
กาแฟ จัดเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันนักดื่มกาแฟที่เป็นสาวกการดื่มกาแฟหันมาชงกาแฟดื่มกันเอง เพราะมีอุปกรณ์ในการชงกาแฟน้อยชิ้น และสามารถสร้างสรรค์รสชาติ วิธีการชง และการเลือกสรรกาแฟที่โดนใจตนเอง ทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และความหวานเจือปนต่าง ๆ ตามร้านกาแฟและคาเฟ่ต่าง ๆ ซึ่งการชงกาแฟด้วยหม้อต้มกาแฟ ก็เป็นหนึ่งทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจาก นักดื่มที่เป็นสาวกหรือคอกาแฟย่อมทราบกันดีว่า เมล็ดกาแฟสายพันธุ์ดีที่ผ่านการคั่วมาอย่างพิถีพิถันนั้น ยิ่งช่วยส่งเสริมให้รสชาติของกาแฟรสชาติดีและอร่อยยิ่งขึ้น และดีกว่ากาแฟซองสำเร็จรูปต่าง ๆ หากรูปแบบหรือวิธีการชงกาแฟที่เหมาะสม ก็จะยิ่งส่งผลให้รสชาติกาแฟอร่อยยิ่งขึ้น
ในที่นี้จะหมายถึง “หม้อต้มกาแฟ Moka Pot” ซึ่งเครื่องชงกาแฟรูปแบบหนึ่งที่ใช้ชงกาแฟสดให้รสชาติเข้มข้นถึงใจ เป็นเครื่องชงกาแฟที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวพักผ่อนแบบตั้งแคมป์ เพราะหม้อต้มกาแฟ Moka Pot มันถูกออกมาแบบมาให้ใช้ง่าย พกพาสะดวก ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน มีราคาไม่แพง และดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย อีกทั้งหม้อต้มกาแฟ Moka Pot จะช่วยให้สาวกหรือคอกาแฟ ที่ชอบท่องเที่ยวพักผ่อน ตั้งแคมป์ ได้ดื่มด่ำบรรยากาศของธรรมชาติยามเช้าด้วยรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ
หม้อต้มกาแฟ Moka Pot ใช้วิธีในการชงกาแฟแบบดั้งเดิมไม่ใช้ไฟฟ้า เป็นการต้มบนเตาแก๊สปิกนิกหรือเตาไฟฟ้าแทน อาศัยแรงดันของน้ำผ่านกาแฟบดขึ้นมาจนกลายเป็นกาแฟรสชาติเข้มข้น ซึ่งมีกลไกการทำงานเรียบง่าย มีส่วนประกอบไม่ซับซ้อน โดยจะประกอบด้วยเหยือกสำหรับใส่น้ำเปล่าเป็นฐานด้านล่าง (หม้อไอน้ำ) ชั้นกรองที่ใส่กาแฟบดมีช่องเล็ก ๆ และมีท่อตรงกลางยื่นลงไปในหม้อไอน้ำ และส่วนบนสุดจะเป็นเหยือกสำหรับเก็บกาแฟที่ดันขึ้นมาจากข้างล่าง
เชื่อว่าหลาย ๆ คน อาจจะยังไม่ทราบรู้วิธีการเลือกหม้อต้มกาแฟ Moka Pot ที่ถูกต้องและยังไม่ทราบว่าแบรนด์ไหน ยี่ห้อไหน ที่ได้รับความนิยมและสามารถหาซื้อได้ง่าย วันนี้จะมารวบรวมข้อมูล 10 อันดับ หม้อต้มกาแฟ Moka Pot ให้ทราบกัน รับรองได้ว่าจะมีส่วนช่วยให้การตัดสินใจเลือกซื้อหม้อต้มกาแฟ Moka Pot ให้เป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น
