
โปรเจคเตอร์ ถือเป็นอุปกรณ์อีกประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะการใช้งานที่ใกล้เคียงกันกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ และโทรทัศน์ ซึ่งมีหน้าที่ในการช่วยแสดงผลของข้อมูลต่าง ๆ ที่กำลังเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เช่น แท็บเล็ตและโทรทัศน์ ไปบนพื้นผิวต่าง ๆ ที่ทุกท่านต้องการให้ข้อมูลต่างแสดงผลอย่างอิสระ อาทิ ผนังห้อง เพดานห้อง รวมถึงพื้นหลังประเภทต่าง ๆ ประกอบกับโปรเจคเตอร์ยังสามารถที่จะปรับขนาด ซูมเข้าและซูมออก รวมถึงปรับความคมชัดได้ตามความต้องการ ส่งผลให้มีความยืดหยุ่นในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มักถูกนิยมใช้กับสถานที่ที่มีความกว้างขวาง เพื่อรองรับการใช้งานกับกลุ่มคนจำนวนมากนั่นเอง
แต่ทว่าในปัจจุบันอุปกรณ์ดังกล่าว ค่อนข้างมีตัวเลือกให้ทุกท่านได้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพ ราคา ฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงความสะดวกสบายในการพกพา จึงทำให้หลาย ๆ ท่านนิยมเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ไว้ใช้สำหรับเป็นเครื่องนันทนาการในวันหยุด ไม่ว่าจะเป็น การรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกม รวมถึงยังสามารถใช้ทำงานได้อีกด้วย และสำหรับท่านที่มีความสนใจ และต้องการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์มาไว้ในครอบครองแล้วล่ะก็ ทางเราก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 10 โปรเจคเตอร์แบรนด์ดัง เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกซื้อได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
วิธีเลือกซื้อโปรเจคเตอร์
การที่ทุกท่านต้องการที่จะได้โปรเจคเตอร์สักหนึ่งเครื่อง ที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของทุกท่านได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีวิธีการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ที่ดีด้วยเช่นกัน โดยจะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายส่วน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- เลือกจากรายละเอียดการแสดงผล ถือเป็นปัจจัยแรกที่ทุกท่านจำเป็นจะต้องทำการพิจารณา หากต้องการที่จะตัดสินใจซื้อโปรเจคเตอร์สักเครื่อง เนื่องจากส่งผลต่อการแสดงภาพที่คมชัด และสมจริงโดยตรง ทั้งนี้เพื่อเป็นความเพิ่มอรรถรสในการรับชมอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง นอกจากนี้ยังจำเป็นจะต้องเลือกการแสดงผลระดับ Full HD เพื่อเอื้อให้การแสดงผลมีความชัดเจน และช่วยลดโอกาสในการแสดงผลข้อมูลที่ผิดเพี้ยนได้อีกด้วย
- เลือกจากระยะในการฉายภาพ ในเรื่องของระยะการฉายภาพก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทุกท่านจำเป็นจะต้องทำการพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน โดยจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง และพื้นที่ในการใช้งานด้วย เพราะถ้าหากเป็นโปรเจคเตอร์รุ่นที่มีระยะในการฉายภาพที่มากจนเกินไป สำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก ก็อาจจะส่งผลให้ไม่สามารถแสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะต้องเปลี่ยนไปเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีระยะในการฉายภาพที่สั้นลง จึงจะถือเป็นทางเลือกที่ดีเป็นอย่างมากเลยนั่นเอง
- เลือกจากขนาดของการแสดงภาพ เนื่องจากขนาดของหน้าจอที่แตกต่างกัน ก็สามารถส่งผลให้ความรู้สึกในการรับชมสิ่งต่าง ๆ แตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะขนาดของการแสดงภาพ ที่มีขนาด 100 นิ้วขึ้นไป ก็จะทำให้ทุกท่านสามารถรับชมสื่อต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตามากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จำเป็นจะต้องเลือกขนาดของการแสดงภาพ ให้เหมาะสมขนาดของพื้นที่ด้วยเช่นกัน
ซึ่งต้องบอกเลยว่าปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าว ล้วนส่งผลกระทบต่ออรรถรสในการรับชมสื่อต่าง ๆ เป็นอย่างมาก หากทุกท่านนำวิธีการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ข้างต้น ไปปรับใช้ได้อย่างดีเยี่ยม ก็จะช่วยให้ได้รับโปรเจคเตอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
10 โปรเจคเตอร์ ที่ทุกคนควรมีติดบ้าน
1. Xiaomi Mijia Smart Compact DLP Office Conference Projector
2. PROJECTOR RD806 LED 2800 Lumens
1. Xiaomi Mijia Smart Compact DLP Office Conference Projector

