
– ใช้งานง่าย
ข้อเสีย
–
2. IMARFLEX WM-201

ราคา: 2,390 บาท
ขนาด: 34 x 55 x 58 ซม.
น้ำหนัก: 10 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 2 ถัง
ความจุ: 2 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: 18 ลิตร
กำลังไฟ: 90 วัตต์
ความน่าสนใจของตัวเครื่องซักผ้ามินิ IMARFLEX WM-201 คือการที่ตัวเครื่องมีมาแบบ 2 ถัง ทำให้พร้อมซัก และปั่นแห้งได้เลยทีเดียว เพราะเครื่องซักผ้ามินินี้มีการติดตั้งมอเตอร์แบบแยกถังมาให้ อย่างไรก็ตามถึงจะขนาดเล็กมากเพียงแค่ 2 กก. แต่ด้านการทำงานเต็มที่ และความสามารถเกินขนาดด้วยฟังก์ชันที่มีเสริมสำหรับการซักผ้าแบบถนอมตัวผ้าโดยเฉพาะ ใครที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้ามินิที่จะซักพวกชุดชั้นใน หรือเสื้อผ้าสีเฉพาะที่มีเนื้อผ้าบาง ตัวเครื่อง IMARFLEX WM-201 ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
ด้านงานวัสดุของเครื่องซักผ้ามินินี้ก็เรียกได้ว่าทนทาน แข็งแรงดี ด้วยพลาสติกชนิด ABS ที่มีคุณสมบัติไม่เกิดสนิม ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับเครื่องซักผ้าจากแบรนด์เดียวกัน รุ่นนี้อาจจะมีน้ำหนักที่มากกว่าเพียงเล็กน้อย แต่ก็แลกมาด้วยความแข็งแรงที่มากกว่ารุ่นก่อนหลายเท่าตัว สำหรับด้านประสิทธิภาพในการทำงานดูเหมือนจะดีเกินตัว เพราะด้วยแรงไฟฟ้า 90 วัตต์ สามารถที่จะปั่น และทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ แต่อาจจะทำให้เกิดอาการถังเอียงในขณะปั่นได้ ซึ่งควรจะต้องระวังในการใส่เสื้อผ้าก่อนซักให้ดี
ข้อดี
– 2 ถัง ทำให้พร้อมซัก และปั่นแห้งได้
– ทนทาน แข็งแรงดี ด้วยพลาสติกชนิด ABS
– ไม่เกิดสนิม
ข้อเสีย
– ต้องเลือกวางเสื้อผ้าให้สมดุล
3. Ecio SM-MW2503

ราคา: 869 บาท
ขนาด: 32.5 x 35.5 x 52.2 ซม.
น้ำหนัก: 5.5 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 1 ถัง
ความจุ: 4 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: –
กำลังไฟ: 130 วัตต์
ถ้าไม่เคยลองใช้เจ้าเครื่องซักผ้ามินิมาก่อน และที่นี่คือครั้งที่จะลองศึกษา ซื้อมาใช้งานดูสักครั้งต้องการเครื่องซักผ้ามินิที่ราคาแสนถูก Ecio SM-MW2503 ที่มาในราคาหลักร้อยก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยโปรแกรมการซักทั่วไปที่มีทั้งระบบในการซักผ้าตามปกติ และการปั่นแห้งที่เสร็จอยู่ในเครื่องเดียว หน้าเมนูที่มาพร้อมคู่มือภาษาไทยทำให้ใช้งานง่าย เหมาะกับแม่บ้านในทุกครัวเรือน อย่างไรก็ดีด้วยน้ำหนักที่ไม่เยอะมากเพียง 5.5 กก. ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย พร้อมที่จะอยู่ได้ในทุกมุมห้อง
สำหรับด้านการใช้งานตัวเครื่องซักผ้า Ecio SM-MW2503 นี้สามารถที่จะซักผ้าได้มากสุดถึง 4 กก. โดยที่ตัวเครื่องสามารถทำการปั่นด้วยความเร็ว และซักได้เร็วสูงสุดเพียง 15 นาทีแต่เพียงเท่านั้น ทำให้เครื่องซักผ้าในราคาประหยัดที่สามารถใช้งานได้ขนาดนี้เป็นที่นิยมอยู่อย่างมากในหลายบ้าน แต่อย่างไรก็ตามในกรณีของการปั่นแห้ง มีความจำเป็นที่ทางผู้ใช้งานต้องคอยบิดน้ำออกจากผ้าเพื่อที่จะได้ผ้าที่แห้งพร้อมสำหรับการตาก และควรใส่เพียงครั้งละ 2 – 3 ชิ้น เพื่อให้ได้ผ้าที่แห้งอย่างมีประสิทธิภาพ จุดสังเกตสำหรับการใช้งาน Ecio SM-MW2503 ไม่ควรที่จะใส่ผ้าจนเกิน 4 กก. เพราะว่าการใส่ผ้าในจำนวนมาก จะเป็นการทำให้ใช้งานของเครื่องหนักเกินไป และจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เครื่องซักผ้ามีอายุการใช้งานที่สั้นลง
ข้อดี
– ซักได้เร็วสูงสุดเพียง 15 นาที
– ทนทาน แข็งแรง
– มีโปรแกรมในการช่วยซัก
ข้อเสีย
– ใส่เสื้อผ้าได้น้อย ต้องทำการซักเสื้อผ้าหลายรอบ
4. Konion XPA75-11P

