10 อันดับ มือถือน่าใช้ ที่ดีที่สุดแห่งปี

มือถือน่าใช้

ในทุกวันนี้ไม่ว่าใคร ๆ ต่างก็ต้องมีมือถือไว้ใช้งาน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับสังคมแห่งยุคเทคโนโลยีในปัจจุบันไปแล้ว เพราะการใช้งานของมือถือในสมัยนี้มีความครอบคลุม และสามารถใช้งานได้หลากหลายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานสื่อ Social Media, การใช้รับ-ส่งข้อมูลระหว่างกัน, การใช้งานสำหรับองค์กร เรียกได้ว่าเป็นขั้นกว่าของการใช้งานเพียงแค่โทรเข้า-โทรออกทั่ว ๆ ไป

ความยากในยุคสมัยนี้คือเราจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่ามือถือรุ่นไหนดี รุ่นไหนน่าสนใจ ? เนื่องจากเทคโนโลยีมือถือมีความล้ำหน้าล้ำสมัยไปไกลมาก ไม่ว่าจะเป็นงานถ่ายภาพ และวิดีโอที่มีความคมชัดมากขึ้นโดยใช้มือถือเพียงเครื่องเดียวก็สามารถทำได้ การรับส่งข้อมูลที่อาศัยช่วงสัญญาณใหม่ล่าสุดอย่าง 5G ทำให้การรับส่งข้อมูลรวมถึงการ Streaming แบบ Real-time มีความรวดเร็วทันใจ ในวันนี้เราได้มีการรวบรวมสุดยอด 10 อันดับมือถือที่น่าใช้แห่งปี มาไว้ให้คุณลองศึกษาเพื่อเป็นตัวเลือกที่ช่วยในการตัดสินใจก่อนซื้อ โดยเราได้คัดสุดยอดมือถือคุณภาพแห่งปีมารวบรวมไว้ที่นี่ที่เดียว

10 อันดับ มือถือน่าใช้ ที่ดีที่สุดแห่งปี

1. OPPO Find X3 Pro

2. Xiaomi Mi 11 Special Edition 

3. Samsung Galaxy Quantum 2 (ยังไม่เปิดตัวราคา)

4. Apple iPhone 12 Pro Max

5. Realme X7 Pro Ultra

6. Vivo X60 Pro

7. OPPO Reno 5 Marvel Edition

8. SONY Xperia 10 II

9. Samsung Galaxy A32 5G

10. POCO F3

1. OPPO Find X3 Pro

OPPO Find X3 Pro

ยี่ห้อ/รุ่น: OPPO Find X3 Pro

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core 2.84 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.7 นิ้ว, 1,440 x 3,216 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 8/12 GB, ROM 256 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,500 mAh

ความละเอียดกล้องหน้า: 32 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 50 MP + 50 MP (Ultrawide) + 13 MP (Telephoto) + 3 MP (Microlens)

อีกหนึ่งสุดยอดแบรนด์มือถือที่เรียกได้ว่าคุณภาพเรื่องกล้องนี่ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอนอย่าง Oppo ที่ปีนี้ได้เปิดตัวรุ่น Find X3 Pro อย่างเป็นทางการ โดยคุณภาพเรื่องกล้องมีการพัฒนาให้มีความล้ำสมัยมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยเฉพาะกล้องหลังที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบและมีความละเอียดของเม็ด Pixel สูงมาก ไม่ว่าจะเป็น เลนส์ Ultrawide, Telephoto รวมถึง Microlens ที่สามารถถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็กได้แบบคมชัด หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED 10-bit ที่รองรับถึงพันล้านสี วัสดุของหน้าจอที่ใช้กระจกแข็งแบบ Gorilla Glass ที่มีความคงทนมากกว่าเดิม รวมถึงหน่วยประมวลผลและรองรับระบบปฏิบัติการ Android 11 ซึ่งเป็นตัวใหม่ล่าสุด

ระบบอัจฉริยะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบกันสั่น EIS, Face Detection, โหมดภาพถ่ายแบบปรับหน้าสวยอัตโนมัติ และ AI Camera เรียกได้ว่าถูกรวบรวมแบบจบครบสมบูรณ์ใน Smart Phone ตัวเดียว ไม่แปลกเลยที่จะขึ้นหิ้งเป็นอันดับมือถือน่าใช้ที่คนให้ความสนใจมากที่สุดแห่งปี