10 หม้อต้มกาแฟ Moka Pot ยี่ห้อไหนดี
1. Bialetti รุ่น New Brikka 2020
3. Ikea รุ่น Radig เครื่องทำ Espresso สเตนเลส Moka Pot
4. Bodum รุ่น Kenya French Press
5. Bialetti รุ่น Venus Coffee Pots
10. Duchess C100 หม้อต้มกาแฟอะลูมิเนียม Espresso ขนาด 150 ml.
1. Bialetti รุ่น New Brikka

ยี่ห้อ / รุ่น Bialetti รุ่น New Brikka 2020
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 120 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต Aluminum
ขนาดตัวเครื่อง ความสูง 19 เซนติเมตร และ เส้นผ่านศูนย์กลาง หม้อต้ม 10.5 เซนติเมตร
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 2 ถ้วย
สำหรับคนรักกาแฟแบบต้มเอง ชงเอง การมองหาหม้อต้มแบบ Moka Pot จาก Bialetti ประเทศอิตาลี ถือเป็นสุดยอดความปรารถนาที่ทุกคนต้องการ อีกทั้งราคาที่ยังไม่แพงมากนัก สามารถเลือกหาได้ สำหรับหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจ ได้แก่ Bialetti New Brikka 2020 ซึ่งถือเป็น หม้อต้มกาแฟสัญชาติอิตาลีรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเติมในส่วนของวาว์ลเพื่อสร้างแรงดันและครีม่าให้มีมากขึ้นระหว่างการต้มกาแฟ แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอก ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ Bialetti ได้อย่างครบถ้วน ชนิดที่ว่าดูก็รู้เลยว่าใครเป็นผู้ผลิต ส่วนระบบการทำงานในการต้มกาแฟนั้น เน้นการทำให้เกิดฟอง หรือครีม่าที่หนานุ่มมากขึ้นการรุ่นเดิมถึง 20 % เรียกได้ว่า ถึงว่าเคยมีหม้อต้ม Moka Pot ของค่ายนี้อยู่แล้ว ก็ยังจำต้องขอถอยเครื่องใหม่มีอีกสักชิ้น ด้วยความนุ่มละมุนของกาแฟที่สามารถทำออกมาได้มากขึ้นนั่นเอง อีกทั้งการใช้งานสามารถใช้ได้ทั้งเตาไฟฟ้า และเตาแก๊ส และยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับการใช้งานร่วมกับเตาไฟฟ้าได้อีกด้วย
สำหรับการต้มกาแฟในรุ่น New Brikka 2020 (Creamy) Moka Pot มีการผลิตออกมาด้วยกัน 2 รุ่นดังนี้
- Bialetti Brikka 2020 ขนาดสำหรับ 2 แก้ว มาในปริมาตร 90 มิลลิลิตร ได้กาแฟที่มากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมรสสัมผัสด้วย พรายฟองของครีม่าที่มีการขึ้นกว่าเดิม นำได้ว่าเป็นการออกแบบพัฒนาเพื่อให้ได้รสชาติและคุณภาพของกาแฟที่มีมากขึ้น
- Bialetti Brikka 2020 ขนาดสำหรับ 4 แก้ว ในปริมาณ 150 มิลลิลิตร ปรับเพิ่มจากขนาดมาตรฐานที่มีขนาดเพียงแค่ 130 มิลลิลิตร เพื่อความดื่มด่ำในรสกาแฟ และปริมาตรสำหรับการดื่มกับเพื่อนผู้ร่วมสังสรรค์กันในวงการกาแฟ
ข้อดี
– เป็นการออกแบบใหม่ โดยเพิ่มวาล์วควบคุมแรงดัน ทำให้เกิดครีม่าระหว่างการต้มได้มากขึ้น
– ออกแบบรูปโฉมใหม่ ทำจากอะลูมิเนียมเกรดทำอาหาร
– มีซิลิโคน สำหรับการเพิ่มแรงดันในการต้มมากถึง 2 เท่า เพื่อรีดคุณภาพ ทั้งกลิ่นและรสของกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่
ข้อเสีย
– ในการใช้งานต้องมีทักษะและความชำนาญ เพราะด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของ Bialetti ที่สร้างแรงดันได้มากกว่ารุ่นปกติ ถึง 2 เท่า
– ก่อนการต้มกาแฟ ต้องปิดตัวหม้อให้แน่น เนื่องจาก New Brikka 2020 มีแรงดันมากกว่าสูงกว่ารุ่นอื่น
2. Bialetti รุ่น Moka Express

ยี่ห้อ / รุ่น Bialetti รุ่น Moka Express
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 120 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต Aluminum