แบรนด์/รุ่น: Xiaomi Mijia Smart Compact DLP Office Conference Projector
ความละเอียดของวิดีโอ: Full HD
ระยะในการฉายภาพ: 1-4 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: 11.5x15x15 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 1.3 กิโลกรัม
Xiaomi Mijia Smart Compact DLP Office Conference Projector โปรเจคเตอร์ขนาดเล็ก กะทัดรัด เหมาะสำหรับการพกพาเป็นอย่างยิ่ง ที่มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่ค่อนข้างทันสมัย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติต่าง ๆ มากมาย ที่จะช่วยให้ทุกท่านใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงรับชมสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการแสดงผลระดับ Full HD ที่ทำให้ภาพวิดีโอต่าง ๆ มีคุณภาพด้วยไดนามิกแบบ HDR10 ที่มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความสมจริงให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถควบคุมการสั่งการฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง
นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับรีโมตคอนโทรล ที่ใช้สำหรับควบคุมการทำงานของตัวเครื่องโปรเจคเตอร์ ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานก็ถือว่าสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ด้วยระยะฉายภาพระยะ 1-4 เมตร ที่ถือเป็นระยะการฉายภาพที่เหมาะสม อีกทั้งยังมาพร้อมกับลำโพงกระจายเสียงขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับระบบเสียงแบบ Dolby และระบบโฟกัสอัตโนมัติ เมื่อเปิดใช้งานตัวเครื่อง รวมถึงมีช่อง Optical RGB ที่สามารถทำงานร่วมกับ BP 4 ช่องได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
ข้อดี
– มีระบบโฟกัสอัตโนมัติ
– มีการแสดงผลวิดีโอแบบ HDR10
– มีระบบช่วยระบายความร้อน และมีเสียงรบกวนที่ค่อนข้างต่ำ
ข้อเสีย
– ไม่เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่
2. PROJECTOR RD806 LED 2800 Lumens

แบรนด์/รุ่น: PROJECTOR RD806 LED 2800 Lumens
ความละเอียดของวิดีโอ: Full HD
ระยะในการฉายภาพ: 1.7-9.2 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: 33.6×26.3×11.8 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 3.5 กิโลกรัม
PROJECTOR RD806 LED 2800 Lumens เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ความละเอียด Full HD ที่มาพร้อมกับระบบเสียง Dolby Digital ที่มีระยะการฉายภาพอยู่ที่ 1.7-9.2 เมตร ที่ช่วยให้สามารถแสดงผลได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เหมือนกับว่ามีโรงภาพยนตร์ส่วนตัวในบ้านเลยนั่นเอง ประกอบกับการทำงานของ Super color technology และค่าความสว่างในระดับ 2,800 Lumens ที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้แสดงภาพสิ่งต่าง ๆ อย่างคมชัด และสมจริงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่สำคัญก็คือโปรเจคเตอร์รุ่นนี้ มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนานหลายปีเลยทีเดียว
ข้อดี
– มีระบบ Super color technology ที่ช่วยให้ภาพคมชัด สีไม่ผิดเพี้ยน
– มีระบบเสียงแบบ Dolbt Digital
ข้อเสีย
– ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
3. WIFI Projector P8

