ในทุกวันนี้การใช้ชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น งานบ้านที่ไม่ต้องลงแรง หรือเหน็ดเหนื่อยเท่ากับแต่ก่อน อย่างการซักผ้าที่เป็นหนึ่งในกิจวัตรของทุกคน มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง เครื่องซักผ้าที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำความสะอาดเสื้อผ้าให้ง่ายเพียงปลายนิ้ว และยิ่งนับวันเครื่องซักผ้าก็มีการพัฒนาความสามารถให้มีความหลากหลาย และตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าเครื่องซักผ้าในตลาดตอนนี้ก็มีการปล่อยรุ่นใหม่ และเกิดแบรนด์รุ่นเล็กที่มีนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย ในบทความชิ้นนี้จะทำการรวบรวมเครื่องซักผ้า 10 เครื่องที่ถ้าหากใครกำลังมองหาตัวช่วยในการซักผ้าอยู่ ควรที่จะนำเครื่องซักผ้าเหล่านี้เข้าไปเป็นหนึ่งในรายการสินค้าน่าซื้อของปีนี้ได้เลย ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีเครื่องซักผ้ารุ่นไหน และแบรนด์ใดบ้าง ไปติดตาม 10 รายการเครื่องซักผ้ากันได้เลย
รายการ 10 เครื่องซักผ้า
1. LG TT11NARG

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 11 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): –
ราคา 6,790 บาท
หนึ่งในเครื่องซักผ้าอีกรุ่นที่ถูกผลิตมาเพื่อครอบครัวที่มีหลายสมาชิก เพราะรุ่นนี้มีลักษณะเป็นเครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง ที่ผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูง ทำให้ตัวถังของเครื่องซักผ้ามีความคงทน และที่สำคัญคือ หนาเป็นพิเศษ อายุการใช้งานของเครื่องซักผ้ารุ่นนี้จึงอยู่ได้ยาวมากกว่าเครื่องซักผ้า 2 ถังอื่นในตลาด เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ทำความแบบกึ่งอัตโนมัติเพื่อให้คุณแม่บ้านได้เลือกฟังก์ชันที่ตรงกับเนื้อผ้าแต่ละชนิดได้อีกด้วย
โดยการทำงานของเครื่องซักผ้า LG TT11NARG มีลักษณะการทำงานที่แบ่งออกเป็น 3 ฟังก์ชันหลัก ดังนี้ รูปแบบการซักผ้าธรรมดา ระบบการทำงานของรูปแบบนี้จะทำการถนอมเนื้อผ้า และรูปแบบการทำความสะอาดแม้คราบที่ฝังลึก ใช้เวลาในการซักเพียง 15 นาทีแต่เพียงเท่านั้น หรือจะเป็นรูปแบบการสลับแช่ผ้า และซักผ้าไปในตัว ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในเทคโนโลยี Roller Jet ที่มีแต่ในรุ่นนี้ การซักผ้าในลักษณะนี้จะเป็นการทำความสะอาดแบบใช้พลังน้ำแทรกเข้าไปในเนื้อผ้าแบบอ่อนโยน เพื่อทำความสะอาดให้ผ้าได้หอมสดชื่น และสะอาดได้ในทุกส่วน ถ้ากำลังตามหาเครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์กับความหลากหลายของเนื้อผ้า เครื่องซักผ้า LG TT11NARG ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ข้อดี
– เครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง จุได้เยอะเป็นพิเศษ
– พลาสติกอย่างดี อายุการใช้งานที่สูง
– มี 3 ฟังก์ชันหลักในการทำงาน
– ระบบซักเร็วเพียง 15 นาที
ข้อเสีย
–
2. Toshiba AW-DG1500WT

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบฝาบน
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: –
ความจุในการซักผ้า: 14 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): ใช้งานแบบอินเวอร์เตอร์
ราคา 16,990 บาท
หากจะพูดถึงแบรนด์เครื่องซักเสื้อผ้าที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ชื่อแบรนด์ของ Toshiba จะต้องเป็นหนึ่งในชื่อแบรนด์เครื่องซักผ้าที่หลายคนคุ้นเคยกัน เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากทางแบรนด์ Toshiba AW-DG1500WT มาพร้อมกับนวัตกรรม One Touch Button ที่จะทำให้การซักผ้าของคุณกลายเป็นเรื่องที่ง่าย และตรงโจทย์ ด้วยการเลือกฟังก์ชันที่เหมาะสมกับการใช้งาน และเครื่องซักผ้ารับบทหนัก ในการลงมือ ให้เครื่องซักผ้า ดูแลความสะอาดพร้อมถนอมเนื้อผ้าเป็นหน้าที่ของเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ได้อย่างหายห่วง
ความน่าสนใจของเครื่องซักผ้าเครื่องนี้คือ สามารถปรับระดับความดันแรงน้ำได้ถึง 3 ระดับด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลว่าระดับน้ำที่ใช้อยู่นั้นจะมากเกินไป หรือน้อยเกินไป เพราะคุณสามารถกำหนดเองได้ และจุดเด่นของเครื่องซักผ้าที่พร้อมจะทำความสะอาดเครื่องไปในตัวทุกครั้งที่มีการใช้งานด้วยเทคนิค Hygiene Tub Clean เหนือชั้นด้วยระบบจดจำการทำงานเดิม ไม่ว่าจะไฟดับ หรือเกิดปัญหาระหว่างการทำงาน ตัวเครื่องจะจดจำกระบวนการซักผ้าเก่า ทันทีที่พร้อมใช้งานจะทำการซักผ้าต่อจากขั้นตอนก่อนหน้า ทำให้เครื่องซักผ้าของผู้ใช้กลายเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป
ข้อดี
– นวัตกรรม One Touch Button
– ปรับระดับความดันแรงน้ำได้ถึง 3 ระดับ
– Hygiene Tub Clean ระบบจดจำการทำงานเดิม
ข้อเสีย
– ราคาสูง
3. Haier HWM-T90 OXS