ราคา: 1,290 บาท
ขนาด: 39 x 37 x 54.5 ซม.
น้ำหนัก: 7 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 1 ถัง
ความจุ: 3 กก.
ตั้งเวลา: 10 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: –
กำลังไฟ: 150 วัตต์
เครื่องซักผ้าสไตล์มินิมอลที่บินตรงมาจากประเทศเกาหลี ด้วยตัวเครื่องที่เล็ก ดูเข้าได้เข้าทุกสไตล์ของบ้าน ความน่าสนใจอย่างหนึ่งที่จะทำให้คุณแม่บ้านใช้งานได้ง่ายด้วยหน้าเมนูที่มีมาพร้อมทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ด้านวัสดุของตัวเครื่องซักผ้ามินินี้ทำมาจากพลาสติกใสเนื้อเรซิน ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งานว่าจะเกิดสนิม เพราะด้วยเนื้อเรซินที่ยากต่อการเกิดสนิม และที่สำคัญมีความแข็งแรง คงทนต่อทุกสภาพการใช้งาน สามารถที่จะทำการซักได้มากสุดถึง 3.5 กก. ในกรณีปั่นแห้งอาจจะได้น้อยลงมาเหลือเพียง 1 กก. หรือถ้าเทียบกับเสื้อยืดก็จะได้ประมาณ 4 ตัว อาจจะเป็นจำนวนที่น้อย และต้องทำการปั่นแห้งหลายครั้งเพื่อให้ได้ปริมาณของเครื่องซักผ้าเครื่องใหญ่ แต่สำหรับการซักชุดชั้นในพร้อมปั่นแห้ง เรียกได้ว่าเหมาะสมได้ดี
ด้านการใช้งานของตัวเครื่องซักผ้ามินินี้สามารถที่จะทำการซักผ้าได้สะอาดพอตัว ด้วยอัตราการปั่นอยู่ที่ 400 รอบต่อนาที ถ้าใช้ในการซักผ้าจะใช้เวลาโดยเฉลี่ยเพียงครั้งละ 10 นาที สำหรับปั่นแห้งใช้เวลาสั้นเหลือ 3 นาทีแต่เพียงเท่านั้น ด้านการปั่นแห้งสำหรับตัวเครื่อง Konion XPA75-11P ถือได้ว่าทำออกมาได้ดี เพราะเสื้อผ้าที่ได้ทำการปั่นแห้งแล้วแทบจะไม่มีความชื้น เพียงแค่ตากแดดอ่อน ๆ ก็แห้งสนิทได้โดยเร็ว
ข้อดี
– ดีไซน์สวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
– ซักเสื้อผ้าสะอาด ไม่ตกค้างสิ่งสกปรก
– ใช้เวลาซักที่เสร็จสิ้นเพียง 10 นาทีเท่านั้น
ข้อเสีย
– ซักเสื้อผ้าได้ค่อนข้างจำกัดในแต่ละครั้ง
5. Meier SW-311

