
สำหรับมือถือ Smart Phone ในยุคสมัยนี้ นอกจากจะมีมากมายหลายแบรนด์ให้เราได้เลือกสรรกันแล้วนั้น ยังมีหลายระดับหลายราคาตามคุณภาพของมือถืออีกด้วย โทรศัพท์มือถือในสมัยก่อนมีราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับสเปคที่คุณภาพต่ำ แต่ในปัจจุบันนี้แม้เทคโนโลยีจะมีความล้ำสมัยและมีฟีเจอร์ฟังก์ชันที่มากมายหลากหลายขึ้น แต่ราคาตลาดมือถือกลับถูกลงจนสามารถจับต้องได้ แม้ว่าราคาจะถูกแต่เรียกได้ว่ามีหลายแบรนด์ที่คุณภาพคุ้มค่าสมราคาเป็นอย่างยิ่ง
ในวันนี้เราจะพาท่านมารู้จักกับ มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาทจากหลายๆแบรนด์ ซึ่งมีความน่าใช้ น่าซื้อมาไว้ครอบครอง ด้วยสเปคที่แรง เร็ว รวมถึงคุณภาพของกล้องและมัลติมีเดียฟังก์ชันต่างๆที่ได้นำมาใส่ไว้ในตัว Smart Phone กันแบบจัดเต็มเพื่อให้ได้งานภาพถ่ายและวิดีโอออกมาได้คุณภาพดีที่สุด เป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ไม่แรงจนเกินไปแถมเรื่องของคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานยังมีความทนทานอีกด้วย
10 อันดับ มือถือราคาไม่เกิน 5,000 ที่ดีที่สุด
1. Redmi 9T (ราคากลาง 4,570 บาท)

ยี่ห้อ/รุ่น: Redmi 9T
ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 662 Octa Core 2.0 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.53 นิ้ว, 1,080 x 2,340 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 4/16 GB, ROM 64/128 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 6,000 mAh
ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 8 MP (Ultrawide) + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth)
มาแรงมากสำหรับมือถือราคาหลักพันแต่คุณภาพ Premium อย่าง Redmi 9T ที่สเปคเรียกได้ว่าคุ้มค่าสมราคามากเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพกล้องเรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มกัน มาพร้อมด้วยกล้องสี่ตัว (Quad Camera) ทั้ง Ultrawide และ Macro lens คุณภาพสูงที่รองรับถึง 2 ล้าน Pixel ชัดแจ๋วบวกกับรูรับแสงที่เล็กสุด ๆ รับได้ถึง f/1.79 สำหรับมือถือราคาขนาดนี้เรียกว่าทำมาได้อย่างเยี่ยมยอด
งานภาพและวิดีโอที่รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ HD พร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความอึดถึกทนถึง 6,000 mAH รองรับระบบ Fast Charging ในราคากลางที่ตอนนี้อยู่ที่ 4,570 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุด ๆ กับมือถือราคาไม่ถึง 5,000
ข้อดี
– มีกล้องหน้า และกล้องหลังที่สวยงามคมชัด เหมาะแก่การใช้งานหลากหลายประเภท
– ระบบเซนเซอร์ที่ใช้งานได้สะดวก เช่น ระบบ Fingerprint, Face Detectionและการกันน้ำ เป็นต้น
– รองรับระบบ Fast Charging แบตเตอรี่มีความทนทาน
– ดีไซน์สวยงามเหมาะแก่การใช้งานได้อย่างสะดวก
ข้อเสีย
– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายมากนักในตลาด
2. Samsung Galaxy A12

ยี่ห้อ/รุ่น: Samsung Galaxy A12
ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio P35 Octa Core 2.3 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 4 GB, ROM 128 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 5,000 mAH
ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 5 MP (Ultrawide) + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth)
แบรนด์ระดับโลกอย่าง Samsung ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีมากมายหลายรุ่นให้ลูกค้าได้เลือกหยิบจับกัน สำหรับรุ่นราคาสุดคุ้มอย่าง Samsung Galaxy A12 นั้นก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือถือราคาน่ารักไม่ถึง ที่เปิดตัวมาพร้อมกับราคาเพียง 4,999 บาท เท่านั้น แต่สเปคคุณภาพสูง ทั้ง ซีพียู Octa Core, หน่วยความจำมากถึง 4GB สำหรับมือถือตัวล่าง ๆ พร้อมกับแบตเตอรี่ที่อึดถึกทน นอกจากนี้งานกล้องสำหรับภาพถ่ายและวิดีโอก็เรียกได้ว่าจัดหนักเช่นกัน โดยมาพร้อมกับกล้อง 4 ตัว ที่มีความคมชัดเพื่อให้ได้งานภาพที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง อีกหนึ่งตัวเลือกที่สนใจแห่งปีก็ว่าได้เลยทีเดียว
ข้อดี
– เป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพสูงและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
– งานกล้องที่มีคุณภาพสูง
– ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ เข้าถึงได้ง่าย
– มีแบตเตอรี่ที่ทนทาน
ข้อเสีย
– ฟังก์ชันมัลติมีเดียมีน้อยและไม่ได้หวือหวาเหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไป
3. POCO M3

