
ในยุคนี้การถ่ายภาพ และการถ่ายวิดีโอเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ดังนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการถ่ายรูปก็คือ “ขาตั้งกล้อง” เพราะในบางครั้งการถ่ายรูปจะจำเป็นต้องใช้ความเสถียรในขณะการใช้งาน เพื่อให้ประสิทธิภาพอันสูงสุด อีกทั้งยังเพิ่มความคมชัด และได้องค์ประกอบที่ดี ซึ่งในปัจจุบันนี้ขาตั้งกล้องก็มีหลายรุ่นที่ช่างภาพนิยมใช้กันเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากในตอนนี้จะมีขาตั้งกล้องให้เลือกอย่างมากมาย ไปจนถึงมีความหลากหลายของสินค้าเป็นอย่างมาก จึงส่งผลให้ในปัจจุบันขาตั้งกล้องสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยให้การถ่ายภาพออกมาดีมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังสามารถเพิ่มความสะดวกสบายในการถ่ายภาพได้ดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ในส่วนของวิธีการเลือกขาตั้งกล้องนั้น อย่างแรกจะต้องเลือกจากขนาดที่สอดคล้องกับกล้องที่ใช้งาน เพื่อเป็นการรองรับน้ำหนักที่ดี และจัดวางได้อย่างมั่นคง โดยขาตั้งกล้องจะแบ่งเป็น ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ซึ่งขาตั้งกล้องที่ดี จะต้องรับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม โดยน้ำหนักที่ขาตั้งกล้องควรรับได้ จะต้องรวมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ไว้แล้ว เช่น เลนส์กล้อง รวมทั้งแฟลช ดังนั้นควรจะเลือกขาตั้งกล้องที่สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าสองเท่าของอุปกรณ์เสริม เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นคงให้แก่ขาตั้งกล้องนั่นเอง
จัดอันดับ ขาตั้งกล้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 10 อันดับ
5. Manfrotto Compact Advanced with ball head
1. Manfrotto MK190XPRO4-BHQ2

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 7 กิโลกรัม
น้ำหนัก 2,550 กรัม
วัสดุ อะลูมิเนียม
ความสูงที่สามารถปรับได้ 60.5-171.5 เซนติเมตร
Manfrotto MK190XPRO4-BHQ2 ขาตั้งกล้องที่มาพร้อมกับดีไซน์สวยงาม และทันสมัย ที่ได้รับการผลิตขึ้นจากวัสดุอะลูมิเนียม ที่จะมีความแข็งแรง และทนทานเป็นอย่างมาก สามารถรองรับน้ำหนักของกล้องถ่ายภาพ และกล้องวิดีโอได้สูงสุดถึง 7 กิโลกรัมเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถปรับระดับองศาในการถ่ายภาพได้สูงสุดถึง 90 องศา ส่งผลให้ขาตั้งกล้องรุ่นนี้สามารถรองรับการใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น การตั้งกล้องสำหรับถ่ายวิดีโอ ให้ได้ภาพที่นิ่ง และมีความลื่นไหลมากที่สุด รวมทั้งการตั้งกล้องในเวลากลางคืน เพื่อเป็นการบันทึกภาพ ให้มีความสมจริง และได้รับรายละเอียดอย่างครบครัน เป็นต้น ในส่วนของด้านความปลอดภัย ก็สามารถทำออกมาได้ในระดับที่ดีเลยทีเดียว จากระบบของการล็อกขาตั้งกล้องแบบ Quick Power Lock ที่จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ขาตั้งกล้อง อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายที่จะสามารถใช้งานด้วยมือเพียงข้างเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับช่องการเชื่อมต่อแบบ Easy Link ที่จะใช้ในการต่อ Magic Arm ที่จะเป็นแขนสำหรับการต่ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการต่ออุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นอย่างเช่น ไฟแฟลช และไฟ LED ได้อย่างสะดวกสบาย และในส่วนของระดับความสูงตามปกติของกล้องรุ่นนี้จะอยู่ที่ 146.5 เซนติเมตร แต่สามารถปรับระดับได้ตามการใช้งานตั้งแต่ 60.5 ไปจนถึง 171.5 เซนติเมตรเลยทีเดียว ที่สำคัญขาตั้งกล้องรุ่นนี้จะสามารถพาพกได้ง่าย ด้วยน้ำหนักเพียงแค่ 2,250 กรัมเท่านั้น
ข้อดี
– สามารถรองรับน้ำหนักได้สูง
– มีช่องการเชื่อมต่อแบบ Easy Link สำหรับการเชื่อมต่อ Magic Arm
– สามารถเลือกปรับระดับความสูงได้อย่างตามใจชอบ
ข้อเสีย
– ลักษณะค่อนข้างใหญ่
2. Benro KH25N