ราคา: 1,299 บาท
ขนาด: 37.5 x 38.5 x 53.5 ซม.
น้ำหนัก: 4.5 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 1 ถัง
ความจุ: 4.5 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: –
กำลังไฟ: 200 วัตต์
เมื่อเปรียบกับเครื่องซักผ้ามินิในตลาด ตัว Meier SW-311 เป็นเครื่องซักผ้ามินิขนาดเล็กที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นชัดเจน ด้วยขนาดสามารถที่จะนำไปวางไว้บนโต๊ะได้เลยทีเดียว แต่ด้วยขนาดที่เล็กมากเพียงนี้ทำให้อาจจะมีปัญหาในด้านการใช้งานได้ กรณีที่ใส่ผงซักฟอกเกินความจำเป็น อาจจะทำให้ตัวเครื่องที่มีความสามารถในการปั่นต่ำ ไม่สามารถล้างผงซักฟอกได้หมด ต้องทำการซักหลายครั้ง อุปกรณ์เสริมที่ให้มาก็ดูเป็นลักษณะงานออกแบบที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตัวเครื่อง และวัสดุของอุปกรณ์เสริมไม่แข็งแรงเท่ากับเครื่องซักผ้า
ในด้านประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องซักผ้ามินินี้คือ ความสามารถในการซักผ้าอยู่ที่ 15 นาที และสำหรับการซักแห้งอยู่ที่ 3 นาที หากต้องการซักแห้งในปริมาณผ้าที่เยอะ หรือต้องการให้ผ้ามีความแห้ง จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการปั่นที่ค่อนข้างนาน จนอาจจะเป็นปัญหาในระยะยาวกับมอเตอร์โดยตรงได้ เพราะมอเตอร์ของ Meier SW-311 ค่อนข้างร้อนง่าย ทางที่ดีควรที่จะใส่เสื้อผ้าลงน้อย ๆ และค่อยทำการปั่นแห้งไปเรื่อย ๆ จะเป็นทางออกที่ดีกว่า อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาจากการใช้งานเครื่องซักผ้ามินินี้คือ ปุ่มกดในการใช้งานอยู่ภายในเครื่อง ทำให้อาจจะโดนน้ำได้ตลอดควรที่จะเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ
ข้อดี
– สามารถวางไว้บนโต๊ะได้เนื่องจากมีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา
– ซักผ้าอยู่ที่ 15 นาที และสำหรับการซักแห้งเพียง 3 นาที
ข้อเสีย
– มีขนาดเล็กจึงไม่เหมาะกับการใส่เสื้อผ้าจำนวนมาก
6. SONAR EW-S260

ราคา: 2,539 บาท
ขนาด: 56 x 36 x 60 ซม.
น้ำหนัก: 10.6 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 2 ถัง
ความจุ: 3.5 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: 18 ลิตร
กำลังไฟ: 200 วัตต์
อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นเครื่องซักผ้ามินิก็จริง แต่มีมาให้ถึง 2 ถัง พร้อมที่จะทำการซักผ้า และซักแห้งได้ในเวลาเดียวกัน แต่ก็ยังคงรักษาขนาด และความเล็กกะทัดรัด ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เพราะน้ำหนักน้อย และงานออกแบบที่ทำให้ตัวเครื่องซักผ้าสามารถอยู่ได้ในทุกมุมของห้อง ด้านงานวัสดุของเครื่องซักผ้าทำมาจากพลาสติก ABS ไม่ทำให้เกิดสนิม และที่สำคัญแข็งแรง ทนต่อทุกสภาพอากาศ ด้วยวัสดุลักษณะนี้จะมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนานกว่าวัสดุทั่วไปของเครื่องซักผ้ามินิรุ่นอื่น หรือแบรนด์อื่น
ด้านการใช้งานของเครื่องซักผ้ามินิรุ่นนี้เรียกได้ว่าออกแบบเพื่อตอบโจทย์กับเหล่านักศึกษาที่อยู่ตามหอพัก และไม่อยากที่จะนำเสื้อผ้าไปซักกับคนอื่น ด้วยฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ถึง 2 ฟังก์ชันด้วยกัน รูปแบบแรกคือการซักผ้าแบบปกติ และอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับการซักผ้าแบบถนอม เหมาะสำหรับการซักชุดชั้นใน และผ้าบาง ๆ
ข้อดี
– มีมาให้ถึง 2 ถัง
– ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ถึง 2 ฟังก์ชัน
– ทำมาจากพลาสติก ABS ไม่ทำให้เกิดสนิม
ข้อเสีย
– หากต้องการซักผ้าจำนวนมาก อาจจะไม่เหมาะกับเครื่องซักผ้าเครื่องนี้
7. Thompson RBS Mini washing

