10 เตาแม่เหล็กไฟฟ้าน่าใช้

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า

หากย้อนกลับไปสักประมาณ 20-30 ปี การทำอาหารหลาย ๆ ครัวเรือนคงไม่พ้นที่จะต้องใช้เตาแก๊สหรือเตาถ่าน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก หลายสิ่งหลายอย่างสะดวกสบายขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริโภคในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่เราเพิ่งจะเห็นในยุคนี้ก็คือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า หลาย ๆ ครัวเรือนเริ่มมีการใช้กันมากขึ้น เนื่องจากสะดวกสบาย น้ำหนักไม่มาก สามารถที่จะยกหรือย้ายไปไหนมาไหนได้สะดวก เพื่อสอดคล้องกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็วความสะดวกสบาย และข้อดีของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าคือไม่ก่อให้เกิดเปลวไฟหรือควัน ช่วยลดมลภาวะ และสำหรับคนที่อยู่อพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดก็สามารถทำอาหารได้อย่างสบายใจ เพราะบางอพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดบางแห่ง มีกฎว่าห้ามทำอาหารด้วยเตาแก๊สเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนกับคนอื่น

วันนี้จึงจะมาแนะนำเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้กับคนที่สนใจจะหาซื้อในอนาคต เพราะก่อนที่คุณต้องการซื้อหรืออยากเปลี่ยนเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามาใช้แทนเตาถ่านหรือเตาแก๊สแบบเก่า มีหลายอย่างที่ต้องรู้ เช่น หลักการทำงานและวิธีใช้ รวมถึงข้อระมัดระวังในการใช้งาน เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้ดียิ่งขึ้น 

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ Induction Cooker มีหลักการในการทำงานโดยวิธีการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็ก ระหว่างสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากับตัววัสดุหรือภาชนะที่เหนี่ยวนำไฟฟ้า เช่น เหล็ก สเตนเลส ฯลฯ นั้นหมายความว่าหากนำวัสดุหรือภาชนะที่ไม่มีการเหนี่ยวนำไฟฟ้าวัสดุหรือภาชนะชิ้นนั้นจะไม่มีความร้อนเกิดขึ้น เช่น แก้วหรือเซรามิก ฯลฯ ซึ่งตรงนี้จะเป็นข้อจำกัดของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเพราะถ้าเราใช้วัสดุชนิดอื่นที่ไม่มีการเหนี่ยวนำไฟฟ้าเตาจะไม่ทำงานและหยุดทำงานลง หลักการนี้จะต่างจากเตาไฟฟ้าที่ตัวเตาไฟฟ้าความร้อนจะเกิดขึ้นที่ขดลวดและส่งผ่านไปที่วัสดุนำความร้อนแล้วจึงส่งต่อไปยังวัสดุหรือภาชนะที่ปรุงอาหาร 

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะสามารถทำความร้อนได้รวดเร็วกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่าเตาไฟฟ้าทั่วไป และด้วยหลักการนี้จึงปลอดภัยจากการลุกไหม้ของไฟหรืออันตรายจากการที่เราไปสัมผัสเตาในขณะที่ร้อนอยู่ และสามารถมั่นใจได้ว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามีความปลอดภัยแน่นอน เพราะตัวเตาไฟฟ้าแม่เหล็กจะมีระบบตัดไฟเองอัตโนมัติในกรณีไฟเกิน (Over current protection) และกรณีมีความร้อนมากเกินไป (Over-heat protection)

และแม้ว่าข้อเสียของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าคือราคาที่สูงเมื่อเทียบกับเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าทั่ว ๆ ไป แต่ข้อดีของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็มีเยอะมากถ้าเทียบกับความคุ้มค่าที่ได้รับ และถ้าเทียบกับอัตราการบริโภคพลังงานที่ใช้ในการทำความร้อนนั้นใช้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นถ้าเทียบกับอัตราการใช้พลังงานกับเตาทั่วไป 

ข้อควรระวังในการใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า

– ห้ามวางโลหะหรือวัสดุเหนี่ยวนำความร้อนไว้บนเตาขณะเตากำลังทำงาน

– ในขณะที่เตากำลังทำงานไม่ควรวางอุปกรณ์หรือวัสดุที่มีคุณสมบัติในการดูดแม่เหล็กไว้ใกล้ ๆ