แบรนด์/รุ่น: WIFI Projector P8
ความละเอียดของวิดีโอ: Full HD
ระยะในการฉายภาพ: 0.3-3 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: 8×14.7×18 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 250 กรัม
WIFI Projector P8 อีกหนึ่งโปรเจคเตอร์ขนาดเล็ก กะทัดรัด ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เหนือความคาดหมาย เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การเล่นวิดีโอเกม การใช้งานในรูปแบบโฮมเธียเตอร์ รวมถึงการใช้งานเพื่อความบันเทิงต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth 4.0 บนเครื่องสมาร์ตโฟน รวมถึงการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต HDMI, USB และ DC กับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่สามารถรองรับได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh ที่ช่วยให้ตัวเครื่องโปรเจคเตอร์สามารถทำงานได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมงเต็ม
ข้อดี
– มีขนาดเล็ก กะทัดรัด สามารถพกพาได้อย่างสะดวก
– มีขนาดการฉายภาพตั้งแต่ 40-120 นิ้ว
– รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
ข้อเสีย
– มีระยะเวลาในการทำงานที่ค่อนข้างจำกัด
4. Halo LED Troprecis-T6

แบรนด์/รุ่น: Halo LED Troprecis-T6
ความละเอียดของวิดีโอ: HD
ระยะในการฉายภาพ: 1-4 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: 25x17x8 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 12.8 กิโลกรัม
Halo LED Troprecis-T6 โปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ที่ได้มีการออกแบบให้มีความทันสมัยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบเสียง และการแสดงผลภาพที่มีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาพถ่าย และวิดีโอประเภทต่าง ๆ ที่สามารถรองรับระบบเชื่อมแต่แบบไร้สายผ่านระบบ Wifi ที่ง่ายดายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ก็ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB, HDMI, SD card และ Audio 3.5 มิลลิเมตรได้อีกด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมกับลำโพงแบบไดอะเฟลมคุณภาพสูง ที่สร้างระบบเสียงในการใช้งานได้อย่างกว้างขวาง และสร้างอรรถรสในการใช้งานได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ด้วยหลักการสะท้อนแสงแบบกระจาย เพื่อเพิ่มความคมชัดได้เป็นอย่างมากเลยนั่นเอง
ข้อดี
– ระบบเสียงคุณภาพสูง
– มีการออกแบบที่ทันสมัย
ข้อเสีย
– มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ พกพาไม่สะดวก
5. Mirval Y8a

แบรนด์/รุ่น: Mirval Y8a
ความละเอียดของวิดีโอ: 4K
ระยะในการฉายภาพ: 1-4 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: –
น้ำหนัก: –
Mirval Y8a โปรเจคเตอร์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่ช่วยให้ทุกท่านรับชมสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ผ่านหน้าจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ ถึง 200 นิ้ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกันกับสมาร์ตโฟนได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ iOS ผ่านการใช้งานที่สะดวกสบายอย่างถึงที่สุด อย่างการเชื่อมต่อระบบไร้สาย ไม่ว่าจะเป็น Bluetooth และ Wifi นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ได้โดยตรงเช่นเดียวกัน อาทิ แฟลชไดร์ฟ แล็ปท็อป เครื่องเกม และอื่น ๆ อีกมากมาย ในส่วนของการออกแบบนั้นถือว่า มีการออกแบบให้คงความคลาสสิคได้เป็นอย่างดีเยี่ยม รวมถึงมีการปรับตั้งค่าระบบโฟกัสในการฉายภาพได้จากปุ่มปรับโฟกัส และ Keystone
ข้อดี
– รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 9.0
– รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย
– มีความละเอียดสูงสุด ที่ 4K
ข้อเสีย
– ไม่มีระบบโฟกัสแบบอัตโนมัติ
6. OWLENZ SD150

แบรนด์/รุ่น: OWLENZ SD150
ความละเอียดของวิดีโอ: HD
ระยะในการฉายภาพ: 1.33-4.2 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: –
น้ำหนัก: 1.25 กิโลกรัม
OWLENZ SD150 โปรเจคเตอร์ที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android รวมไปถึงสามารถแสดงผลสิ่งต่าง ๆ ด้วยความละเอียดระดับสูง ไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่าย วิดีโอ และระดับเสียง โดยโปรเจคเตอร์รุ่นนี้ นับว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยการฉายภาพที่ความละเอียด HD 1,080P ที่สามารถขยายภาพให้ได้มากถึง 150 นิ้ว ซึ่งช่วยให้ทุกท่านสามารถรับชมสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอรรถรส อีกทั้งภาพต่าง ๆ ก็มีความคมชัด และสีไม่ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด จากระบบ Professional Color Matching
ข้อดี
– มีระยะในการโฟกัสอยู่ที่ 1.67 เมตร
– มีระบบ Professional Color Matching ในการประมวลผลเสียง
ข้อเสีย
– ความละเอียดระดับ HD
7. SOTIAY HD 3d WIFI