ข้อดี

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

– มีกล้องหน้า และกล้องหลังที่สวยงามคมชัด เหมาะแก่การใช้งานหลากหลายประเภท

– ฟังก์ชันมัลติมีเดียมีความหลากหลาย

– รองรับระบบ Fast Charging แบตเตอรี่มีความทนทาน

– ดีไซน์สวยงามเหมาะแก่การใช้งานได้อย่างสะดวก

ข้อเสีย

– มีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในแบรนด์เดียวกัน

2. Xiaomi Mi 11 Special Edition

Xiaomi Mi 11 Special Edition

ยี่ห้อ/รุ่น: Xiaomi Mi 11 Special Edition

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core 2.84 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.81 นิ้ว, 1,440 x 3,200 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 8 GB, ROM 256 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,600 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 20 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 108 MP + 13 MP (Ultrawide) + 5 MP (Macro)

ต้องยอมรับเลยว่า Xiaomi นั้น เป็นอีกหนึ่งแบรนด์มือถือที่โด่งดังมาอย่างยาวนาน โดยมักจะเน้นไปที่ความแรงของสเปคเครื่องเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นซีพียูที่มีความแรงและความเร็วสูง สำหรับรุ่นนี้มีความพิเศษเพิ่มไปที่ตัวกล้องที่พัฒนาให้สามารถรองรับความละเอียดได้ถึงร้อยล้าน Pixel พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ระบบสแกนลายนิ้วมือและFace Detection ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการ Access เข้าใช้ได้อัตโนมัติ

อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ยังเน้นไปที่เรื่องของการบันทึกวิดีโอและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งมีระบบกันสั่น และสามารถรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD, 4K และ 8K ซึ่งเป็นวิดีโอระดับสูงได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถซูมได้ถึง 6 เท่า หากมีการถ่ายงานสำคัญ ๆ  Xiaomi Mi 11 นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะคุณภาพสำหรับการใช้งานมัลติมีเดียนั้นมีประสิทธิภาพสูงมากเลยทีเดียว

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ นาฬิกาออกกำลังกาย ที่น่าใช้สุดแห่งปี

ข้อดี

– มีระบบกันสั่นเพื่อใช้สำหรับงานถ่ายวิดีโอและภาพเคลื่อนไหวคุณภาพสูง

– ดีไซน์สวยงามดูมีระดับ มีความสะดวกต่อการใช้งาน

– ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

ข้อเสีย

– หาอุปกรณ์เสริมได้ยากไม่ว่าจะเป็น Case หรือฟิล์มกันรอย เป็นต้น

3. Samsung Galaxy Quantum 2

Samsung Galaxy Quantum 2

ยี่ห้อ/รุ่น: Samsung Galaxy Quantum 2

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 855+ Octa Core 2.96 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.7 นิ้ว, 1,440 x 3,200 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 6 GB, ROM 128 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,500 mAh 

ความละเอียดกล้องหน้า: 10 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 64 MP + 12 MP (Ultrawide) + 5 MP (Depth)

อีกหนึ่งรุ่นที่เปิดตัวแบบมาแรงแซงโค้งสำหรับค่ายมือถือแบรนด์ดังอย่าง Samsung Galaxy Quantum 2 โดยยังไม่ได้เปิดเผยราคากลางในประเทศไทย โดยเรียกได้ว่ามาครั้งนี้เขาจัดเต็มเรื่องกล้องจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดของกล้องที่มากถึง 64 MP รวมถึงการใช้งานเลนส์ Ultrawide ที่ครอบคลุมถึง 12 ล้าน Pixel 

นอกจากนี้สำหรับสิ่งที่เป็นจุดขายของรุ่นนี้เลยคือเรื่องของการใช้ชิปควอนตัมสำหรับการเข้ารหัสเพื่อปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลในมือถืออีกด้วย เรียกได้ว่ามีความปลอดภัยขั้นสุด เป็นอีกรุ่นเรือธงที่สาวก Samsung ต้องจับตามองกันเป็นอย่างมาก ณ ตอนนี้ได้มีการจำหน่ายที่ต่างประเทศแล้ว สำหรับในประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวราคากลางในไตรมาสที่ 2 นี้

ข้อดี

– เป็นแบรนด์ที่แพร่หลายและเป็นที่นิยม

– มีชิปควอนตัมสำหรับการเข้ารหัสที่ปกป้องข้อมูลได้อย่างปลอดภัย

– พัฒนาเรื่องกล้องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

ข้อเสีย

– สเปคของเครื่องไม่โดดเด่นในด้านของ ซีพียู, RAM และROM

4. Apple iPhone 12 Pro Max

Apple iPhone 12 Pro Max

ยี่ห้อ/รุ่น: Apple iPhone 12 Pro Max

ขนาดของซีพียู: Apple A14 Bionic Hexa Core 3.1 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.7 นิ้ว, 1,284 x 2,778 Pixel