– หากพบว่ามีรอยแตกร้าวที่ด้านบนของเตาห้ามทำการเปิดใช้โดยเด็ดขาด

– ควรระมัดระวังในเรื่องการกระแทก 

– การทำความสะอาดไม่ควรใช้ฝอยขัดหม้อ เพราะจะทำให้เกิดรอยขีดขวด 

– ห้ามดัดแปลงหรือแก้ไขสินค้าเป็นอันขาด

สรุปคุณสมบัติเด่นของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

– เตาไฟฟ้าทำงานด้วยระบบการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าส่งผ่านความร้อนไปยังภาชนะ

– ผิวหน้าเป็นกระจกผสมเซรามิก คุณภาพสูง มีความทนทาน

– สะดวกและปลอดภัย

– ไม่มีเขม่าหรือประกายไฟ

– หากมีการเปิดเตาทิ้งไว้ และไม่มีภาชนะใด ๆ ที่สามารถทำการเหนี่ยวนำได้ตั้งอยู่บนเตา เตาก็จะไม่ทำงาน

รายการ 10 เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ต้องซื้อติดบ้านไว้

1. ELECTROLUX รุ่น ETD29KC

2. IMARFLEX รุ่น IF-865

3. AJ รุ่น IN-005B

4. XIAOMI Mijia รุ่น DCL02CM

5. TEFAL รุ่น IH720870

6. CLARTE’ รุ่น FIRT-03

7. AJ รุ่น IN-001B

8. PHILIPS รุ่น HD4911

9. GMAX รุ่น IC-C12

10. SMARTHOME รุ่น IN-1300

1. ELECTROLUX รุ่น ETD29KC

ELECTROLUX รุ่น ETD29KC

น้ำหนักสุทธิ 2.3 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงสุด 2,000 วัตต์

ขนาด 28 x 35 x 6.5 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 8 แบบ

ราคา 1,399 บาท

เริ่มกันที่แบรนด์ชื่อดังอย่าง ELECTROLUX ด้วยมาตรฐานที่ได้รับรองจากแบรนด์ดังซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนรายใหญ่ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจากแบรนด์นี้มีคุณภาพอย่างแน่นอน ด้วยความเบาที่สามารถพกพาให้คุณไปประกอบอาหารได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านหรือใครที่อยากจะไปสังสรรค์นอกสถานที่ก็สามารถพกพาไปได้อย่างสะดวก นอกจากข้อดีที่น้ำหนักเบาแล้ว รุ่นนี้ใช้การทำงานของ Pot Detector ปิดการทำงานอัตโนมัติ สามารถตั้งเวลาได้ตั้งแต่ 30 -180 นาที และตั้งความร้อนได้ถึง 8 ระดับ ควบคุมการทำอาหารด้วยหน้าจอ LED พร้อมระบบสัมผัสที่มีระบบ Child Lock เพื่อป้องกันเด็กหรือการกดแผงควบคุมโดยไม่ได้ตั้งใจ หน้าเตาและแผงควบคุมผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ ไร้รอยต่อ ให้ความสวยงามและหรูหรา จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือมีไฟเตือน EO เมื่อไม่ได้วางภาชนะหรือภาชนะไม่รองรับในการเหนี่ยวนำความร้อน 

ข้อดี

– มีระบบปิดทำงานเอกโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีภาชนะอยู่บนเตา

– น้ำหนักเบาพกพาสะดวก

ข้อเสีย

2. IMARFLEX รุ่น IF-865

IMARFLEX รุ่น IF-865

น้ำหนักสุทธิ 2 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงสุด 1,350 วัตต์

ขนาด 32 x 38 x 10.7 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 5 แบบ

ราคา 890 บาท

มากับแบรนด์ชื่อดังอีกแบรนด์คือ IMARFLEX มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบา และควบคุมระบบความร้อนด้วยไมโครชิป ทำให้การทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ  มีปุ่มลัดในการใช้งานถึง 5 แบบ เช่น หม้อร้อน ผัด ทอด ต้ม และบาร์บีคิว ปรับความร้อนได้ตั้งแต่ 80 – 240 องศาเซลเซียส ทำงานง่ายไม่จำเป็นต้องทำอาหารเก่งก็ใช้งานได้ มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ ทนทานต่อการกระแทก ทำความสะอาดง่าย 

