10 อันดับ น้ำหอมผู้ชายยอดนิยม และได้รับความสนใจมากที่สุด

“น้ำหอมผู้ชาย” ถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สำคัญสำหรับหนุ่ม ๆ เป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ เนื่องจากว่าน้ำหอมจะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้หนุ่ม ๆ มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอีกเป็นอย่างมากเลยนั่นเอง โดยน้ำหอมผู้ชายนั้นจะมีภาพลักษณ์ รวมไปถึงกลิ่น ที่ค่อนข้างแตกต่างจากน้ำหอมของผู้หญิง เพราะน้ำหอมผู้ชายจะให้ความรู้สึกที่สุขุมนุ่มลึก รวมทั้งให้ความกระปรี้กระเปร่า ออกแนวสปอร์ตเป็นส่วนใหญ่ และในปัจจุบันนี้น้ำหอมผู้ชายมีให้เลือกอยู่มากมายหลากหลายแบรนด์ดัง แถมแต่ละแบรนด์ยังมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างกันออกไปอีกด้วย อีกทั้งยังมีความแตกต่างกันออกไปในเรื่องของราคา ดังนั้นจึงส่งผลให้หนุ่ม ๆ หลาย ๆ ท่านเลือกซื้อกันได้ยากมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นวันนี้หากหนุ่ม ๆ ท่านไหน ที่กำลังมองหาน้ำหอมให้มีความเหมาะสมกับตัวเอง และสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อ หรือเลือกน้ำหอมอย่างไรดี ในบทความนี้จะพาหนุ่ม ๆ ทุกท่านไปรู้จักกับน้ำหอมแบรนด์ดัง ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพื่อที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจให้หนุ่ม ๆ เลือกน้ำหอมกันได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

10 อันดับ น้ำหอมผู้ชายยอดนิยมมากที่สุด

1. Giorgio Armani Acqua di Gio Profumo Parfum 75 ml.

2. CHANEL BLEU DE EDP 100 ml.

3. Versace Pour homme EDT 100

4. DIOR SAUVAGE EDT 60ml.

5. MONTBLANC Legend Pour Homme 100 ml.

6. Coach for Men EDT 100 ml.

7. JAGUAR Classic Black Eau De Toilette for Men 100 ml.

8. Calvin Klein Eternity for Men EDT 100 ml.

9. Hugo Boss Bottled 100 ml.

10. Madame Fin Classic

1.Giorgio Armani Acqua di Gio Profumo Parfum 75 ml.

Giorgio Armani Acqua di Gio Profumo Parfum 75 ml.

ปริมาณ 75 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต ประเทศฝรั่งเศส

ปีที่จัดจำหน่าย 2016

ระยะเวลาของการติดทนนาน 6-8 ชั่วโมง

น้ำหอมผู้ชายแบรนด์ Giorgio Armani ด้วยความที่มีการผลิตขึ้นในประเทศฝรั่งเศส ดังนั้นจึงมีกลิ่นที่ให้ความหรูหรา และสุขุม จึงเหมาะสำหรับผู้ชายวัยทำงาน รวมทั้งคุณผู้ชายที่ชื่นชอบน้ำหอมแนว Aquatic, Aromatic, Woody และ spicy จากการออกแบบน้ำหอมตัวนี้ ที่จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากคลื่นทะเล ที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับก้อนหินสีดำ ถูกตั้งไว้อย่างโดดเด่นที่กลางทะเล

สำหรับส่วนประกอบหลัก ๆ ของน้ำหอมตัวนี้จะใช้ส่วนประกอบของ Bargamot เพื่อเป็นตัวเพิ่มความสดชื่นให้แก่น้ำหอมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมี Geranium, Sage, Rosemary, Patchouli และ Insane เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และให้ความรู้สึกแตกต่างจากน้ำหอมตัวอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับความติดทนนาน หลังจากมีการฉีดร่วมกับเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว น้ำหอมจะคงความหอมไว้ได้ยาวนาน ถึง 6-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว และที่สำคัญกลิ่นนี้ยังเป็นกลิ่นที่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์เลยทีเดียว

2. CHANEL BLEU DE EDP 100 ml.

CHANEL BLEU DE EDP 100 ml.

