10 อันดับ มือถือราคาไม่เกิน 5,000 ที่ดีที่สุด

มือถือราคาไม่เกิน 5,000

สำหรับมือถือ Smart Phone ในยุคสมัยนี้ นอกจากจะมีมากมายหลายแบรนด์ให้เราได้เลือกสรรกันแล้วนั้น ยังมีหลายระดับหลายราคาตามคุณภาพของมือถืออีกด้วย โทรศัพท์มือถือในสมัยก่อนมีราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับสเปคที่คุณภาพต่ำ แต่ในปัจจุบันนี้แม้เทคโนโลยีจะมีความล้ำสมัยและมีฟีเจอร์ฟังก์ชันที่มากมายหลากหลายขึ้น แต่ราคาตลาดมือถือกลับถูกลงจนสามารถจับต้องได้ แม้ว่าราคาจะถูกแต่เรียกได้ว่ามีหลายแบรนด์ที่คุณภาพคุ้มค่าสมราคาเป็นอย่างยิ่ง

ในวันนี้เราจะพาท่านมารู้จักกับ มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาทจากหลายๆแบรนด์ ซึ่งมีความน่าใช้ น่าซื้อมาไว้ครอบครอง ด้วยสเปคที่แรง เร็ว รวมถึงคุณภาพของกล้องและมัลติมีเดียฟังก์ชันต่างๆที่ได้นำมาใส่ไว้ในตัว Smart Phone กันแบบจัดเต็มเพื่อให้ได้งานภาพถ่ายและวิดีโอออกมาได้คุณภาพดีที่สุด เป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ไม่แรงจนเกินไปแถมเรื่องของคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานยังมีความทนทานอีกด้วย

10 อันดับ มือถือราคาไม่เกิน 5,000 ที่ดีที่สุด

1. Redmi 9T 

2. Samsung Galaxy A12 

3. POCO M3 

4. Infinix Note 8i 

5. Realme C21 

6. Motorola Moto E7 

7. Wiko Power U30 

8. Vivo Y12s 

9. OPPO A15 

10. Realme Narzo 30A 

1. Redmi 9T (ราคากลาง 4,570 บาท)

Redmi 9T (ราคากลาง 4,570 บาท)

ยี่ห้อ/รุ่น: Redmi 9T

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 662 Octa Core 2.0 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.53 นิ้ว, 1,080 x 2,340 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 4/16 GB, ROM 64/128 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 6,000 mAh

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 8 MP (Ultrawide) + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth)

มาแรงมากสำหรับมือถือราคาหลักพันแต่คุณภาพ Premium อย่าง Redmi 9T ที่สเปคเรียกได้ว่าคุ้มค่าสมราคามากเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพกล้องเรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มกัน มาพร้อมด้วยกล้องสี่ตัว (Quad Camera) ทั้ง Ultrawide และ Macro lens คุณภาพสูงที่รองรับถึง 2 ล้าน Pixel ชัดแจ๋วบวกกับรูรับแสงที่เล็กสุด ๆ รับได้ถึง f/1.79 สำหรับมือถือราคาขนาดนี้เรียกว่าทำมาได้อย่างเยี่ยมยอด

งานภาพและวิดีโอที่รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ HD พร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความอึดถึกทนถึง 6,000 mAH รองรับระบบ Fast Charging ในราคากลางที่ตอนนี้อยู่ที่ 4,570 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุด ๆ กับมือถือราคาไม่ถึง 5,000

ข้อดี

– มีกล้องหน้า และกล้องหลังที่สวยงามคมชัด เหมาะแก่การใช้งานหลากหลายประเภท

– ระบบเซนเซอร์ที่ใช้งานได้สะดวก เช่น ระบบ Fingerprint, Face Detectionและการกันน้ำ เป็นต้น