แบรนด์/รุ่น: SOTIAY HD 3d WIFI
ความละเอียดของวิดีโอ: Full HD
ระยะในการฉายภาพ: 0.8-3.8 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: 20×13.5×6 เซนติเมตร
น้ำหนัก: –
SOTIAY HD 3d WIFI โปรเจคเตอร์ที่มีความละเอียดระดับ Full HD ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการใช้งานผ่านระบบปฏิบัติ Android ที่ขับเคลื่อนด้วย Ram ในการประมวลผลข้อมูลขนาด 2GB และ 16GB ควบคู่กัน นอกจากนี้ก็ยังมีระบบจอแบบ LCD ที่ใช้งานเทคโนโลยี M4 เพื่อใช้ในการคงความละเอียดของภาพได้อย่างมีมาตรฐาน SXGA ที่มีส่วนช่วยในการทำให้วิดีโอต่าง ๆ มีคุณภาพเป็นอย่างมาก อีกทั้งทุกท่านยังสามารถเลือกปรับค่าการแสดงผลได้ตามความต้องการ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการสั่งการผ่านระบบรีโมตคอนโทรล ที่มีความง่ายดายเป็นอย่างมาก รวมทั้งฟังก์ชันการสั่งงานด้วยระบบเสียง ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี
– มีเทคโนโลยี M4 ในการช่วยประมวลผลสี
– รองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการ Android
– มีระบบสั่งการด้วยเสียง และรีโมตคอนโทรล
ข้อเสีย
– ระยะในการฉายภาพค่อนข้างต่ำ
8. LEJIADA 802

แบรนด์/รุ่น: LEJIADA 802
ความละเอียดของวิดีโอ: Full HD
ระยะในการฉายภาพ: 1.2-3.6 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: 17×11.5×7 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 0.5 กิโลกรัม
LEJIADA 802 มินิโปรเจคเตอร์ ที่มีความละเอียดระดับ Full HD ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยน้ำหนักเพียงแค่ 0.5 กิโลกรัมเท่านั้น อีกทั้งตัวเครื่องโปรเจคเตอร์ยังถูกออกแบบให้มีความเล็ก กะทัดรัด เพื่อให้ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บที่ค่อนข้างน้อย ในส่วนของการทำงานของระบบตัวเครื่อง ก็สามารถฉายภาพได้ภายในระยะ 1.2-3.6 เมตร ด้วยขนาดหน้าจอที่มีขนาดสูงสุดอยู่ที่ 100 นิ้ว และสามารถแสดงภาพวิดีโอได้อย่างคมชัด มีคุณภาพเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเลนส์ในการโฟกัสที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้งานหลอดไฟแบบ LED ที่มีอายุการใช้งาน ยาวนานกว่า 20,000 ชั่วโมง ที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้หน้าจอมีความสว่างมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความคมชัดไปในตัวอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของเสียง ที่มีความเบาอยู่ที่ 24 เดซิเบล ที่ช่วยให้มีเสียงรบกวนที่ค่อนข้างต่ำเป็นอย่างมาก แต่ทว่าโปรเจคเตอร์รุ่นนี้ จะมีความเสียเปรียบตรงที่ไม่มีการรองรับการเชื่อมต่อด้วยระบบไร้สายแต่อย่างใด มีเพียงการรองรอบการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต HDMI, VGA, AV, USB และ Audio 3.5 mm. เพียงเท่านั้น
ข้อดี
– มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 0.5 กิโลกรัม
– มีระดับเสียงของการทำงานของเครื่องโปรเจคเตอร์ เพียงแค่ 24 เดซิเบล
– มีเลนส์โฟกัสที่มีคุณภาพสูง
ข้อเสีย
– ไม่รองรับการเชื่อมต่อด้วยระบบไร้สาย
– ระยะในการฉายภาพค่อนข้างต่ำ
9. Nanotech UC46 PLUS

