
สำหรับยุคเทคโนโลยีแบบนี้ อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในชีวิตประจำวัน เพราะในยุคแห่งข้อมูลและการสื่อสารนี้ การมีอินเทอร์เน็ตสามารถทำให้เราท่องโลกกว้างได้ทั่วทุกมุมเพื่อรับข้อมูลข่าวสารผ่านอินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวันไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ซึ่งมีอีกหนึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับยุคอินเทอร์เน็ตแบบนี้ก็คือ Router (เราเตอร์) เป็นอุปกรณ์ติดตั้งตามบ้านเพื่อเชื่อมต่อ และกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงได้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ได้ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำให้เราเล่นอินเทอร์เน็ตได้อย่างเร็วแรง ซึ่งต้องคำนึงถึงคุณภาพหลาย ๆ อย่างของตัวอุปกรณ์ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วในการรับสัญญาณ, คุณภาพของการกระจายสัญญาณและความแรง เป็นต้น
Router คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบหนึ่งที่ใช้สำหรับที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายเพื่อให้เราสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูล และรับ-ส่งข้อมูลระหว่างเครือข่ายนั้น ๆ ได้ โดยเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จะทำการหาเส้นทางที่เร็วที่สุดในการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างกัน เพื่อให้ต้นทางและปลายทางสามารถรับ-ส่ง ข้อมูลต่าง ๆ หากันได้นั่นเอง โดยจะอาศัยซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมการทำงานเรียกว่า Internetwork Operating System (IOS)
โดยทั่วไปมักมีเราเตอร์จะมี Port LAN ประมาณ 4 Ports หรือมากกว่า แต่ในรุ่นใหม่ ๆ บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้ ก็สามารถส่งสัญญาณแบบ Wireless ที่มีคุณภาพดีได้เลย เราได้รวบรวมสุดยอดยี่ห้อ เราเตอร์ ที่มีความเร็วแรง เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งใช้งานภายในบ้านและในสำนักงาน เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับการเลือกซื้อมาใช้งาน ดังต่อไปนี้
10 อันดับ เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี
1. Xiaomi Mi Router WiFi 6 AX6000
1. Xiaomi Mi Router WiFi 6 AX6000

ยี่ห้อ/รุ่น: Xiaomi Mi Router Wi-Fi 6 AX6000
ความแรงสัญญาณ: 574 Mbps 2.4G, 4804 Mbps 5G
เสาส่งสัญญาณ: 6 ต้น
ช่องเสียบสาย LAN: 4 ช่อง
การรับประกัน: 1 ปี
แรงจริงเร็วจริงสำหรับเราเตอร์ตัว Top จาก Xiaomi ในปีนี้ อย่าง Huawei HUAWEI AR101W-S ที่มี Bandwidth มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึงสองเท่า พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Wi-Fi 6E ที่ทำให้คุณภาพของการรับส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตดีขึ้นกว่าเดิม สามารถรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้มากถึง 248 ตัว เป็นอุปกรณ์ Network อัจฉริยะที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ความแรง และคุณภาพของสัญญาณได้ดีมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง Wi-Fi 6E สุดล้ำที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์ในส่วนนี้ เรียกได้ว่ามีอุปกรณ์เพียงแค่ตัวเดียวก็สามารถใช้งานได้ทั้งองค์กรเลยทีเดียว
ข้อดี
– มีความแรงและคุณภาพสูงมาก
– รองรับระบบเทคโนโลยีใหม่อย่าง Wi-Fi 6
– รองรับการใช้งานกับผู้ใช้ได้หลายคน
– มีระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม
ข้อเสีย
– หาศูนย์รับประกันยาก
2. Linksys MX5300-AH Velop

ยี่ห้อ/รุ่น: Linksys MX5300-AH Velop
ความแรงสัญญาณ: 1147 + 2402 + 1733 Mbps
เสาส่งสัญญาณ: 4 ต้น
ช่องเสียบสาย LAN: 4 ช่อง
การรับประกัน: 3 ปี
สำหรับเราเตอร์ตัวนี้ นอกจากจะรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 แล้วนั้น ยังสามารถรับความเร็วของการรับสัญญาณได้มากถึง 5.3 Gbps ซึ่งสามารถครอบคลุมทุกพื้นที่ในบ้านให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง รับข้อมูลแบบ Real-time Streaming ได้มากกว่า Wi-Fi 5 ถึง 4 เท่าด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยขั้นสูงด้วยการเข้ารหัสผ่าน มาตรฐาน wireless WPA2 (WiFi Protected Access 2) และ SPI (stateful packet inspection) firewall เพื่อการใช้งานที่มีความปลอดภัยในการเล่นอินเทอร์เน็ตทุกครั้ง เรียกได้ว่าน่าจับตามอง และเร็วแรงสุด ๆ ไปเลยสำหรับรุ่นนี้
ข้อดี
– มีความแรงและคุณภาพสูงมาก
– รองรับระบบเทคโนโลยีใหม่อย่าง WiFi 6 และ Hi-Speed 5.3 Gbps
– มีความปลอดภัยสูงมาก
– ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานภายในบ้านได้อย่างทั่วถึง
ข้อเสีย
– ราคาสูง
3. NETGEAR Orbi AC3000