ปริมาณ 100 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต ประเทศฝรั่งเศส

ปีที่จัดจำหน่าย 2014

ระยะเวลาของการติดทนนาน 6-8 ชั่วโมง

น้ำหอมแบรนด์ Chanel เหมาะสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบสไตล์ Romantic อีกทั้งยังเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของหนุ่มเจ้าชู้สุดไฮโซอีกด้วย โดยน้ำหอมตัวนี้จะมีการผลิตมาจากประเทศฝรั่งเศส ที่เหมาะสำหรับผู้ชายวัยทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับน้ำหอมตัวนี้จะมาพร้อมกับความที่สึกที่สุภาพ หรูหรา และดูดีมีราคาเป็นอย่างมาก จึงเป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจให้กับหนุ่ม ๆ ทุกท่านได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และด้วยน้ำหอมตัวนี้ที่มีส่วนผสมอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น เปลือกไม้ Cedar ที่จะมีกลิ่นของ Vetiver, Frankincense และ Moss อีกทั้งยังให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่น และสดชื่นด้วยกลิ่นของผลไม้ Citrus, Grapefruit, Peppermint, Pink Pepper, Nutmeg และ Ginger ที่จะได้รับการออกแบบโดยใช้ภาพของท้องฟ้าริมทะเล และสายลมที่พัดมาพร้อมกับกลิ่นของผลไม้นานาชนิด

ในส่วนของดีไซน์ขวดน้ำหอมจะมีความหรูหรา และน่าสนใจเป็นอย่างมาก จากการใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมตามสไตล์น้ำหอม Chanel ที่มีการออกแบบเฉดสีให้มีสีน้ำเงินเข้ม ช่วยเพิ่มความสุขุม และน่าค้นหาไปในตัว ในส่วนของกลิ่นจะสามารถติดทนนานได้สูงสุด 6-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีอายุในการเก็บรักษานานถึง 5 ปีอีกด้วย เรียกได้ว่าซื้อครั้งเดียวคุ้มค่าอย่างแน่นอน

3. Versace Pour homme EDT 100

Versace Pour homme EDT 100

ปริมาณ 100 ml.

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ ยากำจัดเห็บหมัด ของสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุด

ประเทศที่ผลิต ประเทศอิตาลี

ปีที่จัดจำหน่าย 2007

ระยะเวลาของการติดทนนาน 4-6 ชั่วโมง

สำหรับน้ำหอมแบรนด์ Versace จะเป็นน้ำหอมที่เพิ่มความละมุน สุขุม และดูดีมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นจากการไล่ระดับการแสดงออกของกลิ่นน้ำหอม โดยจะเริ่มจากกลิ่นที่ให้ความสดชื่นจากกลิ่นเลม่อน, มะกรูด และดอกเนโรลี ต่อมาจะให้กลิ่นที่มีความคมชัดอย่ากลิ่นเจอเรเนียม, ไม้ซีดาร์ และดอกไฮยาซีน จบท้ายกับกลิ่นที่ให้ความเป็นเอกลักษณ์ และเพิ่มความโดดเด่นจากถั่วทองก้ามัสก์ และแอมเบอร์ อีกด้วย ดังนั้นน้ำหอมตัวนี้จึงให้กลิ่นที่ค่อนข้างซับซ้อน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก

ในส่วนของการติดทนนานของน้ำหอมตัวนี้ จะสามารถติดทนนานได้ 4-6 ชั่วโมง และยังมีอายุของการเก็บรักษาได้นานถึง 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ผลิต โดยจุดเด่นของน้ำหอมตัวนี้คือ จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ที่จะไม่ทำให้ฉุนมากจนเกินไป อีกทั้งยังสามารถใช้ได้ในหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการฉีดในการทำงาน การเรียน รวมถึงการไปท่องเที่ยว รวมทั้งยังสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสมอีกด้วย

4. DIOR SAUVAGE EDT 60ml.

DIOR SAUVAGE EDT 60ml.

ปริมาณ 60 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต ประเทศฝรั่งเศส

ปีที่จัดจำหน่าย –

ระยะเวลาของการติดทนนาน –

สำหรับน้ำหอมแบรนด์ DIOR นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยกลิ่นที่มีความหอมสดชื่นตามแบบฉบับของ DIOR ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพอย่างยอดเยี่ยมจาก Best of Beauty Award Winner ภายใต้นิตยสารของ Allure ด้วยการที่ตัวหอมตัวนี้จะมีการใช้กลิ่นของผลไม้เกรปฟรุต ซีตรัส และกลิ่นลาเวนเดอร์ ที่จะเพิ่มความรู้สึกคลีน และสะอาดเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังสามารถสร้างความโดดเด่น และสร้างความแตกต่างกับแบรนด์อื่น ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน

ในส่วนของส่วนประกอบหลัก ๆ ของน้ำหอมตัวนี้จะเน้น การให้กลิ่นที่มีความสดชื่นจาก Reggio di Calabria, Ambroxan และ Ambergis สำหรับน้ำหอมตัวนี้จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากอวกาศ และชั้นโอโซนที่มีการปกคลุมบริเวณเทือกเขา ผสมผสานกับความร้อนของดวงอาทิตย์ที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย อีกทั้งยังได้รับการผลิตขึ้นมาจากนักแต่งกลิ่นชื่อดังอย่าง Francois Demachy โดยน้ำหอมตัวนี้จะสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 3 ปีเลยทีเดียว ถือว่าเพียงพอต่อขนาดบรรจุภัณฑ์เป็นอย่างมาก แต่ข้อเสียของน้ำหอมตัวนี้คือ จะไม่สามารถระบุระยะเวลาการติดทนนานได้แน่ชัด เนื่องจากว่าระยะเวลาการติดทนของน้ำหอม จะขึ้นอยู่กับสภาพผิว และวิธีการฉีดของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน และที่สำคัญน้ำหอมตัวนี้จะมีกลิ่นที่ค่อนข้างแรงเป็นอย่างมาก หากมีการฉีดในปราณมากไป อาจจะทำให้เกิดการฉุนของกลิ่นได้

5. MONTBLANC Legend Pour Homme 100 ml.

MONTBLANC Legend Pour Homme 100 ml.

ปริมาณ 100 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต ประเทศฝรั่งเศส

ปีที่จัดจำหน่าย 2016

ระยะเวลาของการติดทนนาน –

สำหรับน้ำหอมแบรนด์นี้จะได้รับการผลิตขึ้นมาในประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 2016 โดยจะมีการดีไซน์ออกมาได้อย่างทันสมัย ช่วยเพิ่มความหรูหรา และดูดีมีราคาได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ซึ่งน้ำหอมตัวนี้จะมาพร้อมกับส่วนผสมหลักจากพืชทั้งหมด 5 ชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Lavender, Bergamot, Apple, Coumarin และ Oak Moss ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหรา อ่อนโยน และดูเป็นผู้ชายที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ด้วยกลิ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพืช และผลไม้ในวันที่อากาศเย็น อีกทั้งยังถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอ่อน ๆ ของดอกไม้นานาชนิด ส่งผลให้น้ำหอมตัวนี้สามารถใช้ในทุกสถานการณ์ และทุกโอกาสเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ แต่สำหรับข้อเสียของน้ำหอมกลิ่นนี้คือ จะไม่สามารถระบุระยะเวลาการติดทนของน้ำหอมได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากว่าระยะเวลาการติดทนของน้ำหอม จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละท่าน รวมทั้งรูปแบบการฉีดน้ำหอมด้วยเช่นกัน

6. Coach for Men EDT 100 ml.

Coach for Men EDT 100 ml.

ปริมาณ 100 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต สหรัฐอเมริกา

ปีที่จัดจำหน่าย 2017

ระยะเวลาของการติดทนนาน –

น้ำหอมตัวนี้จะได้รับการดีไซน์ขวดมาอย่างหรูหรา สวยงาม และทันสมัยเป็นอย่างมาก ด้วยการไล่เฉดสีของขวดจากสีขาวทางด้านล่าง ไปยังสีดำที่อยู่ด้านบน ในส่วนนี้จึงช่วยสร้างความแตกต่าง และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ Coach เป็นอย่างมากเลยทีเดียว และสำหรับน้ำหอมตัวนี้จะได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้ชายวัยทำงานอย่างแท้จริง จากกลิ่นโทนไม้หอม ๆ ที่ถูกพัฒนาแบบผสมผสานได้อย่างลงตัว จากนักพัฒนา และปรับแต่งกลิ่นจาก IFF ทั้งหมด 2 คนด้วยกัน ได้แก่ คุณ Anne Flipo และ Bruno Jovanovic นักปรุงแต่งกลิ่นที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

 ในส่วนของกลิ่นนั้น จะเริ่มต้นจากกลิ่นที่มีความสดชื่นจาก Green nashi pear, Bergamot และ Kimquat หลังจากนั้นจะมีการถูกแทนที่ด้วยกลิ่นที่มีความรู้สึกอบอุ่น และอมหวานเล็กน้อยจาก Cardamon, coriander และ Geranium โดยกลิ่นสุดท้ายนี้จะเป็นกลิ่นที่ให้ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากหนุ่ม ๆ ท่านไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นรูปแบบเดียวกับชาวอเมริกัน น้ำหอมตัวนี้นับเป็นอีกรุ่นที่จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน แต่ข้อเสียของน้ำหอมตัวนี้คือ จะไม่สามารถระบุระยะเวลาของการติดทนของกลิ่นได้อย่างชัดเจน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละท่าน และลักษณะของการฉีดน้ำหอมนั่นเอง

7. JAGUAR Classic Black Eau De Toilette for Men 100 ml.

JAGUAR Classic Black Eau De Toilette for Men 100 ml.