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 8 กิโลกรัม
น้ำหนัก 3.38 กิโลกรัม
วัสดุ Aluminum Alloy
ความสูงที่สามารถปรับได้ 73.5-155 เซนติเมตร
Benro KH25N ขาตั้งกล้องที่มาพร้อมกับตัวช่วยในการถ่ายวิดีโอให้มีความสะดวก และลื่นไหลมากกว่าเดิม โดยขาตั้งกล้องรุ่นนี้จะมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง ทำให้สามารถถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอได้อย่างมั่นคง ด้วยหัวปรับระดับแบบไฮโดรลิค ที่จะช่วยให้ทุกการปรับระดับสามารถทำได้แบบไม่ติดขัด โดยจะมีการหน่วงจังหวะในการปรับระดับขึ้นลงซ้ายขวา ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความลื่นไหลในการถ่ายภาพได้อย่างสมจริงมากที่สุดอีกด้วย และในส่วนของอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการใช้งานของขาตั้งกล้องรุ่นนี้ได้คือ สามารถเป็นได้ทั้งขาตั้งกล้องของ DSLR กล้องวิดีโอ กล้อง Mirrorless และกล้อง Compact เลยทีเดียว
และเรื่องของวัสดุการใช้งาน จะถูกผลิตขึ้นจากวัสดุ Aluminum Alloy ที่มีคุณภาพสูง ส่งผลให้ขาตั้งกล้องรุ่นนี้สามารถรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักสูงถึง 8 กิโลกรัมเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นขาตั้งกล้องจะสามารถเลือกปรับองศาในการถ่ายได้ตั้งแต่ -80 องศา ไปจนถึง 90 องศาในแนวตั้ง และ 360 องศาในแนวนอนเลยทีเดียว และที่สำคัญขาตั้งกล้องรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหัวปรับองศาที่มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังยืดหยุ่นในการปรับระดับได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ข้อดี
– สามารถรองรับน้ำหนักได้สูง
– เลือกปรับองศาได้อย่างหลากหลาย
– มาพร้อมกับระบบไฮโดรลิค ช่วยเพิ่มความลื่นไหลได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
– มีน้ำหนักค่อนข้างสูง หากเทียบกับขาตั้งกล้องรุ่นอื่น ๆ
3. Hilight MT-02L

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 3 กิโลกรัม
น้ำหนัก 165 กรัม
วัสดุ อะลูมิเนียม
ความสูงที่สามารถปรับได้ 18 เซนติเมตร
Hilight MT-02L ขาตั้งกล้องขนาดเล็กที่เหมาะสมกับการพกพาเป็นอย่างมาก ด้วยน้ำหนักที่มีเพียง 165 กรัมเท่านั้น แต่มาพร้อมกับความแข็งแรง และทนทานในระดับสูงเลยทีเดียว เนื่องจากจะมีการใช้วัสดุแบบอะลูมิเนียม จึงส่งผลให้สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายภาพ และกล้องวิดีโอ ที่มีขนาดสูงถึง 3 กิโลกรัมเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับในความสูงได้ถึง 18 เซนติเมตร รวมทั้งยังสามารถเลือกปรับขาตั้งกล้องให้มีขนาดที่เล็กลงจากข้อต่อ และพับขาให้เหลือแบบ 2 ท่อน จึงช่วยให้ขาตั้งกล้องรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพ และบันทึกวิดีโอบนโต๊ะได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นขาตั้งกล้องยังมาพร้อมกับรูอเนกประสงค์อีกจำนวนมาก เพื่อให้เชื่อมต่อกับ Magic Arm รองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมของกล้องได้ในเวลาเดียวกัน และในส่วนของการพกพานับว่าขาตั้งกล้องรุ่นนี้เหมาะแก่การพกพาเป็นอย่างมาก ด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา และอีกขนาดเล็ก อีกทั้งยังสามารถพับกล้องขาตั้งกล้องได้อย่างสะดวกอีกด้วย
ข้อดี
– วัสดุมีความทนทาน และแข็งแรงเป็นอย่างมาก
– น้ำหนักค่อนข้างเบา สามารถพกพาได้สะดวก
– รองรับการเชื่อมต่อแบบ Magic Arm สำหรับการใช้งานของอุปกรณ์เสริม
ข้อเสีย
– สามารถรองรับน้ำหนักได้น้อย
4. QZSD Q999H