ขนาดตัวเครื่อง 9 ×16×16 เซนติเมตร
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 3 ถ้วย
สำหรับผู้ที่เป็นสาวกของ Moka Pot จากค่าย Bialetti แทบทุกคนต้องมีไว้ เพราะนี่คือพื้นฐานของการชงกาแฟในรูปแบบนี้กับ หม้อต้มกาแฟแบบ Bialetti Moka Express ซึ่งถือเป็นรุ่นคลาสสิคที่ผลิตออกมาตั้งแต่ปี 1919 จากประเทศอิตาลี และยังรักษารูปลักษณ์และการทำงานแบบดั้งเดิมเอาไว้มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยระบบการทำงานต้มผ่านแรงดัน ทำให้ได้รสชาติของกาแฟคุณภาพเยี่ยม โดยมีหลากหลายขนาดให้เลือก แต่ที่เป็นที่นิยมมากกว่าใคร ก็คงเป็นรุ่น 3 CUP ที่สามารถควบคุมแรงดันและการทำงานได้เป็นอย่างดี มีขนาดไม่ใหญ่เทอะทะมากจนเกินไป โดยทำจากวัสดุอะลูมิเนียมแบบ Food Grade ที่มั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการต้มกาแฟที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วไหล หรือต้องดัดแปลงหม้อต้มให้รักษาความดันไว้ได้ เหมือนดั่งหม้อราคาถูกตามท้องตลาดทั่วไป
ข้อดี
– Bialetti รุ่น Moka Express มีให้เลือกหลายขนาดความจุ ตามความต้องการใช้หม้อต้มกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มส่วนตัว หรือเปิดพื้นที่เพื่อการสังสรรค์ในการดื่มกาแฟ
– ทำจากวัสดุ อะลูมิเนียมแบบ Food Grade นำความร้อนได้ดี อีกทั้งมีด้ามจับเป็นพลาสติกทนความร้อนขนาดกระชับมืออีกด้วย
-ใช้งานได้ทั้งกับเตาแก๊ส และเตาไฟฟ้า ส่วนถ้าต้องการใช้งานร่วมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ต้องมีอุปกรณ์เสริมติดตั้งเอาไว้ด้านล่าง
3. Ikea รุ่น Radig เครื่องทำ Espresso สเตนเลส Moka Pot

ยี่ห้อ / รุ่น Ikea รุ่น Radig เครื่องทำ Espresso สเตนเลส Moka Pot
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 300 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต สเตนเลส
ขนาดตัวเครื่อง ความสูง 19 เซนติเมตร และ เส้นผ่านศูนย์กลาง หม้อต้ม 4 นิ้ว
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 6 ถ้วย
แบรนด์ดังจากแดนเหนือ ประเทศฟินแลนด์ อีเกีย มอบความสุขให้กับคนรักบ้านด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานในครัวเรือนมาอย่างมากมาย ด้วยดีไซน์ที่แปลกตาไม่เหมือนใคร จึงทำให้ Moka Pot รุ่น Radig มีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังเพิ่มวาล์วควบคุมแรงดันระหว่างการต้ม จนสามารถต้มกาแฟแบบ เอสเพรสโซ่ ได้อีกด้วย
วัสดุที่ใช้ขึ้นรูป Moka Pot รุ่น Radig ทำมาจากอะลูมิเนียมแบบ Food Grade ที่แข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานร่วมกับเตาต้มน้ำได้ทุกชนิด เรียกได้ว่า ไม่ต้องวิ่งหาเตาให้ลำบาก สามารถจัดการทำกาแฟได้ทั้งหมด อีกทั้งยังถอดล้างทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย โดยในรุ่นนี้ สามารถทำกาแฟได้มากถึง 6 CUP ด้วยกัน จะมีไว้ติดบ้านสำหรับการดื่มกาแฟยามว่าง หรือเตรียมหม้อต้มกาแฟไว้สำหรับยามพักผ่อนกับเพื่อนฝูงก็สามารถทำได้
ข้อดี
-การต้มกาแฟ สามารถทำกาแฟที่มีความเข้มข้นระดับ เอสเพรสโซ่ได้ เรียกว่า เป็นหม้อต้มกาแฟแรงดันสูงที่น่าสนใจตัวหนึ่ง
-วัสดุทำจาก อะลูมิเนียม คุณภาพดี สามารถใช้งานได้กับเตาทุกประเภท
4. Bodum รุ่น Kenya French Press

ยี่ห้อ / รุ่น Bodum รุ่น Kenya French Press