– รองรับระบบ Fast Charging แบตเตอรี่มีความทนทาน

– ดีไซน์สวยงามเหมาะแก่การใช้งานได้อย่างสะดวก

ข้อเสีย

– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายมากนักในตลาด

2. Samsung Galaxy A12

Samsung Galaxy A12

ยี่ห้อ/รุ่น: Samsung Galaxy A12

ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio P35 Octa Core 2.3 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 4 GB, ROM 128 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 5,000 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 5 MP (Ultrawide) + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth)

แบรนด์ระดับโลกอย่าง Samsung ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีมากมายหลายรุ่นให้ลูกค้าได้เลือกหยิบจับกัน สำหรับรุ่นราคาสุดคุ้มอย่าง Samsung Galaxy A12 นั้นก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือถือราคาน่ารักไม่ถึง ที่เปิดตัวมาพร้อมกับราคาเพียง 4,999 บาท เท่านั้น แต่สเปคคุณภาพสูง ทั้ง ซีพียู Octa Core, หน่วยความจำมากถึง 4GB สำหรับมือถือตัวล่าง ๆ พร้อมกับแบตเตอรี่ที่อึดถึกทน  นอกจากนี้งานกล้องสำหรับภาพถ่ายและวิดีโอก็เรียกได้ว่าจัดหนักเช่นกัน โดยมาพร้อมกับกล้อง 4 ตัว ที่มีความคมชัดเพื่อให้ได้งานภาพที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง อีกหนึ่งตัวเลือกที่สนใจแห่งปีก็ว่าได้เลยทีเดียว

ข้อดี

– เป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพสูงและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

– งานกล้องที่มีคุณภาพสูง

– ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ เข้าถึงได้ง่าย

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  เมาส์ไร้สายน่าใช้

– มีแบตเตอรี่ที่ทนทาน

ข้อเสีย

– ฟังก์ชันมัลติมีเดียมีน้อยและไม่ได้หวือหวาเหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไป

3. POCO M3

POCO M3

ยี่ห้อ/รุ่น: POCO M3

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 662 Octa Core 2 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.53 นิ้ว, 1,080 x 2,340 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 4 GB, ROM 64/128 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 6,000 mAh 

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth)

สุดยอดแบรนด์น้องใหม่อย่าง POCO M3 ที่ราคาระดับกลางแต่คุณภาพสเปคนั้นจัดหนักจัดเต็ม โดยเฉพาะกล้องที่คุ้มค่าสมราคา ทั้งความละเอียดของเม็ด Pixel รวมถึง Macro เลนส์ ชัดแจ๋วเหมาะแก่การใช้งานภาพที่หลากหลาย หน่วยความจำและซีพียู Snapdragon 662 Octa Core ก็ได้รังสรรค์ออกมาอยู่บนมือถือรุ่นนี้แล้ว เรียกได้ว่าราคาเล็กแต่แรงมากจริง ๆ  ด้วยราคาเพียง 4,999 บาท ความคงทนของหน้าจอกระจกแข็งแบบ Corning Gorilla Glass 3, แบตเตอรี่จัดหนักจัดเต็มถึง 6,000 mAh รวมถึงดีไซน์ที่สวยงามล้ำสมัยดูแพงพร้อมมีสีให้เลือกถึง 3 สี เรียกได้ว่าของดีขนาดนี้ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ข้อดี

– ดีไซน์สวยหรูดูมีระดับ

– สเปคแรงเมื่อเทียบกับราคาและคุณภาพสูง

– แบตเตอรี่มีความทนทานมาก

– คุณภาพกล้องและวิดีโอที่มีประสิทธิภาพสูง

ข้อเสีย

– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายมากนักในตลาด

4. Infinix Note 8i

Infinix Note 8i

ยี่ห้อ/รุ่น: Infinix Note 8i

ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G80 Octa Core 2.0 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.78 นิ้ว, 720 x 1,640 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 4, ROM 128 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 5,200 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth) + AL Lens