ข้อดี

– มีระบบทำความร้อนควบคุมด้วยไมโครชิปแม่นยำ ปลอดภัย

– น้ำหนักเบาพกพาสะดวก

– วัสดุไม่เป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อเสีย

3. AJ รุ่น IN-005B

AJ รุ่น IN-005B

น้ำหนักสุทธิ 1.8 กิโลกรัม

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 กระติกน้ำสุญญากาศ ที่น่าสนใจ

กำลังไฟสูงสุด 2,000 วัตต์

ขนาด 28.2 x 35.2 x 7 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 6 แบบ

ราคา 890 บาท

ต่อกับอีกแบรนด์อย่าง AJ ที่เราค่อนข้างจะเห็นเขาตามอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แต่ทีนี้มาเอาดีทางด้านอุปกรณ์ทำอาหารอย่างเตาแม่เหล็กไฟฟ้า หน้าเตาทำจากคริสทัลคุณภาพดี มีจุดเด่นเหมือนกับ IMARFLEX ที่ทนต่อความร้อน ลดมลภาวะและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม กำลังไฟฟ้าสูงเพื่อการทำอาหารได้สุกทันใจ มีฟังก์ชันการใช้งานถึง 6 แบบ และควบคุมการใช้งานด้วยระบบสัมผัส มีจุดเด่นคือระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อลืมตั้งเวลาทำงานหรือไม่มีการแตะหน้าสัมผัสทำความร้อนระบบจะหยุดทำงานทันที และจุดเด่นอีกอย่างที่เห็นคือมีน้ำหนักเบากว่าแบรนด์อื่น ๆ ทำให้สามารถพกพาได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น 

ข้อดี

– หน้าเตาทำจากคริสทัลคุณภาพดี ทนต่อความร้อน

– มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ

-.น้ำหนักเบา

ข้อเสีย

4. XIAOMI Mijia รุ่น DCL02CM

XIAOMI Mijia รุ่น DCL02CM

น้ำหนักสุทธิ 2.1 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงสุด 2,100 วัตต์

ขนาด 26.5 x 26.5 x 7 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 100 แบบ

ราคา 1,670 บาท

อีกหนึ่งแบรนด์ดังที่เอาดีกับทุกสิ่งอย่างกับ XIAOMI ที่ลงแข็งขันไปในทุกสิ่ง มากับคุณสมบัติที่อลังการมากด้วยระบบการทำงาน 100 โหมด ทำให้สามารถเลือกทำอาหารได้ทุกแนว เช่น ทอด ต้ม นึ่ง ซุป ผัด หม้อไฟ ฯลฯ มาพร้อมกับสีขาวและรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ดูทันสมัยและหรูหรา ปุ่มปรับระดับเป็นแบบหมุนและมีปุ่มด้านข้างเป็นแบบระบบสัมผัส มีระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ ตัดความร้อนเมื่อไม่มีภาชนะมาสัมผัสหน้าเตาและมีไฟ LED แจ้งเมื่อตัดความร้อน ภายในมีพัดลมระบายความร้อนแบบ 7 ใบพัด ระบายความร้อนจากการทำงานเพื่อยืดอายุการใช้งานของเตาได้อย่างยาวนาน  จุดเด่นของรุ่นนี้คือสามารถทำอาหารหรือสั่งการผ่านแอปฯ ในระบบโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย (แต่มีข้อเสียคือระบบจะเป็นภาษาจีน แต่สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบ Android  จะสามารถเปลี่ยนภาษาได้โดยการใช้งานผ่านแอปฯ ) เรียกได้ว่าสามารถเพิ่มหรือลดความร้อนได้โดยไม่ต้องลุกมาที่เตาสบายสุด ๆ ไปเลย ฟังก์ชันขนาดนี้แถมราคาถูกอีกด้วยน่าคบมาก ๆ

ข้อดี

– ฟังก์ชันการทำงานเยอะ

– สามารถสั่งการทำงานผ่านสมาร์ตโฟนได้

ข้อเสีย

– ระบบส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีนทำให้ใช้งานไม่สะดวก