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 120 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต แก้วบอโรซิลิเกตและสเตนเลส
ขนาดตัวเครื่อง 10.7 x 19 x 38.5 เซนติเมตร
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 3 ถ้วย
Bodum ทำหม้อกาแฟออกมาได้ไม่เหมือนใคร กับรูปแบบที่เรียกว่า Kenya French Press นั่นคือ การแยกกากกาแฟออกจากน้ำกาแฟด้วยการดันก้านแยกกากกาแฟลงไปไว้ด้านล่าง จากนั้นก็สามารถรินเสิร์ฟให้กับทุกคนได้เลย ความพิเศษของหม้อต้ม Moka Pot รุ่นนี้คือ วัสดุที่นำมาทำเป็นโถแก้วสำหรับการต้มกาแฟ ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีจาก แก้วบอโรซิลิเกตและสเตนเลส ให้ทั้งความทนทาน และน้ำความร้อนได้ไปเป็นอย่างดี ขนาดบรรจุเพียง 12 ออนซ์ เรียกได้ว่า เหมาะทั้งสำหรับงานการใช้ในบ้าน หรือออกไปท่องเที่ยวภาคสนาม ก็มีหม้อต้มกาแฟดี ๆ ไว้ใกล้ ๆ ตัวตลอดเวลา
ข้อดี
– มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการพกพา
– ผลิตจากวัสดุที่เป็นแก้วบอโรซิลิเกตและสเตนเลส ที่คัดเลือกมาอย่างเฉพาะเพื่อประสิทธิภาพในการทนความร้อนและชงกาแฟออกมาให้ได้ดีที่สุด
5. Bialetti รุ่น Venus Coffee Pots
ยี่ห้อ / รุ่น Bialetti รุ่น Venus Coffee Pots
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 400 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต สเตนเลสสตีลเกรด 18/10
ขนาดตัวเครื่อง 11 x 13.5 x 21 เซนติเมตร
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 4 ถ้วย
Bialetti พลิกโฉมหน้าหม้อต้มกาแฟ Moka Pot ของตัวเองไปแบบจำกันไม่ได้แล้วกับ Venus Coffee Pots ในรูปแบบหม้อสเตนเลสรูปเหยือกทรงสูง น้ำหนักเบา ทำจากวัสดุอะลูมิเนียมระดับ Food Grade ที่บรรจงผลิตออกมาเป็นอย่างดี มีความจุมากถึง 400 มิลลิลิตร จึงเหมาะสำหรับการทำกาแฟคุณภาพดีในงานเลี้ยงขนาดใหญ่ แบบเสิร์ฟได้โดยไม่ติดขัด
อีกทั้งยังมีด้ามจับที่เป็นฉนวนกันความร้อนอย่างดี ให้การหยิบจับทั้งในการต้มและการเสิร์ฟกาแฟเป็นไปด้วยความราบรื่นไม่ร้อนลวกมือ
ความพิเศษของ Bialetti รุ่น Venus Coffee Pots คือ สามารถใช้งานด้วยการต้มบนเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ทำให้สามารถใช้งานกาต้มกาแฟรุ่นนี้ร่วมกับเตาได้ทุกประเภท สำหรับการทำกาแฟ เอสเพรสโซ่คุณภาพดี จาก หม้อต้มกาแฟของ Bialetti ที่คอกาแฟทั้งหลายยอมรับและให้ความไว้วางใจมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ข้อดี
-เป็นดีไซน์ใหม่ที่ดูแปลกตาจากค่าย Bialetti ที่ทำให้รูปลักษณ์ของหม้อต้มกาแฟ Moka Pot เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
– ทำจากวัสดุอะลูมิเนียมชนิดพิเศษแบบ 18/10 ขัดเงาวาววับ ไม่มีส่วนผสมของโครเมียม อันเป็นตัวการสำคัญของสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ
-ระบบวาล์วควบคุมแรงดันแบบ Inspection Valve เพื่อประสิทธิภาพการต้มกาแฟที่สมบูรณ์แบบ ได้คุณภาพระดับ เอสเพรสโซ่กันเลยทีเดียว
6. Bodum รุ่น Travel Press

ยี่ห้อ / รุ่น Bodum รุ่น Travel Press
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ ขนาด 12 ออนซ์
วัสดุที่ใช้ในการผลิต สเตนเลส 2 ชั้น
ขนาดตัวเครื่อง 9 x 8 x 17 เซนติเมตร
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 1 ถ้วย