ยี่ห้อ/รุ่น: Netgear Orbi AC3000
ความแรงสัญญาณ: 1733 + 866 + 400 Mbps
เสาส่งสัญญาณ: 6 ต้น
ช่องเสียบสาย LAN: 4 ช่อง
การรับประกัน: 9 ปี
อีกหนึ่งรุ่นเพื่อแก้ไขสำหรับจุดอับสัญญาณอินเทอร์เน็ตภายในบ้านที่น่าสนใจอย่าง NETGEAR Orbi (RBS50) AC3000 ซึ่งเจ้าเราเตอร์ที่ใช้ลักษณะการเชื่อมต่อแบบ Mesh เป็นตัวยืนเพื่อไม่ให้การเชื่อมต่อสะดุด เจ้าตัวนี้สามารถกระจายสัญญาณไปได้ไกลโดยไม่ต้องติดตั้ง Access Point เพิ่มเติม เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพการส่งสัญญาณระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมาก ใช้วิธีการส่งที่เสริมด้วย Satellite Orbi ในการส่งสัญญาณได้มากถึง 3 ตัว และมีความแรงในการส่งสัญญาณมากถึง 3000 Mbps ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นช่วงความเร็วที่แรงสุด ๆ
ข้อดี
– ติดตั้งง่ายไม่กี่ขั้นตอน
– ไม่มีความหน่วงในการเชื่อมต่อ มีความลื่นไหล
– เหมาะสำหรับพื้นที่บ้านที่มีมุมอับเยอะ ๆ
– รับประกันยาวนาน 9 ปี
ข้อเสีย
– ราคาสูงมาก
4. TP-Link MR6400

ยี่ห้อ/รุ่น: TP-Link MR6400
ความแรงสัญญาณ: 300 Mbps ที่ช่องสัญญาณ 2.4 GHz
เสาส่งสัญญาณ: 2 ต้น
ช่องเสียบสาย LAN: 4 ช่อง
การรับประกัน: 3 ปี
เราเตอร์ ราคาประหยัดที่ครอบคลุมการใช้งานสำหรับพื้นที่ภายในบ้าน รองรับการใส่ซิมการ์ด และเทคโนโลยี $G LTE เพื่อความรวดเร็วสำหรับการใช้งาน มีเสาอากาศในตัวสำหรับการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเสถียร สามารถรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากถึง 32 อุปกรณ์พร้อมกัน และรองรับความเร็วสูงสุดถึง 300 Mbps เรียกได้ว่ามีความคุ้มค่าสมราคาสำหรับการใช้งานแบบเบื้องต้นจริง ๆ
ข้อดี
– ราคาคุ้มค่าสมราคา
– ครอบคลุมการใช้งานสำหรับการใช้งานในบ้าน
– ใส่ซิมการ์ดเพื่อความสะดวกรวดเร็วต่อการใช้งาน
ข้อเสีย
– สเปคไม่สูงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป
5. ASUS AIMESH RT-AC68U

ยี่ห้อ/รุ่น: ASUS AIMESH RT-AC68U
ความแรงสัญญาณ: 1900 Mbps ที่ช่องสัญญาณ 5 GHz
เสาส่งสัญญาณ: 3 ต้น
ช่องเสียบสาย LAN: 4 ช่อง
การรับประกัน: 5 ปี
แบรนด์ Asus เป็นแบรนด์ที่นิยมไปแพร่หลายทั่วโลกในด้านอุปกรณ์ไอที สำหรับเราเตอร์รุ่น ASUS AIMESH RT-AC68U ก็เช่นเดียวกัน สุดยอดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คุณภาพสูงที่น่าสนใจซึ่งได้นำเทคโนโลยีจากบริษัท Broadcom® รุ่น TurboQAM™ มาใช้เพื่อเพิ่มความเร็วของสัญญาณให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 33% นอกจากนี้ยังมีหน่วยประมวลผลแบบ Dual Core เพื่อใช้สำหรับการประมวลผล Wi-Fi ให้เร็ว และแรงขึ้นได้ นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี Ai-Protection จากบริษัทแห่ง Security Product อย่าง Trend Micro มาช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบเครือข่ายให้มากขึ้นเป็น 3 เท่า อีกด้วย งานนี้เรียกได้ว่าสายเทคโนโลยีต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว
ข้อดี
– นำฟังก์ชันจากหลาย ๆ บริษัทระดับโลกมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
– มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แรง
– รองรับการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
– คุณภาพสูง เร่งความเร็วไวไฟด้วย Broadcom® TurboQAM™
ข้อเสีย
– มีราคาสูง
6. Google Nest Wifi