ยี่ห้อ/รุ่น: POCO M3
ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 662 Octa Core 2 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.53 นิ้ว, 1,080 x 2,340 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 4 GB, ROM 64/128 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 6,000 mAh
ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth)
สุดยอดแบรนด์น้องใหม่อย่าง POCO M3 ที่ราคาระดับกลางแต่คุณภาพสเปคนั้นจัดหนักจัดเต็ม โดยเฉพาะกล้องที่คุ้มค่าสมราคา ทั้งความละเอียดของเม็ด Pixel รวมถึง Macro เลนส์ ชัดแจ๋วเหมาะแก่การใช้งานภาพที่หลากหลาย หน่วยความจำและซีพียู Snapdragon 662 Octa Core ก็ได้รังสรรค์ออกมาอยู่บนมือถือรุ่นนี้แล้ว เรียกได้ว่าราคาเล็กแต่แรงมากจริง ๆ ด้วยราคาเพียง 4,999 บาท ความคงทนของหน้าจอกระจกแข็งแบบ Corning Gorilla Glass 3, แบตเตอรี่จัดหนักจัดเต็มถึง 6,000 mAh รวมถึงดีไซน์ที่สวยงามล้ำสมัยดูแพงพร้อมมีสีให้เลือกถึง 3 สี เรียกได้ว่าของดีขนาดนี้ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
ข้อดี
– ดีไซน์สวยหรูดูมีระดับ
– สเปคแรงเมื่อเทียบกับราคาและคุณภาพสูง
– แบตเตอรี่มีความทนทานมาก
– คุณภาพกล้องและวิดีโอที่มีประสิทธิภาพสูง
ข้อเสีย
– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายมากนักในตลาด
4. Infinix Note 8i

ยี่ห้อ/รุ่น: Infinix Note 8i
ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G80 Octa Core 2.0 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.78 นิ้ว, 720 x 1,640 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 4, ROM 128 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 5,200 mAH
ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth) + AL Lens
จอใหญ่สะใจเล่นกันมันสุด ๆ กับ Infinix Note 8i ในราคาเพียง 4,190 บาท มาพร้อมด้วยฟังก์ชันมัลติมีเดียมากมาย ไม่ว่าจะเป็น งานกล้องคุณภาพสูงมีความคมชัด งานภาพและงานบันทึกวิดีโอสำหรับงานสำคัญ ๆ ไม่ทำให้ผิดหวัง สเปคมือถือที่ใส่ชิปเซ็ต Helio G80 สำหรับใช้งานเกี่ยวข้องกับภาพกราฟิก, เกม 3D, Social Media รวมถึง วิดีโอ Real-time Streaming กันได้แบบเมามันจุใจ เป็นมือถือราคาสุดคุ้มที่ครอบคลุมทุกการใช้งานทุกฟังก์ชันมากมายเลยทีเดียวสำหรับรุ่นนี้
ข้อดี
– สเปคมีความแรงสูงเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย
– มีชิปเซ็ตประมวลผลกราฟิกเพื่อให้งานภาพที่ออกมามีคุณภาพสูงมากขึ้นกว่าเดิม
– ดีไซน์สวยงามดูดีมีระดับ
– มีแบตเตอรี่ที่มีความทนทาน รองรับ Fast Charging
ข้อเสีย
– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายมากนักในตลาด
5. Realme C21

ยี่ห้อ/รุ่น: Realme C21
ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G35 Octa Core 2.0 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 3 GB, ROM 32 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 5,000 mAH
ความละเอียดกล้องหน้า: 5 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + 2 MP (B&W) + 2 MP (Macro)
อีกหนึ่งแบรนด์ลูกของ Oppo อย่าง Realme อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับมือถือสเปคแรงแต่ราคาสุดคุ้มอย่าง Realme C21 ที่มีมาให้พร้อมกับกล้องหลังสามตัวสามเลนส์ สามารถรองรับการทำงานร่วมกับ AI โหมดเพื่อถ่ายรูปสำหรับโหมดกลางคืนได้อย่างสวยงามคมชัดคุณภาพงานสูง พร้อมกับเทคโนโลยีเร่งสีให้มีความสดมากขึ้นอีกด้วย เพิ่มความอึดถึกทนของแบตเตอรี่ที่ใส่มาให้รับความจุได้ถึง 5,000 mAh นั้น โดยราคาเพียง 4,200 บาท ยังไม่นับรวมดีไซน์เบาบางทันสมัยที่ดูดีมีระดับเหมาะสำหรับชาวไอทียุค 4.0 เป็นอย่างมาก
ข้อดี
– สเปคแรงในราคาสุดคุ้ม
– ดีไซน์สวยงามมีระดับ มีความสะดวกต่อการใช้งาน
– มีเทคโนโลยีปรับเร่งสีให้มีความคมชัดเหมาะสำหรับการถ่ายภาพกลางคืน
– มีแบตเตอรี่ที่ทนทานและรองรับ Fast Charging ได้ไว
ข้อเสีย
– อุปกรณ์เสริมหายาก
– เป็นแบรนด์ที่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในตลาด
6. Motorola Moto E7