ปริมาณ 100 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต ประเทศอังกฤษ

ปีที่จัดจำหน่าย 2009

ระยะเวลาของการติดทนนาน –

สำหรับน้ำหอมแบรนด์ JAGUAR รุ่น Eau De Toilette นับเป็นรุ่นคลาสสิคที่ให้ปริมาณมาถึง 100 มิลลิลิตรเลยทีเดียว ในส่วนของรูปแบบขวดน้ำหอมจะมีขวดขนาดใหญ่ ที่มีความเท่ และความทันสมัยตามแบบฉบับของผู้ชายตามสไตล์ของน้ำหอมแบรนด์ JAGUAR และในด้านเอกลักษณ์ของกลิ่นน้ำหอมนั้น จะให้ความรู้สึกสดชื่น มีความเข้ม และดูเป็นผู้ใหญ่ในเวลาเดียวกัน แต่ยังคงความเรียบง่าย ธรรมดา ไม่ดูหวือหวามากจนเกินไป ทำให้น้ำหอมรุ่นนี้สามารถใช้ได้ในทุกโอกาส และทุกสถานการณ์เลยทีเดียว ตั้งแต่การทำงาน การเดินทางไปพบลูกค้า การเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ USB Flash Drive ยี่ห้อไหนดี

โดยแบรนด์นี้จะยังคงความคลาสสิคแบบดั้งเดิมของทางแบรนด์เอาไว้ ซึ่งน้ำหอมตัวนี้จะถูกออกแบบ และพัฒนามาอย่างยาวนานกว่า 11 ปีเลยทีเดียว ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบน้ำหอมกลิ่นสไตล์ชาวอังกฤษนั้น น้ำหอมตัวนี้จะสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แต่ข้อเสียของน้ำหอมตัวนี้คือ กลิ่นค่อนข้างออกไปในทางของผู้ใหญ่ จึงเหมาะสำหรับคนวัยทำงานเพียงเท่านั้น

8. Calvin Klein Eternity for Men EDT 100 ml.

Calvin Klein Eternity for Men EDT 100 ml.

ปริมาณ 100 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต สหรัฐอเมริกา

ปีที่จัดจำหน่าย 1990

ระยะเวลาของการติดทนนาน 3-6 ชั่วโมง

น้ำหอมตัวนี้นับเป็นอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยน้ำหอมจากแบรนด์ Calvin Klein จะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีหนุ่ม ๆ ให้ความสนใจ และใช้งานอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว จากราคาของน้ำหอมที่สามารถจับต้องได้ง่าย อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์ของกลิ่นที่ค่อนข้างจะถูกใจหนุ่ม ๆ ชาวไทย ทำให้น้ำหอมตัวนี้ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยน้ำหอมตัวนี้จะเหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ วัยเรียน และวัยทำงานเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่พอสมควร โดยลักษณะเด่นของกลิ่นน้ำหอมตัวนี้จะออกมาในรูปแบบของ Aromatic-Fougere ซึ่งจะได้รับการออกแบบ และปรับแต่งกลิ่นโดยคุณ Carlos Benaim

ในส่วนของกลิ่นนั้น จะเริ่มต้นจากกลิ่นที่ให้ความสดชื่นอย่างเช่น กลิ่นลาเวนเดอร์, ส้มแมนดาริน, มะกรูด และเลม่อน ต่อมาจึงให้กลิ่นจำพวกดอกไม้ และผลไม้ ซึ่งจะประกอบไปด้วย Coriander, Sage, Lilly of the valley, ดอกลิลลี่, ดอกส้ม, ดอกมะลิ, ผลจูนิเปอร์, โหระพา และเยเรเนียม และกลิ่นปิดท้ายที่จะมีการผสมผสานร่วมกับไม้จันทร์หอม, แอมเบอร์, มัสค์, นากหญ้าแฝก และ Brazilia Rosewood ที่ล้วนแต่จะเป็นกลิ่นที่มีความโดดเด่น เมื่อมีการผสมผสานเข้ากันแล้ว จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ได้ดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

9. Hugo Boss Bottled 100 ml.

Hugo Boss Bottled 100 ml.