ราคา: 3,890 บาท
ขนาด: 37.5 x 38.5 x 53.5 ซม.
น้ำหนัก: 4 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 1 ถัง
ความจุ: 4 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: –
กำลังไฟ: 180 วัตต์
สำหรับราคาของเครื่องซักผ้ามินินี้อาจจะถือได้ว่ามีราคาสูงเมื่อเทียบกับราคาเครื่องซักผ้ามินิรุ่นอื่น แต่ด้วยประสิทธิภาพในการใช้งานที่หลากหลาย และงานออกแบบที่รวมไปถึงลักษณะของตัวเครื่องซักผ้าที่เล็ก และเคลื่อนย้ายได้ง่ายจึงทำให้เหมาะกับทั้งคนวัยเรียน และทำงานที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย อย่างไรก็ดีตัวเครื่องมีระบบการดูแลความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูง เมื่อมีการเปิดฝาเครื่อง เครื่องปั่นที่ทำงานอยู่จะหยุดทำงานทำให้บ้าน หรือคอนโดที่มีเด็กเล็กหายห่วงเรื่องความปลอดภัยของเด็กไปได้
ด้านความสามารถในการใช้งานเรียกได้ว่า ประสิทธิภาพสมกับราคา ตัวเครื่องซักผ้ามินินี้สามารถที่จะทำการซัก และปั่นแห้งต่อได้ทันที โดยที่ตัวเครื่องที่ใช้กำลังไฟฟ้าน้อยทำให้ประหยัดค่าไฟ และที่สำคัญคือไร้เสียงรบกวน ผู้ใช้สามารถที่จะทำการซักผ้า และทำกิจกรรมอื่นร่วมได้โดยไร้เสียงรบกวน ด้านการซักแห้งของเครื่องซักผ้านี้สามารถที่จะมีแรงปั่นได้ดี ทันทีที่นำผ้าออกจากการซักแห้งเพียงแค่สะบัด ตากแดดอ่อน ๆ ก็แห้งสนิท
ข้อดี
– มีการเปิดฝาเครื่อง เครื่องปั่นที่ทำงานอยู่จะหยุดเพื่อความปลอดภัย
– สามารถทำการซัก และปั่นแห้งต่อได้ทันที
– ใช้กำลังไฟฟ้าน้อยทำให้ประหยัดค่าไฟ
ข้อเสีย
– มีราคาสูงเมื่อเทียบกับราคาเครื่องซักผ้ามินิรุ่นอื่น
8. PAUL TIGER SW-311SP

ราคา: 1,290 บาท
ขนาด: 32 x 34 x 48.5 ซม.
น้ำหนัก: 4 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 1 ถัง
ความจุ: 3.5 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: –
กำลังไฟ: 180 วัตต์
เป็นเครื่องซักผ้าที่ราคาไม่แรงมาก เหมาะสำหรับนักศึกษาที่อยู่หอ และไม่อยากทำการซักผ้าด้วยมืออีกต่อไป ตัวเครื่องซักผ้านี้ทำมาจากพลาสติก ABS ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องของการทำความสะอาด หรือสนิม เพราะสามารถที่จะดูแลรักษาได้ง่าย มีอายุการใช้งานที่นานพอสมควร อีกทั้งยังสามารถมองทะลุเข้าไปภายในระหว่างที่ตัวเครื่องทำงานได้อีกด้วย เพื่อให้ทราบสถานการณ์ทำงาน หรือสิ่งสกปรกที่มีอยู่ในเสื้อผ้าระหว่างทำการซัก สำหรับการใช้งานอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่ากับเครื่องซักผ้ามินิอื่น ๆ เพราะด้วยขนาดที่ค่อนข้างเล็กทำให้ต้องทำการใส่เสื้อผ้าหลายครั้ง และต้องซักหลายรอบ แต่ถ้าต้องการเครื่องซักเสื้อผ้าสำหรับเสื้อผ้าบางชิ้น ตัวเลือกอย่างเครื่องซักผ้ามินินี้ก็น่าสนใจทีเดียว
ข้อดี
– ราคาไม่แรงมาก เหมาะสำหรับนักศึกษาที่อยู่หอ
– ทำมาจากพลาสติก ABS
ข้อเสีย
– ขนาดเล็ก ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าจำนวนมาก
9. Konion XPA75-14B