ยี่ห้อ/รุ่น: Motorola Moto E7
ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G25 Octa Core 2.0 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 4 GB, ROM 64 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 4,000 mAH
ความละเอียดกล้องหน้า: 5 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 2 MP (Macro)
อีกหนึ่งแบรนด์ดังอย่าง Motorola ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์มือถือในตำนานที่มีการปรับตัวกับตลาดมือถือในยุคสมัยนี้ไปอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับรุ่น Motorola Moto E7 นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีราคาคุ้มค่าและมีกล้องที่เรียกได้ว่าคุณภาพสูงมาก ๆ สามารถถ่ายภาพได้คมชัดแม้จะเป็นโหมดกลางคืน (Night Vision) มาพร้อมกล้องหลังที่มีเซนเซอร์ความละเอียดสูงถึง 48 ล้าน Pixel และสามารถปรับความสว่างของแสงได้ถึง 4 เท่าด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัวของทางค่าย เป็น Smart Phone ราคาประหยัดที่เปิดตัวเพียง 3,990 บาท เท่านั้น
ข้อดี
– ราคาประหยัดคุ้มค่าสมราคา
– เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเป็นที่นิยม
– มี Night Vision สามารถปรับความสว่างได้ถึง 4 เท่า
– ใช้งานได้หลากหลาย มีมัลติฟังก์ชันที่น่าสนใจ
ข้อเสีย
– แบตเตอรี่ไม่ได้ทนทานมาก
– ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่กล้องมากกว่ามัลติมีเดียอื่น ๆ
7. Wiko Power U30

ยี่ห้อ/รุ่น: Wiko Power U30
ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G35 2.3 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.82 นิ้ว, 720 x 1,640 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 4 GB, ROM 64 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 6,000 mAH
ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + 2 MP + QVGA
สุดยอดมือถือจากประเทศฝรั่งเศสอย่างแบรนด์ Wiko ที่มักจะเน้นไปที่มือถือสเปคแรงแต่ราคาคุ้มค่า มาครั้งนี้ได้เปิดตัวอีกหนึ่งรุ่นอย่าง Wiko Power U30 ซึ่งราคาเปิดตัวเพียง 3,990 บาท เท่านั้นที่เน้นไปเรื่องของความอึดของแบตเตอรี่ที่จัดมาให้ถึง 6,000 mAh และเทคโนโลยี AI มาช่วยในเรื่องของการประหยัดแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานโดยไม่ต้อง ชาร์จไฟเพิ่มได้ถึง 4 วันเต็ม ดีไซน์มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว รวมถึงสเปคแรงที่เล่นเกมมัน ๆ ได้ไม่สะดุดอีกด้วยเรียกได้ว่าเป็นมือถือราคาประหยัดคุ้มค่าที่ใช้งานได้มากมายหลากหลายสุด ๆ
ข้อดี
– เหมาะสำหรับเล่นเกมแรงๆได้โดยไม่กระตุกพร้อมรับกับหน้าจอใหญ่จุใจ
– แบตเตอรี่มีความทนทานมาก รองรับการใช้งานได้ถึง 4 วันเต็ม
– กล้อง 3 ตัว เพื่องานภาพและวิดีโอที่ดีที่สุด
– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้
ข้อเสีย
– ดีไซน์ไม่โดดเด่น
– แบรนด์ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในตลาดมากนัก
8. Vivo Y12s