ยี่ห้อ/รุ่น: Google Nest Wifi
ความแรงสัญญาณ: 2200 Mbps ที่ช่องสัญญาณ 5 GHz
เสาส่งสัญญาณ: –
ช่องเสียบสาย LAN: –
การรับประกัน: 1 ปี
อีกหนึ่งเราเตอร์ที่น่าสนใจจากค่ายยักษ์ใหญ่ Google ที่เปิดตัว Router รุ่น Google Nest Wifi ออกมาที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ Mesh เพื่อกระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้อย่างครอบคลุมไปทุกจุดถึง 2,200 ตารางฟุต หรือ 204 ตารางเมตรเลยทีเดียว
โดยฟีเจอร์ Nest Wifi นั้นสามารถรองรับการทำงานร่วมกับ Google Assistant ซึ่งทำให้สามารถฟังเพลงที่กำลังเชื่อมต่ออยู่กับลำโพงแบบเดียวกันได้ทั่วทั้งบ้านผ่านสัญญาณ Wi-Fi นอกจากนี้ยังสามารถใช้ควบคู่อุปกรณ์ IoT ที่รองรับผ่าน Google Home ได้อีกด้วย จิ๋วแต่แจ๋วจริง ๆ นับเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งจาก Google ที่น่าจับตามองแบบสุด ๆ
ข้อดี
– รองรับการใช้งาน IoT
– มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แรงและเร็ว
– ใช้งานร่วมกับระบบ Google Assistant ได้
– ตัวเล็กแต่แรงสุด ๆ ใช้งานง่ายไม่เกะกะ
ข้อเสีย
– มีราคาสูง
– ยังไม่รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6
7. TP-Link RE500

ยี่ห้อ/รุ่น: TP-Link RE500
ความแรงสัญญาณ: 1300 Mbps ที่ช่องสัญญาณ 5 GHz
เสาส่งสัญญาณ: 4 ต้น
ช่องเสียบสาย LAN: 1 ช่อง
การรับประกัน: 3 ปี
สุดยอดแบรนด์เราเตอร์ที่มียอดขายถล่มทลายจากทั่วโลกอีกหนึ่งรุ่นอย่าง TP-Link RE500 ในราคาประหยัดที่มาพร้อมด้วยเสาสัญญาณเพื่อใช้กระจายสัญญาณแบบ Dual Band ซึ่งรองรับช่องความถี่ทั้งสองช่อง ในความเร็ว 600Mbps สำหรับ 2.5 GHz และความเร็วสูงสุด 1300 Mbps สำหรับ 5GHzพร้อมรองรับเทคโนโลยีแบบ 3×3 MU-MIMO เพื่อความเสถียรในการเชื่อมต่ออินเตอร์ไม่ให้หลุดได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนคุณภาพการกระจายสัญญาณเรียกว่าจัดหนักจัดเต็ม นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานผ่าน Application TP-Link Tether เพื่อทำการวิเคราะห์ค่าสัญญาณ และทำการ Analytic แก่ผู้ใช้งานเพื่อดูประสิทธิภาพของคลื่นสัญญาณในขณะนั้นแบบอัจฉริยะ เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้ แต่ประสิทธิภาพนี่โดนใจสายไอทีมากจริง ๆ
ข้อดี
– มีการรองรับการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เหมาะกับการใช้งานตามบ้าน
– มี Application Analytic ที่สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของการใช้งานได้
– ดีไซน์สวยหรูดูอัจฉริยะ
– ราคาถูก
ข้อเสีย
– ความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่แรงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อีก
8. TOTOLINK AC1200 A3002RU_V2

ยี่ห้อ/รุ่น: TOTOLINK AC1200 A3002RU_V2
ความแรงสัญญาณ: 1200 Mbps
เสาส่งสัญญาณ: 4 ต้น
ช่องเสียบสาย LAN: 4 ช่อง
การรับประกัน: 3 ปี
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองสุด ๆ อย่าง TOTOLINK AC1200 A3002RU_V2 เป็นเราเตอร์ที่สามารถใส่ซิมได้เพื่อเพิ่มความสะดวกต่อการใช้งาน มีเทคโนโลยี MU-MIMO เพื่อให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความเสถียร เน็ตไม่หลุดระหว่างทาง และสามารถเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตหลาย ๆ ตัว ได้อย่างยอดเยี่ยม
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจคือเสาอากาศรอบทิศทาง 4 เสา ที่เพิ่มความเร็ว Wi-Fi ให้แรง และสูงถึง 1167 Mbps รองรับย่านความถี่ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นเกมแบบแรง ๆ ไม่มีกระตุก นอกจากนี้ยังมี มีการเข้ารหัสแบบ WEP, WPA และ WPA2 64/128-bit ตามมาตรฐานสากล และสามารถใช้งานผ่าน Smart Phone เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เรากำลังใช้งานอยู่ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าน่าสนใจมากจริง ๆ สำหรับตัวนี้
ข้อดี
– มีการรองรับการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เหมาะกับการใช้งานตามบ้าน
– ราคาคุ้มค่าสมราคา
– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตแรง ๆ สำหรับเล่นเกม
– มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้อินเทอร์เน็ตลื่นไหล ไม่กระตุก
ข้อเสีย
– ยังไม่รองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของเราเตอร์เช่น Wi-Fi 6
9. D-LINK DIR-880L