ปริมาณ 100 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต เยอรมนี

ปีที่จัดจำหน่าย 1998

ระยะเวลาของการติดทนนาน –

สำหรับน้ำหอมแบรนด์นี้ จะถูกบรรจุมาภายในขวดทรงกลม สีใส ที่มีการดีไซน์สุดเรียบง่าย และยังคงความคลาสสิคไปในตัว โดยน้ำหอมตัวนี้จะได้รับการแต่งกลิ่นโดยคุณ Annick Menardo ซึ่งเป็นนักปรุงแต่งกลิ่นชาวฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงในด้านนี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งน้ำหอมตัวนี้ยังมาพร้อมกับขนาดความจุถึง 100 มิลลิลิตร จึงทำให้สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน และด้วยกลิ่นที่ได้รับการออกแบบมาในสไตล์ไม้ และผสมผสานเข้ากับกลิ่นผลไม้นานาชนิด เพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มความสดชื่น และลดโอกาสการเกิดกลิ่นฉุนได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของส่วนประกอบหลัก ๆ ของน้ำหอมตัวนี้คือ แอปเปิ้ล และซีตรัส ที่จะถูกปรุงแต่ง และผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว ซึ่งกลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นที่ออกมาในแนว Floral และ Spicy จาก Pelargonium, Warm Cinnamon และ Cloves ที่ได้ใส่เพิ่มเข้าไป อีกทั้งยังมีการใส่ส่วนผสมอื่น ๆ เข้าไปเพิ่มอีกด้วย อย่างเช่น Sandalwood, Vetiver และ Cedar เพื่อเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความโดดเด่น และสามารถสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

10. Madame Fin Classic

Madame Fin Classic

ปริมาณ 30 มิลลิลิตร

ประเทศที่ผลิต ประเทศไทย

ปีที่จัดจำหน่าย –

ระยะเวลาของการติดทนนาน 10-12 ชั่วโมง

มาถึงน้ำหอมแบรนด์ไทยที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ในด้านของกลิ่นนั้น จะเน้นในเรื่องของความสุขุม และดูมีภูมิฐานตามสไตล์หนุ่มสปอร์ตที่มีความไฮโซเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีกลิ่นอายของความเป็นฝรั่งเศสอยู่เล็กน้อยอีกด้วย จากหัวน้ำหอมที่มีคุณภาพสูง ที่ได้รับการนำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส ส่งผลให้น้ำหอมตัวนี้เหมาะสำหรับผู้ชายวัยทำงาน วัยรุ่น และวัยมหาลัย ที่กำลังมองหาน้ำหอมที่มีราคาย่อมเยาสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ในส่วนขององค์ประกอบหลัก ๆ ของน้ำหอมตัวนี้ เป็นพวกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม ถูกผสมผสานเข้ามารวมกันได้อย่างลงตัว และที่สำคัญที่สุด จุดเด่นของน้ำหอมตัวนี้คือ สามารถติดได้ทนนานกว่า 10-12 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นน้ำหอมตัวเดียวที่มีการติดทนนานมากที่สุดในกลุ่มน้ำหอมผู้ชายเลยทีเดียว

สำหรับการเลือกซื้อน้ำหอมผู้ชายให้ถูกใจตนเองมากที่สุดนั้น หลัก ๆ จะขึ้นอยู่กับรสนิยม และความชอบในแต่ละกลิ่นของแต่ละบุคคลเสียมากกว่า ซึ่งการเลือกใช้น้ำหอมจะไม่เกี่ยวกับแบรนด์ หรือแม้แต่ความนิยมตากกระแส เพราะถ้าหากเลือกน้ำหอมเพียงเพราะได้รับกระแสนิยมเป็นอย่างมาก แต่เรากลับไปชอบ ก็จะทำให้ใช้น้ำหอมโดยที่ไม่มีความสุข หรืออาจจะทำให้รู้สึกไม่อยากใช้ได้เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามในด้านของเอกลักษณ์ของแบรนด์ต่าง ๆ ระยะเวลาการติดทนของน้ำหอม หรือแม้แต่ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต และการแต่งตัวของผู้ใช้งาน นับเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ควรจะนำมาพิจารณาการเลือกซื้อน้ำหอมด้วยเช่นเดียวกัน เพราะน้ำหอมแต่ละกลิ่นจะมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว และไม่ได้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกโอกาส หรือทุกสถานที่ ดังนั้นการเลือกใช้น้ำหอมให้เหมาะสมกับโอกาส และการแต่งตัว ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเสริมบุคลิกภาพ เพิ่มเสน่ห์ และเพิ่มความเหมาะสมไปได้เยอะเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจากบทความที่กล่าวมาข้างต้น หวังว่าจะช่วยให้เหล่าคุณผู้ชายสามารถเลือกน้ำหอมที่ต้องการ และเลือกใช้น้ำหอมให้ถูกต้องตามโอกาส สถานการณ์ และไลฟ์สไตล์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น