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 8 กิโลกรัม
น้ำหนัก 1,560 กรัม
วัสดุ Magnesium และ Aluminum Alloy
ความสูงที่สามารถปรับได้ 43-156 เซนติเมตร
QZSD Q999H ขาตั้งกล้องสำหรับกล้องถ่ายภาพ กล้องวิดีโอ และสมาร์ตโฟน ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานได้หลายสถานการณ์ ด้วยวัสดุของ Magnesium และ Aluminum Alloy ซึ่งจะมีความแข็งแรง และมีความทนทานสูงเป็นอย่างมาก โดยขาตั้งกล้องรุ่นนี้จะสามารถรองรับน้ำหนักของอุปกรณ์ได้สูงถึง 8 กิโลกรัม มาพร้อมกับหัวปรับระดับแบบ Ball Panoramic QZSD-02 ที่จะช่วยในเรื่องของการปรับองศาในการถ่ายได้สูงถึง 180 องศาเลยทีเดียว
อีกทั้งขาตั้งกล้องรุ่นนี้ยังสามารถพกพาได้อย่างง่ายดาย ด้วยขนาดเพียงแค่ 43 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ในการใช้งานสูงสุด สามารถปรับระดับได้สูงถึง 156 เซนติเมตรเลยทีเดียว ส่งผลให้ขาตั้งกล้องรุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้งานกับกล้องได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีระบบการใช้งานแบบ Multi Function ที่จะเป็นตัวช่วยในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ ให้มีการใช้งานอย่างเหมาะสม ทั้งกับช่างภาพมือใหม่ ไปจนถึงช่างภาพมืออาชีพเลยทีเดียว
ข้อดี
– สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 8 กิโลกรัม
– วัสดุมีความแข็งแรง ทนทานอยู่ในระดับสูง
– มาพร้อมกับระบบ Multii Function ที่สามารถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์
ข้อเสีย
– น้ำหนักค่อนข้างสูง หากเทียบกับขนาดของขาตั้งกล้อง
5. Manfrotto Compact Advanced with ball head

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 3 กิโลกรัม
น้ำหนัก 1,390 กรัม
วัสดุ Aluminum และ Technopolymer
ความสูงที่สามารถปรับได้ 46.5-167 เซนติเมตร
Manfrotto Compact Advanced with ball head ขาตั้งกล้องจากแบรนด์ Manfrotto ที่มาพร้อมกับหัวปรับระดับแบบ Ball Head ซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับองศาในการใช้งานได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังสามารถรองรับการใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักรวมไม่เกิน 3 กิโลกรัม ด้วยวัสดุของโครงสร้างแบบ Aluminium และ Technopolymer ที่ถือว่าเป็นวัสดุที่ความแข็งแรง และทนทานเป็นอย่างมาก สามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังสามารถปรับระดับในการถ่ายได้ตั้งแต่ 46.5 ไปจนถึง 167 เซนติเมตรเลยทีเดียว และด้วยน้ำหนัก 1,390 กรัม ทำให้สามารถพกพาได้ไม่ลำบากเท่าไหร่นัก และที่สำคัญขาตั้งกล้องรุ่นนี้ จะมาพร้อมกับคุณสมบัติต่าง ๆ อย่างครบครัน ช่วยให้ทุกการใช้งาน สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความสะดวกสบายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ข้อดี
– สามารถปรับระดับความสูงในการใช้งานได้อย่างหลากหลาย
– มาพร้อมกับหัวปรับแบบ Ball Head สามารถรองรับการใช้งานได้หลายองศา
– วัสดุโครงสร้างมีความแข็งแรงทนทาน
ข้อเสีย
– สามารถรองรับน้ำหนักของอุปกรณ์ได้เพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้น
6. Andoer TTT-666R