จอใหญ่สะใจเล่นกันมันสุด ๆ กับ Infinix Note 8i ในราคาเพียง 4,190 บาท มาพร้อมด้วยฟังก์ชันมัลติมีเดียมากมาย ไม่ว่าจะเป็น งานกล้องคุณภาพสูงมีความคมชัด งานภาพและงานบันทึกวิดีโอสำหรับงานสำคัญ ๆ ไม่ทำให้ผิดหวัง สเปคมือถือที่ใส่ชิปเซ็ต Helio G80 สำหรับใช้งานเกี่ยวข้องกับภาพกราฟิก, เกม 3D, Social Media รวมถึง วิดีโอ Real-time Streaming กันได้แบบเมามันจุใจ เป็นมือถือราคาสุดคุ้มที่ครอบคลุมทุกการใช้งานทุกฟังก์ชันมากมายเลยทีเดียวสำหรับรุ่นนี้ 

ข้อดี

– สเปคมีความแรงสูงเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

– มีชิปเซ็ตประมวลผลกราฟิกเพื่อให้งานภาพที่ออกมามีคุณภาพสูงมากขึ้นกว่าเดิม

– ดีไซน์สวยงามดูดีมีระดับ

– มีแบตเตอรี่ที่มีความทนทาน รองรับ Fast Charging

ข้อเสีย

– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายมากนักในตลาด

5. Realme C21

Realme C21

ยี่ห้อ/รุ่น: Realme C21 

ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G35 Octa Core 2.0 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 3 GB, ROM 32 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 5,000 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 5 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + 2 MP (B&W) + 2 MP (Macro) 

อีกหนึ่งแบรนด์ลูกของ Oppo อย่าง Realme อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับมือถือสเปคแรงแต่ราคาสุดคุ้มอย่าง Realme C21 ที่มีมาให้พร้อมกับกล้องหลังสามตัวสามเลนส์ สามารถรองรับการทำงานร่วมกับ AI โหมดเพื่อถ่ายรูปสำหรับโหมดกลางคืนได้อย่างสวยงามคมชัดคุณภาพงานสูง พร้อมกับเทคโนโลยีเร่งสีให้มีความสดมากขึ้นอีกด้วย เพิ่มความอึดถึกทนของแบตเตอรี่ที่ใส่มาให้รับความจุได้ถึง 5,000 mAh นั้น โดยราคาเพียง 4,200 บาท ยังไม่นับรวมดีไซน์เบาบางทันสมัยที่ดูดีมีระดับเหมาะสำหรับชาวไอทียุค 4.0 เป็นอย่างมาก

ข้อดี

– สเปคแรงในราคาสุดคุ้ม

– ดีไซน์สวยงามมีระดับ มีความสะดวกต่อการใช้งาน

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ พัดลมโน๊ตบุ๊ค ที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ

– มีเทคโนโลยีปรับเร่งสีให้มีความคมชัดเหมาะสำหรับการถ่ายภาพกลางคืน

– มีแบตเตอรี่ที่ทนทานและรองรับ Fast Charging ได้ไว

ข้อเสีย

– อุปกรณ์เสริมหายาก

– เป็นแบรนด์ที่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในตลาด

6. Motorola Moto E7

Motorola Moto E7

ยี่ห้อ/รุ่น: Motorola Moto E7

ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G25 Octa Core 2.0 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 4 GB, ROM 64 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,000 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 5 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 2 MP (Macro) 

อีกหนึ่งแบรนด์ดังอย่าง Motorola ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์มือถือในตำนานที่มีการปรับตัวกับตลาดมือถือในยุคสมัยนี้ไปอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับรุ่น Motorola Moto E7 นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีราคาคุ้มค่าและมีกล้องที่เรียกได้ว่าคุณภาพสูงมาก ๆ สามารถถ่ายภาพได้คมชัดแม้จะเป็นโหมดกลางคืน (Night Vision) มาพร้อมกล้องหลังที่มีเซนเซอร์ความละเอียดสูงถึง 48 ล้าน Pixel และสามารถปรับความสว่างของแสงได้ถึง 4 เท่าด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัวของทางค่าย เป็น Smart Phone ราคาประหยัดที่เปิดตัวเพียง 3,990 บาท เท่านั้น