แบรนด์/รุ่น: Nanotech UC46 PLUS
ความละเอียดของวิดีโอ: Full HD
ระยะในการฉายภาพ: 1.07-3.8 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: 20.1×15.3×6.75 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 1 กิโลกรัม
Nanotech UC46 PLUS ถือเป็นโปรเจคเตอร์ดีไซน์คลาสสิค ที่มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบาเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น อีกทั้งยังมีความละเอียดในระดับ Full HD ที่สามารถใช้งานติดต่อกันได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับระบบปฏิบัติการ Android และ iOS และยังรวมถึงไปมีคุณสมบัติในการฉายภาพได้มากถึง 34-130 นิ้ว ด้วยระยะในการฉายภาพตั้งแต่ 1.07-3.8 เมตร ที่สามารถเชื่อมต่อพอร์ตต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย อาทิ SD card, USB, HDMI, VGA และ AV เรียกได้ว่าสามารถเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลายแพลตฟอร์มเป็นอย่างมาก
อีกทั้งยังมาพร้อมกับลำโพงในตัว รวมถึงระบบเสียงที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ทุกท่านยังสามารถต่อลำโพงเพิ่มเติมได้ตามต้องการ ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างระบบเสียงที่ดีขึ้นมากกว่าเดิมนั่นเอง เหนือสิ่งอื่นใดยังสามารถเลือกปรับโฟกัสได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วเป็นอย่างมาก
ข้อดี
– มีขนาดในการแสดงผล มากถึง 130 นิ้ว
– มีน้ำหนักเพียงแค่ 1 กิโลกรัม
– รองรับการเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลาย
ข้อเสีย
– มีระยะเวลาการทำงาน สูงสุดแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น
10. Mini YG300 LCD Projector

แบรนด์/รุ่น: Mini YG300 LCD Projector
ความละเอียดของวิดีโอ: Full HD
ระยะในการฉายภาพ: 0.8-2 เมตร
ขนาดตัวเครื่อง: 13×8.5×4.5 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 0.6 กิโลกรัม
Mini YG300 LCD Projector โปรเจคเตอร์ที่มีคุณภาพระดับ Full HD ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบ ที่ค่อนข้างเรียบง่าย และย้อนยุค ด้วยการเลือกใช้เฉดสีขาว และเฉดสีเหลืองผสมผสานกันออกมาได้อย่างลงตัว ในส่วนของการทำงานของโปรเจคเตอร์รุ่นนี้ ถือว่าค่อนข้างเหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้านพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น การรับชมภาพยนตร์ หรือการแสดงภาพถ่ายต่าง ๆ จากระยะฉายภาพระหว่าง 0.8- 2 เมตร ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในห้องนอนที่มีขนาดเล็ก และด้วยน้ำหนักเพียง 0.6 กิโลกรัม ที่ส่งผลให้สามารถจัดวางได้อย่างง่ายดาย โดยไม่เปลืองพื้นที่
ข้อดี
– มีน้ำหนักที่เบา เพียง 0.6 กิโลกรัม
– มีดีไซน์ที่สวยงาม คลาสสิคและทันสมัยในเวลาเดียวกัน
– การใช้งานงานเป็นโฮมเทียร์เตอร์ได้
ข้อเสีย
– ระยะในการฉายภาพสูงสุด 2 เมตร
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่ง ในการฉายภาพสำหรับการแสดงผลสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงาน การใช้งานไลฟ์สไตล์ รวมถึงการรับชมภาพยนตร์อย่างคมชัด และสมจริงเป็นอย่างมาก โปรเจคเตอร์ถือเป็นอุปกรณ์อีกประเภทหนึ่ง ที่สามารถตอบโจทย์ตามการใช้งานได้เป็นอย่างดีเยี่ยม หากเทียบกับการรับชมผ่านโทรทัศน์ และหน้าจอแบบ LCD ที่มีขนาดการฉายภาพที่เล็กกว่าโปรเจคเตอร์เป็นเท่าตัว อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากสามารถใช้งานได้ทุกสถานที่ เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ตามการใช้งานของทุกท่านได้เป็นอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นทางเราจึงมีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะได้รับโปรเจคเตอร์ที่ถูกอกถูกใจหลังจากที่ได้อ่านบทความ ที่ทางเราได้ทำการบอกต่อ 10 โปรเจคเตอร์ที่ทุกคนควรมีไปได้ไม่นานนัก