หน่วยความจำ: ROM 128/256/512 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 3,687 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 12 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 12 MP + 12 MP (Ultrawide) + 12 MP (Telephoto) + TOF 3D LiDAR scanner (depth)

สุดยอดแบรนด์มือถือระดับโลก ก็คงต้องยกให้กับค่าย Apple ผู้นำด้านเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนที่เปิดตัวมาเป็นเจ้าแรก ในปีนี้เขาก็ได้เปิดตัว iPhone 12 Pro Max รุ่นเรือธงของค่ายออกมาแข่งขันกับตลาดเช่นกัน ซึ่งมีการเพิ่มลูกเล่นของกล้องที่มากขึ้น ด้วยระบบ TOF 3D LiDAR ที่เพิ่มเข้ามาซึ่งทำให้มีการใช้งานกล้องหลังถึง 4 ตัว และขนาดของรูรับแสงที่รับได้ถึง f/2.4 และระบบกันสั่นสำหรับถ่ายภาพและวิดีโอที่เพิ่มเข้ามา

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาชิปเซ็ตซีพียูตัวใหม่ออกมาอย่าง A14 Bionic ที่เน้นไปในด้าน’koประมวลถ่ายภาพเพื่อให้ได้’koคุณภาพสูง นอกจากนี้ดีไซน์แบบใหม่ยังมีความเรียบหรูดูดีมีระดับแบบไฮคลาส และมีสีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ กราไฟต์, เงิน, ทอง และแปซิฟิกบลู ให้คุณได้เลือกสรรอีกด้วย สาวก iPhone งานนี้ต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียว

ข้อดี

– เป็นแบรนด์ที่แพร่หลายและเป็นที่นิยมระดับโลก

– มีความเสถียรและมีระบบปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยสูง

– มีการพัฒนาหน่วยประมวลผลกราฟิกเพื่อให้งานภาพที่ออกมามีคุณภาพสูงมากขึ้นกว่าเดิม

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

– ดีไซน์สวยงามดูดีมีระดับ

ข้อเสีย

– มีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในตลาด

– ความทนทานของแบตเตอรี่ต่ำกว่าแบรนด์อื่นเมื่อเทียบกับสเปคที่เท่ากัน

5. Realme X7 Pro Ultra

Realme X7 Pro Ultra

ยี่ห้อ/รุ่น: Realme X7 Pro Ultra

ขนาดของซีพียู: Mediatek Dimensity 1000+ Octa Core 2.6 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.55 นิ้ว, 1,080 x 2,400 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 8/12 GB, ROM 128/256 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,500 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 12 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 64 MP + 8 MP (Ultrawide) + 2 MP (Macro) 

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ ของเล่นแมว ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

อีกหนึ่งแบรนด์ลูกของ Oppo อย่าง Realme นั้น เรียกได้ว่ามาแรงมาก ๆ ในช่วง 3-4 ปีให้หลัง เพราะราคาที่จับต้องได้บวกกับสเปคของมือถือที่เรียกได้ว่าแรงมาก ๆ เมื่อเทียบกับราคา สำหรับรุ่นออกใหม่ล่าสุดอย่าง Realme X7 Pro Utra นั้น ด้วยดีไซน์จอโค้งสุดล้ำ พร้อมกล้อง 3 ตัวที่รองรับทั้งเลนส์ Ultrawide และเลนส์ Macro สำหรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมระบบเซนเซอร์ตรวจจับใบหน้า และลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งาน และการพัฒนากล้องระดับ HD สำหรับการถ่ายภาพ วิดีโอและภาพเคลื่อนไหวได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งคุ้มค่ากับราคาเป็นอย่างมาก

ข้อดี

– สเปคแรงในราคาสุดคุ้ม

– ดีไซน์จอโค้งสวยงามล้ำสมัย

– ดีไซน์สวยมีความสะดวกต่อการใช้งาน

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

– มีแบตเตอรี่ที่ทนทานและรองรับ Fast Charging ได้ไว

ข้อเสีย

– ฟังก์ชันมัลติมีเดียมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น

– เป็นแบรนด์ที่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในตลาด

6. Vivo X60 Pro

Vivo X60 Pro

ยี่ห้อ/รุ่น: Vivo X60 Pro

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 768G Octa Core 2.8 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.7 นิ้ว, 1,080 x 2,340 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 12 GB, ROM 256 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,700 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 32 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 13 MP + 13 MP + 8 MP 