ข้อดี

– ราคาประหยัดคุ้มค่าสมราคา

– เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเป็นที่นิยม

– มี Night Vision สามารถปรับความสว่างได้ถึง 4 เท่า

– ใช้งานได้หลากหลาย มีมัลติฟังก์ชันที่น่าสนใจ

ข้อเสีย

– แบตเตอรี่ไม่ได้ทนทานมาก

– ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่กล้องมากกว่ามัลติมีเดียอื่น ๆ

7. Wiko Power U30

Wiko Power U30

ยี่ห้อ/รุ่น: Wiko Power U30

ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G35 2.3 GHz 

ขนาดของหน้าจอ: 6.82 นิ้ว, 720 x 1,640 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 4 GB, ROM 64 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 6,000 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + 2 MP + QVGA 

สุดยอดมือถือจากประเทศฝรั่งเศสอย่างแบรนด์ Wiko ที่มักจะเน้นไปที่มือถือสเปคแรงแต่ราคาคุ้มค่า มาครั้งนี้ได้เปิดตัวอีกหนึ่งรุ่นอย่าง Wiko Power U30 ซึ่งราคาเปิดตัวเพียง 3,990 บาท เท่านั้นที่เน้นไปเรื่องของความอึดของแบตเตอรี่ที่จัดมาให้ถึง 6,000 mAh และเทคโนโลยี AI มาช่วยในเรื่องของการประหยัดแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานโดยไม่ต้อง ชาร์จไฟเพิ่มได้ถึง 4 วันเต็ม ดีไซน์มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว รวมถึงสเปคแรงที่เล่นเกมมัน ๆ ได้ไม่สะดุดอีกด้วยเรียกได้ว่าเป็นมือถือราคาประหยัดคุ้มค่าที่ใช้งานได้มากมายหลากหลายสุด ๆ

ข้อดี

– เหมาะสำหรับเล่นเกมแรงๆได้โดยไม่กระตุกพร้อมรับกับหน้าจอใหญ่จุใจ

– แบตเตอรี่มีความทนทานมาก รองรับการใช้งานได้ถึง 4 วันเต็ม

– กล้อง 3 ตัว เพื่องานภาพและวิดีโอที่ดีที่สุด

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

ข้อเสีย

– ดีไซน์ไม่โดดเด่น

– แบรนด์ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในตลาดมากนัก

8. Vivo Y12s

Vivo Y12s

ยี่ห้อ/รุ่น: Vivo Y12s

ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio P35 Octa Core 2.3 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.51 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 3 GB, ROM 32 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 5,000 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + 2 MP 

สำหรับรุ่น Vivo y12s นั้น ทางแบรนด์ได้เคลมเรื่องของการดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีภูเขาน้ำแข็ง Glacier Blue ซึ่งมีความดูหรูหรามีราคาแพงเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ราคาจริงนั้นเพียง 4,299 บาท เท่านั้น เรื่องของสเปคก็ไม่ได้น้อยหน้าแบรนด์ไหนๆ เพราะงานภาพและวิดีโอจากทางค่ายนี้เขาก็ยังนำหนึ่งมาอยู่เสมอ พร้อมโหมด AI อัจฉริยะที่คอยช่วยปรับภาพ สี และความเรียบเนียนให้ออกมาสวยงามอย่างมีประสิทธิภาพ แบตเตอรี่มีความทนทานพร้อมเทคโนโลยี Fast Charging ที่ประหยัดพลังงานนานถึง 16 ชั่วโมงสำหรับการรับชมภาพยนตร์ HB อย่างต่อเนื่อง ราคาและสเปคจัดเต็มขนาดนี้ต้องหามาลองใช้สักเครื่องกันแล้ว

ข้อดี

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ USB Flash Drive ยี่ห้อไหนดี