ยี่ห้อ/รุ่น: D-LINK DIR-880L
ความแรงสัญญาณ: 1300 Mbps
เสาส่งสัญญาณ: 3 ต้น
ช่องเสียบสาย LAN: 4 ช่อง
การรับประกัน: 3 ปี
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองแห่งปี อย่าง D-Link DIR-880L นั้น เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เราเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากความเสถียรของสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีระบบควบคุมเครือข่าย และตรวจสอบเครือข่ายด้วย ฟังก์ชัน QoS (Quality of Service) ที่จะช่วยในเรื่องของการจัดสรร และ Limit การใช้งาน Bandwidth สำหรับอุปกรณ์และ Application ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกหนึ่ง Software ที่สำคัญสำหรับเจ้ารุ่นนี้เลยก็คือ mydlink cloud ที่ช่วยในการ Streaming Media File ต่าง ๆ ผ่าน Share Port พร้อมรับเทคโนโลยี IPv6 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับวงการ Network เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อเสถียรมากขึ้น เห็นตัวเล็ก ๆ จิ๋ว ๆ แบบนี้แต่เรียกได้ว่าคุณภาพไม่เล็กเลย เพราะเหมาะกับการใช้งานอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่เล็กมีความปลอดภัยสูงสุด ๆ
ข้อดี
– มีการรองรับการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เหมาะกับการใช้งานตามบ้าน
– มี Application จำเพาะที่สามารถช่วยในเรื่องของการ Streaming File ได้ดีขึ้น
– ราคาคุ้มค่าสมราคาเหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป
ข้อเสีย
– ความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่แรงมากนัก
10. Tenda W300M

ยี่ห้อ/รุ่น: Tenda W300M
ความแรงสัญญาณ: 300 Mbps
เสาส่งสัญญาณ: –
ช่องเสียบสาย LAN: 1 ช่อง
การรับประกัน: 1 ปี
ตัวเล็กราคาถูกแต่สามารถใช้งานได้หลากหลาย กับ Tenda W300M ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเราเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็น Access Point ได้ภายในตัวเดียว เพื่อใช้สำหรับกระจายสัญญาณ Wi-Fi ภายในบ้านได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในบ้าน ด้วยความที่เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก กะทัดรัด จึงทำให้ประหยัดพื้นที่ในการใช้งานอีกด้วย ภายในตัวมีระบบ Repeater Mode เพื่อใช้สำหรับเป็น Wi-Fi Repeater เพื่อใช้สำหรับเชื่อมต่อกับ Game Console, Smart TV หรือ Media Player ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องเดินสาย Lan ให้ยุ่งยาก เปิดใช้งานได้ทันทีหลังการสั่งซื้อไปใช้ที่บ้าน ประหยัดคุ้มค่าและเหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตแรง ๆ แต่เน้นความสะดวกสบาย
ข้อดี
– มีใช้งานได้อย่างสะดวกไม่ต้องเดินสาย LAN ให้ยุ่งยาก
– มีรองรับการใช้งานร่วมกับ Game Console, Smart TV หรือ Media Player
– ราคาคุ้มค่าสมราคาเหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป
ข้อเสีย
– เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความเร็วอินเทอร์เน็ตแรงมากนัก
ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น คือ อุปกรณ์เราเตอร์สำหรับใช้ในการรับส่งสัญญาณเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และ Network ที่มีความเร็ว แรง ประสิทธิภาพสูง ที่น่าสนใจสุด ๆ ด้วยความที่เราต้องมีการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพื่อทำการรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารกันอยู่ตลอดเวลา ทำให้อุปกรณ์เครือข่ายชนิดนี้มีความจำเป็นอย่างมาก ทั้งการใช้งานภายในบ้านและสำหรับองค์กร ซึ่งเราสามารถเลือกรุ่นและยี่ห้อตามที่เราสนใจให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้ ทั้งนี้ควรคำนึงถึงราคา ความคุ้มค่า และความต้องการสำหรับการใช้งานว่าเพียงพอเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งรุ่นที่กล่าวมาข้างต้นถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ไอทีทั่ว ๆ ไปได้