5. TEFAL รุ่น IH720870

TEFAL รุ่น IH720870

น้ำหนักสุทธิ 3.3 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงสุด 2,100 วัตต์

ขนาด 36 x 29 x 4.8 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 6 แบบ

ราคา 1,890 บาท

TAFAL เป็นแบรนด์ดังที่มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องครัวคุณภาพสูงที่นิยมไปทั่วโลก แถม TAFAL เป็นผู้ผลิตเครื่องครัวที่มีคุณสมบัติผิวเคลือบเป็นรายแรกของโลก TEFAL รุ่น IH720870 มาพร้อมกับกำลังไฟที่มากถึง 2,100 วัตต์ และสามารถเพิ่มขึ้นเป็น 2,200 วัตต์ได้ในโหมด Boost ทำให้เร่งความร้อนให้สูงขึ้นได้อีก สามารถทำอาหารที่ใช้เวลานานได้ในเวลาอันรวดเร็ว ปุ่มควบคุมแบบระบบสัมผัสใช้งานง่าย และมีฟังก์ชันการทำอาหาร 6 แบบ เช่น ต้ม นึ่ง ซุป ทอด ผัดและหม้อไฟ และสามารถตั้งเวลาได้สูงสุดถึง 23 ชั่วโมง 59 นาที เพื่อความสะดวกในการทำอาหาร

ข้อดี

– มีโหมด Boost ที่ช่วยเร่งความร้อนให้สูงขึ้นได้อีก

ข้อเสีย

– น้ำหนักเยอะพกพาลำบาก

6. CLARTE’ รุ่น FIRT-03

CLARTE’ รุ่น FIRT-03

น้ำหนักสุทธิ 1.9 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงสุด 2,000 วัตต์

ขนาด 29 x 36 x 4.2 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 8 แบบ

ราคา 999 บาท

มากับม้ามืดกับแบรนด์ CLARTE’ ที่มาพร้อมกับระบบไฟฟ้า 220 โวลต์ ให้กำลังไฟสูงสุดถึง 2,000 วัตต์ สามารถทำความร้อนได้เร็วภายในระยะเวลา 2 นาที ประหยัดเวลาในการทำอาหาร หน้าเตาทำมาจากไมโครคริสทัลเทคโนโลยีรับรองคุณภาพจากประเทศเยอรมัน สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 600 องศาเซลเซียส และมีความแข็งแรงทนทาน หน้าจอแสดงผลการทำงานแบบ 4 ตัวเลข ดูง่ายไม่รกสายตา และควบคุมด้วยระบบสัมผัสสามารถปรับความร้อนได้อย่างอิสระ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามทันสมัย พร้อมกับฟังก์ชันทำอาหารทั้งหมด 8 โหมด เช่น ซุป นึ่ง ทอด ผัดและหม้อไฟ ฯลฯ มีระบบตั้งเวลาอัตโนมัติและสามารถตั้งเวลาทำงานได้สูงสุดถึง 3 ชั่วโมง สะดวกสบายทำให้คุณมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ จุดเด่นคือมีระบบกันความชื้นแบบปิดสนิทสามารถป้องกันความชื้นซึมเข้าด้านในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น แถมมีราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับสินค้าที่มีคุณสมบัติคล้าย ๆ กัน 

ข้อดี

– หน้าเตาผลิตจากคริสทัลคุณภาพดีจากประเทศเยอรมัน ทนความร้อนสูง

– น้ำหนักเบา

ข้อเสีย

7. AJ รุ่น IN-001B

AJ รุ่น IN-001B

น้ำหนักสุทธิ 2 กิโลกรัม

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ หม้อหุงข้าว ที่น่าใช้ที่สุด

กำลังไฟสูงสุด 1,300 วัตต์

ขนาด 27.6 x 35.2 x 5.3 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 7 แบบ