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 4 กิโลกรัม
น้ำหนัก 1,650 กรัม
วัสดุ Aluminum Alloy และ ABS
ความสูงที่สามารถปรับได้ 57-175 เซนติเมตร
Andoer TTT-666R ขาตั้งกล้องที่ได้รับการออกแบบมาด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย และสวยงามเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีโครงสร้างที่มีความแข็งแรง ทนทานอยู่ในระดับสูง ด้วยวัสดุแบบ Aluminum Alloy และพลาสติกแบบ ABS ซึ่งเป็นตัวช่วยให้โครงสร้างสามารถรองรับการใช้งานของอุปกรณ์หลักที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4 กิโลกรัม โดยเฉพาะกล้อง DSLR กล้องวิดีโอ รวมถึงกล้อง Compact เป็นต้น ที่สำคัญขาตั้งกล้องรุ่นนี้จะสามารถปรับระดับได้แบบ 3 ทิศทาง ซึ่งเป็นตัวช่วยในการถ่ายภาพในมุมมองแบบพาโนรามา 360 องศาในแนวนอน และถ่ายด้วยมุมมอง 90 องศาในแนวตั้ง
นอกจากนี้ขาตั้งกล้องรุ่นนี้ยังสามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 4 ระดับด้วยกัน โดยจะปรับได้ตั้งแต่ความสูงที่ 57 ไปจนถึงความสูงที่ 175 เลยทีเดียว ดังนั้นขาตั้งกล้องรุ่นนี้จึงสามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ และยังช่วยสร้างคอนเทนต์ และถ่ายภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ข้อดี
– สามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 4 ระดับ
– วัสดุมีความแข็งแรง ทนทาน
– มาพร้อมกับหัวปรับระดับถึง 3 ทิศทาง
ข้อเสีย
– สามารถรองรับน้ำหนักได้เพียง 4 กิโลกรัมเท่านั้น
7. Hali VCT-668

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 3 กิโลกรัม
น้ำหนัก 1,250 กรัม
วัสดุ อะลูมิเนียม
ความสูงที่สามารถปรับได้ 46-150 เซนติเมตร
Hali VCT-668 ขาตั้งกล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับขนาดที่กำลังพอดี สามารถรองรับการใช้งานได้กับกล้องทุกประเภท และทุกขนาดเลยทีเดียว ตั้งแต่กล้อง DSLR ที่มีขนาดใหญ่ ไปจนถึงกล้องสมาร์ตโฟนที่มีขนาดเล็กได้อย่างลงตัว อีกทั้งขาตั้งกล้องรุ่นนี้ยังเหมาะสำหรับช่างภาพมือใหม่ และช่างภาพมืออาชีพได้ในทุกสถานที่ถ่ายทำเลยทีเดียว ในส่วนของโครงสร้างจะทำมาจากอะลูมิเนียมที่ให้ความแข็งแรงทนทานได้ในระดับดีเยี่ยม อีกทั้งยังสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่มีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 3 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 46 เซนติเมตร เพื่อเป็นการพับเก็บใส่กระเป๋าได้อย่างสะดวกสบาย และปรับระดับความสูงได้สูงสุด 150 เซนติเมตร สำหรับการใช้งานในกรณีที่มีการถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดีโอในมุมสูงนั่นเอง
ในส่วนของมุมมองการถ่ายแนวตั้ง และนอนนอน จะสามารถปรับเปลี่ยนมุมมองการถ่ายได้มากสุดถึง 360 องศา อีกทั้งยังสามารถถ่ายภาพด้วยความนิ่งในระดับสูงสุดจากขาตั้งกล้องแบบกันลื่น เพื่อเป็นตัวช่วยในการป้องกันการขยับของตัวโครง พร้อมทั้งยังมีตะขอเพื่อเป็นตัวช่วยในการเสริมน้ำหนัก เพื่อให้ขาตั้งกล้องมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อดี
– มีตะขอเพื่อใช้ในการถ่วงน้ำหนักให้ขาตั้งกล้องมั่นคงมากยิ่งขึ้น
– สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องถ่ายภาพ และกล้องสมาร์ตโฟน
– สามารถถ่ายภาพวิดีโอได้ในหลายมุมมอง
ข้อเสีย
– รองรับน้ำหนักของอุปกรณ์ได้ไม่มากนัก
8. Andoer 53cm/21