BODUM ผลิตแก้วชงกาแฟที่ใช้งานแสนง่าย และในรุ่น Travel Press คือรุ่นที่เน้นใช้งานสำหรับการเดินทาง ด้วยรูปแบบการชงแบบ French Press ที่ดันกากกาแฟลงไปด้านล่าง เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับความนุ่มละมุนของกาแฟได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยไม่มีกากกาแฟมากวนใจให้เสียอารมณ์ สำหรับการออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ ทำเป็นรูปทรงกระบอก ใช้สเตนเลสเป็นวัตถุดิบในการขึ้นรูป จึงปลอดภัยจากสารตกค้างทุกชนิด และไม่เป็นสนิม โดยหุ้มสเตนเลสหนาถึงสองชั้น แต่ยังคงมีน้ำหนักเบา สามารถนำความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับการพกพาเพื่อการเดินทาง หรือ ใช้ทำกาแฟแบบง่าย ๆที่บ้านของคุณ มาพร้อมด้ามจับกันลื่นที่มีขนาดเหมาะ และ ซิลิโคน หุ้มรอบกระบอกต้มกาแฟ เพื่อกันการสูญเสียความร้อนจากตัวกาแฟอีกด้วย
ข้อดี
-เป็นกระบอกชงกาแฟที่ใช้งานได้ง่าย น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการเดินทางเป็นอย่างยิ่ง
-ทำจากวัสดุ สเตนเลส อย่างดี หุ้มด้วยซิลิโคนระดับ Food Grade ป้องกันการสูญเสียความร้อนของกาแฟดีเยี่ยม จะใช้เก็บเครื่องดื่มร้อนก็ได้ หรือเครื่องดื่มเย็นก็ดี
7. Blu Sasta รุ่น Moka Pot

ยี่ห้อ / รุ่น Blu Sasta รุ่น Moka Pot
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 300 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต สเตนเลส
ขนาดตัวเครื่อง –
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 6 ถ้วย
Blu Sasta นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดังด้านการทำอุปกรณ์สำหรับการทำอาหาร โดยได้ผลิตหม้อต้มกาแฟแบบ Moka Pot ออกมาเพื่อการจัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ซึ่งการออกแบบ Blu Sasta Moka Pot นี้ ฉีกโฉม Moka Pot แบบต้นตำรับที่ Bialetti ค่ายดังจากอิตาลีที่ทำเอาไว้ แต่ถึงกระนั้น ยังคงรักษารูปแบบการทำกาแฟต้มกาไว้เป็นอย่างดี สำหรับรูปลักษณ์โดยทั่วไป เป็นกาต้มกาแฟทรงสูง ทำจากสเตนเลสคุณภาพสูง นำความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก สามารถใช้งานได้ร่วมกับเตาทุกชนิด ทั้ง เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า รวมไปถึง เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอีกด้วย และยังสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ทิ้งให้เห็นคราบกาแฟ เลอะเปรอะเปื้อนบนตัวกา นับได้ว่าเป็นหม้อต้มกาแฟสไตล์ Moka Pot ในภาพลักษณ์ใหม่ ที่ยังคงรักษาคุณภาพของกาแฟเอาไว้ได้อย่างดียอดเยี่ยม
ข้อดี
-หม้อกาแฟ Moka Pot ดีไซน์ใหม่ที่มีความงดงาม และคุณภาพของวัสดุที่นำมาขึ้นรูประดับมาตรฐานสากล
-ด้ามจับทำมาจาก แบคกาไลต์ วัสดุสังเคราะห์พิเศษที่ถูกนำมาทำเป็นด้ามจับของ Blu Sasta กันความร้อนได้ดียอดเยี่ยม และยังจับถนัดมืออีกด้วย
-ใช้งานได้ทั้งเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า และเตาแม่เหล็กไฟฟ้า หมดปัญหาการไม่มีเตาต้มน้ำรองรับ
8. Scanproducts รุ่น Moka Pot

ยี่ห้อ / รุ่น Scanproducts รุ่น Moka Pot
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 150 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต Aluminum
ขนาดตัวเครื่อง –
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 3 ถ้วย