– กล้องคุณภาพสูงด้วยพร้อมกับเทคโนโลยี AI สุดล้ำ

– ดีไซน์สวยงามดูมีระดับ 

– แบตเตอรี่มีความทนทาน

– เป็นแบรนด์ที่เป็นที่นิยม

ข้อเสีย

– หาอุปกรณ์เสริมยาก

9. OPPO A15

OPPO A15

ยี่ห้อ/รุ่น: Oppo A15

ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio P35 Octa Core 2.35 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.52 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 3 GB, ROM 32 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,230 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth)  

อีกหนึ่งรุ่นสุดคุ้มจากแบรนด์ Oppo อย่าง Oppo A15 ที่มีพร้อมกล้องหลังสามตัวผนวกรวมกับเทคโนโลยี AI ถ่ายภาพอัจฉริยะพร้อมรูรับแสง f/2.2 ซึ่งสามารถปรับให้งานภาพมีคุณภาพคมชัดหรือบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงระดับ HD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยดีไซน์สวยงาม และราคาสุดคุ้มเพียง 4,160 บาท เรียกได้ว่าเป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองจริง ๆ

ข้อดี

– คุณภาพกล้องคุ้มค่าสมราคา

– สามารถเล่นเกมแบบ Streaming หรือ Real-time ได้ไม่มีกระตุก 

– เป็นแบรนด์ที่นิยมอย่างแพร่หลาย

ข้อเสีย

– แบตเตอรี่ไม่ทนทานนัก

– ฟังก์ชันมัลติมีเดียน้อย

10. Realme Narzo 30A

Realme Narzo 30A

ยี่ห้อ/รุ่น: Realme Narzo 30A

ขนาดของซีพียู: Mediatek Helio G85 Octa Core 2.0 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 3/4 GB, ROM 32/64 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 6,000 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 13 MP + B&W 

อีกหนึ่งรุ่นสำหรับสาย Gaming ในราคาสุดคุ้มที่ต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียวอย่าง Realme Narzo 30A ที่มีมาให้พร้อมกับกล้อง AI Dual Camera ที่เหมาะสำหรับงานภาพสำหรับโหมด Portrait และ Super Nightscape โดยเฉพาะ รวมถึงเล่นเกมได้อย่างเมามันจุใจกับแบตเตอรี่ อึด ถึก ทน ที่สามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้ยาวนาน รุ่นนี้เขาได้ใส่แบตเตอรี่แบบจัดเต็มให้ถึง 6,000 mAh โดยราคารวมทั้งสิ้นเพียง 4,599 บาท เท่านั้น เรียกได้ว่ายังคงครองใจกับตลาดมือถือรุ่นกลางแต่สเปคแรงได้อยู่อย่างยาวนานเลยจริง ๆ

ข้อดี

– เหมาะสำหรับเล่นเกมแรงๆได้โดยไม่กระตุก

– แบตเตอรี่มีความทนทานมาก รองรับการใช้งานได้ถึง 6,000 mAh

– ถ่ายภาพสวยมีความคมชัด

ข้อเสีย

– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลาย

– หาอุปกรณ์เสริมยาก

เรียกได้ว่าตลาดมือถือในยุคสมัยนี้นอกนี้จากเทคโนโลยี ฟังก์ชัน และมัลติมีเดียต่าง ๆ จะมีความเร็ว แรง มากขึ้นแล้วนั้น ราคาของตลาดมือถือ Smart Phone ก็ถูกลงอีกด้วย ทำให้ผู้คนสามารถเลือกซื้อมือถือได้อย่างหลากหลายมากขึ้น คุณภาพของมือถือจากหลาย ๆ แบรนด์มีความน่าสนใจทั้งตัวฟังก์ชัน กล้อง ภาพถ่าย วิดีโอและภาพนิ่ง ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราทำการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้ก็เป็นรุ่น มือถือราคาต่ำกว่า 5,000 บาทที่น่าสนใจมาก