ราคา 730 บาท

มากันอีกครั้งกับแบรนด์ AJ อีกรุ่นหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากมีราคาที่ถูกและมีฟังก์ชันการใช้งานครบเครื่องไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ โดยมีโหมดในการทำอาหารถึง 7 โหมด เช่น สุกี้ ผัด ย่าง ทอด ซุป ตุ๋นและต้ม และถ้าไม่มีภาชนะวางบนเตาใน 1 นาทีจะมีระบบป้องกันความปลอดภัยโดยการตัดไฟอัตโนมัติไม่ก่อให้เกิดอันตรายจากเปลวไฟหรือควัน หน้าเตาทำมาจากเซรามิกคุณภาพดีจึงสามารถทำให้ร้อนเร็วและทนทานต่อความร้อน สามารถทำความร้อนได้ถึง 80 -240 องศาเซลเซียส ด้านล่างมีพัดลมระบายความร้อนทำให้ปลอดภัยและประหยัดไฟ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเตาได้

ข้อดี

– มีพัดลมระบายความร้อนด้านล่าง

ข้อเสีย

8. PHILIPS รุ่น HD4911

PHILIPS รุ่น HD4911

น้ำหนักสุทธิ 4 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงสุด 2,100 วัตต์

ขนาด 28 x 35 x 6.5 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 5 แบบ

ราคา 1,858 บาท

ต่อกันที่แบรนด์ชื่อดังอย่าง PHILIPS ที่มีชื่อเสียงกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่สามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าจากแบรนด์นี้จะมีคุณภาพอย่างแน่นอน รูปลักษณ์ภายนอกดูหรูหราและทันสมัย มีระบบทำความร้อนที่ทำการทดสอบจาก Intertek Testing Services Hong Kong Ltd. ที่ยืนยันผลการทดลองว่าสามารถลดระยะเวลาในการเตรียมอาหารลงไปถึง 1/3 เมื่อเทียบกับการทำอาหารที่ใช้เตาแก๊สแบบเก่า มาพร้อมกับกำลังไฟถึง 2,100 วัตต์ ที่ทำอาหารได้ร้อนรวดเร็วทันใจไม่ต้องรอนาน ควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบสัมผัส สามารถตั้งระดับความร้อนได้ถึง 5 ระดับ ตั้งแต่ 60 – 280 องศาเซลเซียส สามารถปรุงอาหารได้หลายประเภท เช่น ต้ม นึ่ง ทอด ฯลฯ มีฟังก์ชันตั้งเวลาล่วงหน้า 24 ชั่วโมงเพื่อเตรียมตัวในการเริ่มปรุงอาหาร และสามารถตั้งค่าเวลาปรุงอาหารได้ 1 – 120 นาที สะดวกสบายโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าเตา 

ข้อดี

– สามารถตั้งเวลาล่วงหน้า 24 ชั่วโมงเพื่อเตรียมตัวในการเริ่มปรุงอาหาร

– หน้าเตาเป็นแผงกระจกแผ่นเดียวทำจากวัสดุเกรด A แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน และสะดวกต่อการทำความสะอาด

ข้อเสีย

– น้ำหนักเยอะพกพาลำบาก

9 GMAX รุ่น IC-C12

GMAX รุ่น IC-C12

น้ำหนักสุทธิ 2 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงสุด 1,650 วัตต์

ขนาด 34.7 x 28 x 6.4 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 8 แบบ

ราคา 1,399 บาท

GMAX รุ่น IC-C12 มาพร้อมกับกำลังไฟที่สูงถึง 1,650 วัตต์ หน้าเตาเป็นกระจกคริสทัลเกรด A ทนความร้อนสูง ควบคุมความร้อนด้วยระบบสัมผัสพร้อมหน้าจอ LED เพื่อเพิ่มความสะดวกต่อการใช้งาน ทำงานด้วยระบบไมโครคอมพิวเตอร์มีความแม่นยำในการทำงานสูง มีฟังก์ชันการทำอาหารถึง 5 แบบ เช่น หุง อุ่น ตุ๋นและหม้อไฟสุกี้ สามารถปรับระดับความร้อนได้ถึง 8 ระดับ สามารถปรับได้ตั้งแต่ 200 – 1,650 องศาเซลเซียส มีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติเหมือนรุ่นอื่น ๆ มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งาน ด้านล่างมีช่องระบายความร้อนทำให้ปลอดภัย ประหยัดพลังงานและช่วยยืดอายุการใช้งานได้ และมีระบบตั้งเวลาปิดการทำงานได้ตั้งแต่ 1 – 180 นาที หรือ 3 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตรายจากการปรุงอาหาร จุดเด่นรุ่นนี้คือราคาที่ถูกมากถ้าเทียบกับฟังก์ชันที่ได้รับ