Scanproducts อีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพในการผลิตเครื่องครัวเพื่อการประกอบอาหาร ส่ง Moka Pot สำหรับการทำกาแฟ เอสเพรสโซ่ ลงสูงสนามด้วยขนาดความจุของตัวกา 150 มิลลิลิตร สามารถเสิร์ฟกาแฟได้ถึง 3 แก้วด้วยกัน ยังคงใช้สเตนเลสเป็นวัตถุดิบหลักในการทำหม้อต้ม แต่มาพร้อมด้วยรูปลักษณ์อาบสีดำ ตามมาตรฐานของกาแฟที่ยึดถือกันไว้ อีกทั้งยังสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ข้อแนะนำสำหรับการใช้งานครั้งแรกจากทางบริษัท คือให้ต้มกาแฟแล้วเททิ้งหนึ่งครั้งหลังจากแกะกล่องออกมาใช้งาน เพื่อใช้น้ำกาแฟในการดึงสิ่งตกค้างทุกอย่างออกไปให้หมด
ข้อดี
-เป็นหม้อต้มกาแฟระดับ เอสเพรสโซ่ ที่มีขนาดใหญ่ ต้มได้ถึง 6 แก้วต่อครั้ง
-ใช้งานได้บนเตาหลากหลายประเภท ทั้ง เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า รวมไปถึง เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอีกด้วย
9. Alicia Plus รุ่น EMKP 42.B

ยี่ห้อ / รุ่น Alicia Plus รุ่น EMKP 42.B
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 400 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต Aluminum
ขนาดตัวเครื่อง 12.0×18.5×22.0 เซนติเมตร
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 4 ถ้วย
แค่เห็นรูปทรง ก็ล้ำสมัยกว่าใครเพื่อนแล้ว Alicia Plus รุ่น EMKP 42.B คือหม้อต้มกาแฟอัจฉริยะ ที่มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ถูกออกแบบมาเพื่อทำการต้มกาแฟจำนวน 4 แก้ว โดยมีระบบเชื่อมโยงพลังงานไฟฟ้าภายในตัว เรียกว่าเพียงเสียบปลั๊ก แล้วนั่งรอ คุณก็จะได้รับกาแฟคุณภาพดีมาให้ดื่มได้ง่าย ๆ ทันที แถมยังมีระบบอุ่นให้กาแฟคงความร้อนไว้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงนับได้ว่าเป็นหม้อต้มกาแฟอัจฉริยะของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการทั้งความล้ำสมัย และการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพ
ข้อดี
-การออกแบบหม้อต้มกาแฟที่ล้ำยุค เป็นหม้อกาแฟสำหรับคนที่ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ
-มาพร้อมกับระบบการอุ่นกาแฟ ที่สามารถ warm กาแฟให้พร้อมต่อการเสิร์ฟได้ตลอด 24 ชั่วโมง
10. Duchess C100 หม้อต้มกาแฟอะลูมิเนียม Espresso ขนาด 150 มิลลิลิตร

ยี่ห้อ / รุ่น Duchess C100 หม้อต้มกาแฟอะลูมิเนียม Espresso
ขนาดความจุของกาต้มน้ำ 150 มิลลิลิตร
วัสดุที่ใช้ในการผลิต Aluminum
ขนาดตัวเครื่อง –
ขนาดความจุเทียบเท่ากับจำนวนถ้วยกาแฟ 1 ถ้วย
กับรูปลักษณ์อันแสนคลาสสิคของหม้อต้มกาแฟ Moka Pot กับ Duchess C100 ที่มาด้วยขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา สามารถต้มกาแฟได้ในปริมาณ 1-2 แก้ว ผลิตจากอะลูมิเนียมคุณภาพดี ใช้งานสะดวก พกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับเตาได้หลากหลายประเภท ยกเว้นแต่เพียง เตาแม่เหล็กไฟฟ้าเท่านั้น เป็นหม้อต้มกาแฟที่ออกแบบมาเพื่อความสำราญส่วนบุคคลอย่างแท้จริง
ข้อดี
– ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
– สามารถใช้งานร่วมกับ เตาแก๊ส และ เตาไฟฟ้า แต่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้
ทั้งนี้ ข้อมูลในบทความเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คนรู้จักหม้อต้มกาแฟ Moka Pot ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งรู้วิธีการเลือกหม้อต้มกาแฟให้เหมาะกับ ความชอบส่วนตัว รสนิยม และการใช้งาน หวังว่า 10 อันดับ หม้อต้มกาแฟ Moka Pot ที่ได้แนะนำมานั้น จะทำให้คุณตัดสินใจซื้อหม้อต้มกาแฟที่ชอบได้