มาแรงแซงโค้งมาก ๆ สำหรับงานสมาร์ตโฟนที่เน้นไปที่ความสวยงามและงานคุณภาพของกล้องอย่าง Vivo โดยรุ่นล่าสุดสำหรับเรือธงในปีนี้อย่าง Vivo X60 Pro นั้น ก็ยังคงเน้นไปที่คุณภาพของกล้องอย่างเช่นเคย โดยเพิ่มไปที่ฟังก์ชันการตรวจจับแสง ความสว่าง และปรับแสงให้ภาพที่ถ่ายออกมาสวยงามอย่างลงตัว ซึ่งจะมีเซนเซอร์ตรวจจับอัตโนมัติ 

กล้องหลังสี่ตัว (Quad Camera) โดยรองรับการซูมถึง 60 เท่า เหมาะสำหรับงานคอนเสิร์ต งานภาพถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง โหมดพาโนรามา 360 องศา รวมถึง AI Camera ที่พร้อมปรับความคมชัดของภาพตามสถานการณ์แบบอัตโนมัติ สำหรับสาวก Vivo ที่เน้นไปที่งานกล้องนั้นต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว

ข้อดี

– เน้นไปที่คุณภาพของกล้อง วิดีโอและภาพเคลื่อนไหวเพื่อให้ได้งานที่สมบูรณ์แบบ

– มีแบตเตอรี่ที่ทนทานต่อการใช้งาน

– ดีไซน์สวยงามดูดีมีระดับ

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

ข้อเสีย

– สเปคของเครื่องไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น

– ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่กล้องมากกว่ามัลติมีเดียอื่น ๆ

7. OPPO Reno 5 Marvel Edition

OPPO Reno 5 Marvel Edition

ยี่ห้อ/รุ่น: OPPO Reno 5 Marvel Edition

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 720G 

ขนาดของหน้าจอ: 6.7 นิ้ว, 1,080 x 2,340 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 8 GB, ROM 128 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,700 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 44 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 64 MP + 8 MP (Ultrawide) + 2 MP (Macro) + 2 MP (Depth) 

เอาใจสาวก Marvel ด้วยรุ่น OPPO Reno 5 Marvel Edition ซึ่งมาในธีม Avengers ที่มีโทนสีดำตัดแดงด้วยลวดลายพิเศษ ดีไซน์ที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้อย่างครบถ้วนเอาใจสาวก Marvel อย่างจริงจัง ในขณะที่สเปคก็ไม่ใช่เล่น ๆ เรียกได้ว่ามีคุณภาพสูงและแรงมาก ๆ ทั้งคุณภาพของกล้องที่ไม่แพ้รุ่นธรรมดาเลย มาพร้อมกับกล้องถึงสี่ตัวเพื่อให้ได้คุณภาพออกมายอดเยี่ยมที่สุด รองรับ 5G และมาตรฐานอื่น ๆ รวมถึงสเปคเครื่องที่แรงไม่แพ้ใคร สาวก Oppo และ แฟน ๆ Marvel ต้องจับตารอคอยกันเลยทีเดียว

ข้อดี

– ดีไซน์สวยงามแบบ Limited Edition สำหรับสาวก Marvel

– กล้องคุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยีของกล้องถึง 4 ตัว

– รองรับระบบ Fingerprint, Accelerometer, Geomagnetic, Proximity, Gravity, Gyroscope และPedometer

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

ข้อเสีย

– เป็นรุ่นที่มีลักษณะเฉพาะตัวเหมาะสำหรับลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น

8. SONY Xperia 10 II

SONY Xperia 10 II

ยี่ห้อ/รุ่น: SONY Xperia 10 II

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 690 5G Octa Core 2.0 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.7 นิ้ว, 1,080 x 2,340 Pixel

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ หน้าจอคอม ที่น่าสนใจมากที่สุด

หน่วยความจำ: RAM 6 GB, ROM 128 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,500 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 8 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 12 MP + 8 MP (Telephoto) + 8 MP (Ultrawide)  

แบรนด์ดังอย่าง Sony เองก็ได้มีการเปิดตัวมือถือน่าใช้รุ่นใหม่แห่งปี เช่นเดียวกัน อย่าง SONY Xperia 10 III โดยสเปคของเครื่องก็แรงไม่แพ้ใครด้วยระบบประมวลผลภาพกราฟิกพร้อมด้วยกล้องจาก Sony ที่ขึ้นชื่อว่ามีความเทพและมีความคมชัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รูรับแสงได้ถึง f/2.0 พร้อมระบบบันทึกวิดีโอระดับ HD ให้คุณได้งานคุณภาพสำหรับคนรักการถ่ายภาพและวิดีโอเป็นอย่างยิ่ง เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองสำหรับ เช่นเดียวกัน