ยี่ห้อ/รุ่น: Vivo Y12s
ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio P35 Octa Core 2.3 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.51 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 3 GB, ROM 32 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 5,000 mAH
ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + 2 MP
สำหรับรุ่น Vivo y12s นั้น ทางแบรนด์ได้เคลมเรื่องของการดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีภูเขาน้ำแข็ง Glacier Blue ซึ่งมีความดูหรูหรามีราคาแพงเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ราคาจริงนั้นเพียง 4,299 บาท เท่านั้น เรื่องของสเปคก็ไม่ได้น้อยหน้าแบรนด์ไหนๆ เพราะงานภาพและวิดีโอจากทางค่ายนี้เขาก็ยังนำหนึ่งมาอยู่เสมอ พร้อมโหมด AI อัจฉริยะที่คอยช่วยปรับภาพ สี และความเรียบเนียนให้ออกมาสวยงามอย่างมีประสิทธิภาพ แบตเตอรี่มีความทนทานพร้อมเทคโนโลยี Fast Charging ที่ประหยัดพลังงานนานถึง 16 ชั่วโมงสำหรับการรับชมภาพยนตร์ HB อย่างต่อเนื่อง ราคาและสเปคจัดเต็มขนาดนี้ต้องหามาลองใช้สักเครื่องกันแล้ว
ข้อดี
– กล้องคุณภาพสูงด้วยพร้อมกับเทคโนโลยี AI สุดล้ำ
– ดีไซน์สวยงามดูมีระดับ
– แบตเตอรี่มีความทนทาน
– เป็นแบรนด์ที่เป็นที่นิยม
ข้อเสีย
– หาอุปกรณ์เสริมยาก
9. OPPO A15

ยี่ห้อ/รุ่น: Oppo A15
ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio P35 Octa Core 2.35 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.52 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 3 GB, ROM 32 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 4,230 mAH
ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth)
อีกหนึ่งรุ่นสุดคุ้มจากแบรนด์ Oppo อย่าง Oppo A15 ที่มีพร้อมกล้องหลังสามตัวผนวกรวมกับเทคโนโลยี AI ถ่ายภาพอัจฉริยะพร้อมรูรับแสง f/2.2 ซึ่งสามารถปรับให้งานภาพมีคุณภาพคมชัดหรือบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงระดับ HD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยดีไซน์สวยงาม และราคาสุดคุ้มเพียง 4,160 บาท เรียกได้ว่าเป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองจริง ๆ
ข้อดี
– คุณภาพกล้องคุ้มค่าสมราคา
– สามารถเล่นเกมแบบ Streaming หรือ Real-time ได้ไม่มีกระตุก
– เป็นแบรนด์ที่นิยมอย่างแพร่หลาย
ข้อเสีย
– แบตเตอรี่ไม่ทนทานนัก
– ฟังก์ชันมัลติมีเดียน้อย
10. Realme Narzo 30A

ยี่ห้อ/รุ่น: Realme Narzo 30A
ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G85 Octa Core 2.0 GHz
ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel
หน่วยความจำ: RAM 3/4 GB, ROM 32/64 GB
ความจุของแบตเตอรี่: 6,000 mAH
ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + B&W
อีกหนึ่งรุ่นสำหรับสาย Gaming ในราคาสุดคุ้มที่ต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียวอย่าง Realme Narzo 30A ที่มีมาให้พร้อมกับกล้อง AI Dual Camera ที่เหมาะสำหรับงานภาพสำหรับโหมด Portrait และ Super Nightscape โดยเฉพาะ รวมถึงเล่นเกมได้อย่างเมามันจุใจกับแบตเตอรี่ อึด ถึก ทน ที่สามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้ยาวนาน รุ่นนี้เขาได้ใส่แบตเตอรี่แบบจัดเต็มให้ถึง 6,000 mAh โดยราคารวมทั้งสิ้นเพียง 4,599 บาท เท่านั้น เรียกได้ว่ายังคงครองใจกับตลาดมือถือรุ่นกลางแต่สเปคแรงได้อยู่อย่างยาวนานเลยจริง ๆ
ข้อดี
– เหมาะสำหรับเล่นเกมแรงๆได้โดยไม่กระตุก
– แบตเตอรี่มีความทนทานมาก รองรับการใช้งานได้ถึง 6,000 mAh
– ถ่ายภาพสวยมีความคมชัด
ข้อเสีย
– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลาย
– หาอุปกรณ์เสริมยาก
เรียกได้ว่าตลาดมือถือในยุคสมัยนี้นอกนี้จากเทคโนโลยี ฟังก์ชัน และมัลติมีเดียต่าง ๆ จะมีความเร็ว แรง มากขึ้นแล้วนั้น ราคาของตลาดมือถือ Smart Phone ก็ถูกลงอีกด้วย ทำให้ผู้คนสามารถเลือกซื้อมือถือได้อย่างหลากหลายมากขึ้น คุณภาพของมือถือจากหลาย ๆ แบรนด์มีความน่าสนใจทั้งตัวฟังก์ชัน กล้อง ภาพถ่าย วิดีโอและภาพนิ่ง ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราทำการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้ก็เป็นรุ่น มือถือราคาต่ำกว่า 5,000 บาทที่น่าสนใจมาก