ราคา: 2,490 บาท
ขนาด: 37.5 x 38.5 x 53.5 ซม.
น้ำหนัก: 5.5 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 1 ถัง
ความจุ: 4 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: –
กำลังไฟ: –
กลับมาอีกครั้งกับแบรนด์เกาหลีที่ยังมีความโดดเด่น และน่าสนใจอยู่ที่งานออกแบบสไตล์มินิมอล ทำให้เหมาะกับทุกการจัดวาง โดยที่สำคัญมีช่องสำหรับการเก็บสายไฟ ทำให้สามารถม้วนเก็บสายไฟให้ดูเป็นระเบียบได้ งานวัสดุทำมาจากพลาสติกอย่างดี ทำให้ยากต่อการเป็นสนิม สามารถที่จะทำความสะอาดได้ง่าย
ด้านการใช้งานของตัวเครื่องเรียกได้ว่ามีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ ไม่ควรใส่เสื้อผ้ามากกว่า 4 กก. เพราะอาจจะทำให้เกิดเสียงดังระหว่างการทำงานได้ และในกรณีที่ทำการซักแห้งสำหรับเครื่องซักผ้ามินินี้ควรที่จะทำการบิดให้หมาดก่อนสักเล็กน้อย และค่อยทำการใส่ลงไปในถัง ด้านการซักแห้งถือได้ว่าน่าประทับใจ เพราะผ้าแทบจะมีความแห้งดี สามารถที่จะวางตากแบบสั้น ๆ ก็สามารถที่จะเก็บได้ทันที
ข้อดี
– งานออกแบบสไตล์มินิมอล
– สามารถม้วนเก็บสายไฟให้ดูเป็นระเบียบ
ข้อเสีย
– ไม่ควรใส่เสื้อผ้ามากกว่า 4 กก.
10. SHANBEN XPB36-388S

ราคา: 1,050 บาท
ขนาด: 33.5 x 33.5 x 48.5 ซม.
น้ำหนัก: 4.5 กก.
ประเภท: แบบรุ่น 1 ถัง
ความจุ: 3.5 กก.
ตั้งเวลา: 15 นาที
ระบบ: ซัก-ปั่น
การใช้น้ำ: –
กำลังไฟ: 260 วัตต์
จัดได้ว่าได้รับการรีวิวที่ดีจากผู้ใช้งานจริงบนโลกออนไลน์ ด้วยขนาดของตัวเครื่องที่อยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับรุ่นของเครื่องซักผ้ามินิในตลาด ด้วยขนาด 33.5 x 33.5 x 48.5 ซม. ทำให้เครื่องซักผ้านี้เหมาะกับคนที่ต้องการซักเสื้อผ้าทุกวัน ที่ไม่ได้มีจำนวนมาก เพราะตัวเครื่องสามารถทำงานได้แข็งแรง ไม่อืด และที่สำคัญคือสามารถทำความสะอาดได้ดีด้วยอัตราการหมุน 740 ต่อนาที อีกทั้งยังประหยัดไฟกว่าเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ ไร้เสียงรบกวน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องซักผ้ามินิในฝัน ความน่าสนใจของเครื่องซักผ้ามินินี้คือ ตัวเครื่องสามารถที่จะทำการซักปกติ และซักแห้งได้ภายในตัว ทำให้เหมาะกับคนที่มีพื้นที่จำกัด และต้องการซักผ้าอยู่บ่อยครั้ง แต่อย่างไรก็ดีจุดสังเกตควรที่จะใส่น้ำให้พอดีกับคู่มือ เพราะหากใส่มากเกินไปอาจทำให้น้ำล้นออกมาได้ง่าย ๆ
ข้อดี
– ไร้เสียงรบกวน
– ทำงานได้สะอาดเต็มประสิทธิภาพ พร้อมปั่นแห้งต่อได้ทันที
ข้อเสีย
– ใส่เสื้อผ้าซักต่อครั้งได้น้อย
ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดของเครื่องซักผ้ามินิที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ เพื่อให้ทุกคนได้นำข้อมูลของ 10 อันดับเครื่องซักผ้ามินิไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้ากัน โดยที่จะประกอบกับขนาดของเครื่อง ความต้องการที่ควรสอดคล้องกับลักษณะการใช้งาน ราคา และความจุ หากต้องการติดตามบทความรวบรวมสินค้าแบบนี้ได้อีก สามารถติดตามได้ผ่านช่องทางเดียวกันนี้