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 3 กิโลกรัม
น้ำหนัก 700 กรัม
วัสดุ Aluminm Alloy
ความสูงที่สามารถปรับได้ 31-53 เซนติเมตร
Andoer 53cm/21 ขาตั้งกล้องแบบ Mini Tripod ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของรูปลักษณ์ และดีไซน์ที่มีการออกแบบอย่างสวยงาม จากวัสดุแบบ Aluminum Alloy ที่สามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งในสมาร์ตโฟน และกล้องขนาดใหญ่ แต่จะต้องมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 3 กิโลกรัม ในด้านของการปรับระดับความสูง ขาตั้งกล้องรุ่นนี้จะมีเหมาะสมกับการใช้งานในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการพับเก็บที่มีขนาดเพียงแค่ 31 เซนติเมตรเท่านั้น ไปจนถึงการใช้งานในระดับสูง ที่จะปรับระดับความสูงได้ที่ 53 เซนติเมตร อีกทั้งยังสามารถพกพาได้ง่ายด้วยน้ำหนักเพียงแค่ 700 กรัมเท่านั้น
นอกจากนี้ในด้านของความปลอดภัยของขาตั้งกล้อง จะมีการใส่ Gravity Hook เพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มการถ่วงน้ำหนัก Leg Angle Position Lock ช่วยในการตั้งตำแหน่ง และมุมให้คงเดิม Height Lock ที่จะเป็นตัวช่วยล็อกระดับความสูง และ Comfortable Sponge เป็นตัวช่วยเพิ่มความแน่นของโครง โดยอุปกรณ์ต่าง ๆ นี้ล้วนเป็นตัวช่วยที่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว
ข้อดี
– มีอุปกรณ์ที่จะช่วยป้องกันความปลอดภัยระหว่างการใช้งานอย่างครบครัน
– น้ำหนักค่อนข้างเบาเป็นอย่างมาก
– รูปลักษณ์ และโครงสร้างจะมีความสวยงาม
ข้อเสีย
– สามารถปรับระดับความสูงได้ไม่มากนัก
9. Discount Store M

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด –
น้ำหนัก 700 กรัม
วัสดุ อะลูมิเนียม
ความสูงที่สามารถปรับได้ 54-160 เซนติเมตร
Discount Store M ขาตั้งกล้องที่มาพร้อมกับระบบการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth มาคู่กับรีโมทคอนโทรล ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการใช้งานของตัวอุปกรณ์ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของระยะการเชื่อมต่อจะอยู่ที่ 10 เมตร สามารถใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายภาพ กล้องวิดีโอ และสมาร์ตโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจุดเด่นของขาตั้งกล้องรุ่นนี้ จะถูกสร้างมาเพื่อการไลฟ์สดโดยเฉพาะ ในส่วนของน้ำหนักโครงจะมีน้ำหนักเพียงแค่ 700 กรัมเท่าน้น และในด้านของอุปกรณ์การเชื่อมต่อจะสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายบนแพล็ตฟอร์มที่แตกต่างกัน ตั้งแต่สมาร์ตโฟนที่มีระบบปฏิบัติการ Android และ IOS ไปจนถึงกล้องถ่ายภาพ และกล้องวิดีโอทุกชนิด
ข้อดี
– มีน้ำหนักค่อนข้างเบา
– สามารถรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านระบบ Bluetooth
– มาพร้อมกับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย
ข้อเสีย
– ไม่มีอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยในการใช้งาน
10. Selens Tripods

น้ำหนักที่รับได้สูงสุด 2 กิโลกรัม
น้ำหนัก 123.9 กรัม
วัสดุ ABS
ความสูงที่สามารถปรับได้ 23-28 เซนติเมตร
Selens Tripods ขาตั้งกล้องราคาสุดประหยัด เหมาะสำหรับมือใหม่ อีกทั้งยังสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย มาพร้อมกับขนาดเบาเพียงแค่ 123.9 กรัม ทำให้สะดวกต่อการพกพอเป็นอย่างมาก และตัวโครงสร้างที่ได้รับการผลิตจากวัสดุ ABS แต่สามารถรองรับการใช้งานของอุปกรณ์ได้เพียงแค่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น ในส่วนของการปรับองศา จะสามารถปรับได้ถึง 360 องศารอบทิศทาง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อุปกรณ์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกด้วยการสามารถตั้งขาตั้งกล้องได้ในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นบนโต๊ะ บนพื้น หรือแม้แต่สถานที่อื่น ๆ ก็สามารถตั้งได้อย่างสะดวกสบาย
ข้อดี
– มาพร้อมกับขนาดเล็กกะทัดรัด
– น้ำหนักเบา สามารถพกพาได้สะดวก
– หมุนองศาการถ่ายได้รอบทิศทาง
ข้อเสีย
– ไม่สามารถปรับระดับความสูงได้มากนัก
– รองรับน้ำหนักอุปกรณ์ได้เพียงแค่ 2 กิโลกรัม
สำหรับการเลือกขาตั้งกล้องในปัจจุบันถือเป็นสิ่งที่ยากพอสมควร เนื่องจากว่าจะมีขาตั้งกล้องแบรนด์ต่าง ๆ ให้เลือกซื้ออย่างมากมาย อีกทั้งยังมีระดับของราคาที่หลากหลายอยู่พอสมควร ดังนั้นในสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาร่วมกับความเหมาะสมในการใช้งาน ดังนั้นเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจที่ง่ายมากยิ่งขึ้น จะสามารถเลือกขาตั้งกล้องจาก 1 ใน 10 รุ่นนี้ ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