ข้อดี

– กล้องคุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัวของ Sony

– รองรับระบบ Fingerprint, Accelerometer, Proximity, และ Gyroscope 

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

– มีคุณสมบัติกันน้ำได้ความลึกถึง 1.5 เมตร แบบชั่วคราว

ข้อเสีย

– สเปคของเครื่องไม่ได้หวือหวามากนัก

– ความนิยมไม่ค่อยแพร่หลาย

9. Samsung Galaxy A32 5G

Samsung Galaxy A32 5G

ยี่ห้อ/รุ่น: Samsung Galaxy A32 5G

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 690 5G Octa Core 2.0 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.5 นิ้ว, 720 x 1,600 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 8 GB, ROM 128 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 5,000 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 13 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 8 MP (Ultrawide) + 5 MP (Macro) + 2 MP (Depth)  

อีกหนึ่งรุ่นที่ราคาดีแต่คุณภาพ premium อย่าง Samsung Galaxy A32 5G ที่ได้รองรับเทคโนโลยี 5G อย่างเต็มตัว รวมถึงมีฟังก์ชันมัลติมีเดียต่าง ๆ ที่มีความคุ้มค่าสมราคาเป็นอย่างมาก โดยในรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องถึงสี่ตัว รองรับ เลนส์ Macro และ Ultrawide รวมถึง mode AI Camera และAI Face Beauty ที่มีความสมจริงและปรับภาพให้ดูสว่างเนียนขึ้นในทันตา สามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD และเทคโนโลยี 4K ได้ แบตเตอรี่ที่มีความ อึด ทนทาน รองรับไฟได้ถึง 5,000 mAh ในราคาที่ถูกสุด ๆ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าสมราคาและใช้งานได้หลากหลายมากจริง ๆ

ข้อดี

– ฟังก์ชันมัลติมีเดียมากมายคุ้มค่าสมราคา

– รองรับระบบเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับมือถือได้มากมายหลากหลาย 

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

– มีแบตเตอรี่ที่ทนทาน

ข้อเสีย

– สเปคของเครื่องไม่ได้หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ

10. POCO F3

POCO F3

ยี่ห้อ/รุ่น: POCO F3

ขนาดของซีพียู: Qualcomm Snapdragon 870 5G Octa Core 3.2 GHz

ขนาดของหน้าจอ: 6.67 นิ้ว, 1,080 x 2,340 Pixel

หน่วยความจำ: RAM 6/8 GB, ROM 128/256 GB

ความจุของแบตเตอรี่: 4,520 mAH

ความละเอียดกล้องหน้า: 20 MP

ความละเอียดกล้องหลัง: 48 MP + 8 MP (Ultrawide) + 5 MP Macro 

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดมือถือสเปคเทพกับแบรนด์น้องใหม่อย่าง POCO F3 ซึ่งเรียกได้ว่าทั้งตัวซีพียูสเปค RAM และความละเอียดของกล้องนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ มีความคุ้มค่ากับราคาที่จับต้องได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานกล้องที่มีสเปคสูงมากทั้งงานภาพ วิดีโอและเสียง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสำหรับมือถือที่ใช้ Software ช่วยได้อย่างมีคุณภาพสูง ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าสมราคาจริง ๆ

ข้อดี

– สเปคสูงเมื่อเทียบกับราคาของตลาด มีความคุ้มค่าสมราคามาก

– รองรับระบบเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับมือถือได้มากมายหลากหลาย 

– รองรับระบบ 5G และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในมาตรฐานที่ต่ำกว่าได้

ข้อเสีย

– ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลาย

– หาแหล่งให้บริการหลังการขายยาก

สำหรับสุดยอดมือถือน่าใช้ เราได้รวบรวมมาไว้ให้ท่านที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตัดสินใจสำหรับผู้ที่อยากได้สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ มาลองใช้ โดยฟีเจอร์ของมือถือในยุคสมัยนี้ ทั้งตัวกล้อง การถ่ายภาพและวิดีโอ รวมถึงการใช้งานที่รองรับ 5G ที่แพร่หลายมากขึ้น มีความทันสมัยมากขึ้น ดังนั้นการเลือกมือถือมาใช้สักเครื่องควรดูให้ครอบคลุมถึงความน่าเชื่อถือและความคุ้มค่าต่อการใช้งานอีกด้วย