ข้อดี

– หน้าเตาทำจากกระจกคริสทัลเกรด A ทนความร้อนสูง

– น้ำหนักเบา

ข้อเสีย

10. SMARTHOME รุ่น IN-1300

SMARTHOME รุ่น IN-1300

น้ำหนักสุทธิ 1.5 กิโลกรัม

กำลังไฟสูงสุด 1,300 วัตต์

ขนาด 27.5 x 35 x 6.5 เซนติเมตร

ฟังก์ชันการทำงาน 5 แบบ

ราคา 459 บาท

สุดท้ายกับแบรนด์ SMARTHOME ที่ติดอยู่ในลิสท์เตาแม่เหล็กไฟฟ้าขายดีในตลาดออนไลน์ เตา SMARTHOME มาพร้อมกับกำลังไฟ 1,300 วัตต์ หน้าเตาทำจากเซรามิกคุณภาพดีให้ความร้อนสูงและทนทาน ทำความร้อนได้รวดเร็วแถมไม่มีเสียงดังรบกวน ทำความสะอาดง่าย รูปลักษณ์ภายนอกดูทันสมัย ปุ่มควบคุมใช้งานง่าย มีจุดเด่นอยู่ที่น้ำหนักเบาสามารถพกพาไปสังสรรค์นอกบ้านได้และขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไปประหยัดพื้นที่ในการเคลื่อนย้าย มีฟังก์ชันการทำงานถึง 5 หมวด ผ่านปุ่มควบคุมด้วยระบบสัมผัส มีความปลอดภัยด้วยระบบตัดการทำงานของไฟอัตโนมัติ เมื่อมีความร้อนสูงหรือไม่มีภาชนะตั้งบนเตา 

ข้อดี

– หน้าเตาทำจากเซรามิกคุณภาพดี

– น้ำหนักเบา

ข้อเสีย

สำหรับ ข้อมูลรายละเอียดของการทำงานและข้อระมัดระวังในการใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและสรุป 10 แบรนด์ยอดนิยม มาอย่างคร่าว ๆ ที่ต้องบอกว่าคร่าว ๆ เพราะยังมีแบรนด์เตาแม่เหล็กไฟฟ้าอีกหลายรุ่นหลายแบบให้เลือกซื้อในตลาด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่คนว่าเราต้องการจะใช้งานอย่างไร เช่น ถ้าไม่ต้องการนำไปใช้นอกพื้นที่เรื่องน้ำหนักก็จะไม่เป็นประเด็นมากหรือถ้าต้องนำออกไปใช้นอกบ้านบ่อย ๆ ไปสังสรรค์นอกบ้านไม่ได้นำมาใช้ในบ้านแบบเป็นหลักก็อาจจะดูตัวที่มีน้ำหนักเบาและไฟที่ไม่ต้องแรงมากประหยัดพลังงาน แถมบางแบรนด์ก็มีราคาถูกประหยัดเงินในกระเป๋า อีกอย่างที่สำคัญและอาจจะเป็นข้อเสียของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเลยก็คือการเลือกกระทะที่มาใช้ค่อนข้างที่จะจำกัด เพราะต้องเลือกกระทะแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์ขดลวดซึ่งจะมีแสดงตรงด้านล่างของกระทะ ตามรูปข้างล่าง จึงจะสามารถนำมาใช้งานกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้

เตาไฟฟ้า.jpg

สัญลักษณ์กระทะที่ใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งานเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก คนที่อยู่หอพักหรือคอนโด เพราะตัวเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามีน้ำหนักเบาและขนาดที่กะทัดรัด เคลื่อนย้ายได้สะดวก ไม่ต้องใช้แก๊สหุงต้มให้เกิดอันตราย ไม่มีควันรบกวนลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม มีติดบ้านกันไว้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์มาก ๆ หวังว่าบทความนี้จะเป็นเป็นตัวช่วยให้กับผู้ที่สนใจในตัวเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้รู้และตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อย