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 9 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): –
ราคา 6,990 บาท
ถ้าคุณแม่บ้านคนใดที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าที่จะตอบโจทย์กับสมาชิกภายในบ้านประมาณ 6 – 7 คน ต้องการเครื่องซักผ้าที่จะใส่เสื้อผ้าได้จำนวนมาก Haier HWM-T90 OXS ที่เป็นเครื่องซักผ้ารูปแบบ 2 ถัง ถังซักที่มาในขนาด 9 กก. และถังปั่นจุ 5.6 กก. ด้วยขนาดทั้ง 2 ถังที่พร้อมทำงานทุกเมื่อ และใหญ่เป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีสำหรับการทำความสะอาดแบบลงลึกทุกสิ่งสกปรกด้วย Soak Master ที่เป็นรูปแบบการทำงานแช่ผ้าลงในน้ำ และเครื่องจะทำงานตลอด 20 นาที เพื่อให้คราบ หรือสิ่งสกปรกที่ระดับสายตามองไม่เห็นได้ถูกทำความสะอาดให้เหมือนได้ผ้าใหม่
ด้านงานผลิตของตัวถังเองก็ดีไม่น้อยหน้า ทั้ง 2 ถังผลิตมาจากวัสดุชั้นดีที่พร้อมใช้งานได้ทนทาน และมีอายุการใช้งานที่มากกว่าเครื่องซักผ้าทั่วไป พร้อมกับไม่ทำให้เครื่องซักผ้ามีกลิ่นอับ ตัวเครื่องมีระบบ Shower Rinse ที่จะทำการปล่อยน้ำจากด้านบนลงด้านล่าง ให้เหมือนกับการทำงานของฝน เสื้อผ้าของคุณจะได้รับการทำความสะอาดในทุกส่วน
ข้อดี
– เครื่องซักผ้ารูปแบบ 2 ถัง
– ทำความสะอาดแบบลงลึก
– Soak Master เทคนิคแช่ผ้าในน้ำ
– ระบบ Shower Rinse ที่จะทำการปล่อยน้ำจากด้านบนลงด้านล่าง
ข้อเสีย
– ไม่มีระบบทำความสะอาดตัวเอง
4. SHARP ES-W119T-S

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบฝาบน
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 11 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): ใช้งานแบบอินเวอร์เตอร์
ราคา 22,990 บาท
ชื่อแบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง SHARP ที่เป็นชื่อของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ ก็มีเครื่องซักผ้าที่น่าสนใจสำหรับแม่บ้านยุคใหม่อย่าง SHARP ES-W119T-S ด้วยเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับการทำงานของเครื่องซักผ้าที่นำรูปแบบของการทำความสะอาดแบบ 3D มาปรับใช้ในเครื่องด้วย 3D Wave กระแส 3 มิติ ตัวเครื่องจะปล่อยกระแสน้ำจาก 3 ทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นแนวดิ่ง แนวนอน และแนวทแยง รับรองได้เลยว่าเสื้อผ้าของผู้ใช้จะได้รับการทำความสะอาดอย่างหมดจด เพราะตัวเครื่องจะแทรกซึมผงซักฟอกให้เข้าไปทุกชิ้นส่วนของเสื้อผ้า ก่อนทำการชำระล้างให้หมดด้วยวิธีเดียวกัน
ความโดดเด่นของเครื่องซักผ้า SHARP ES-W119T-S ไม่ได้มีเพียงแต่การใช้กระแสน้ำจาก 3 ทิศทางที่ได้กล่าวไปข้างต้น เพราะงานออกแบบของตัวเครื่องที่เลือกใช้จานซักที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ เพื่อที่จะได้กระจายแรงน้ำเพื่อให้การทำความสะอาดเพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในความน่าสนใจของตัวจานเครื่องซักผ้านี้คือ การซักผ้าที่โดยปกติจะมีเกิดปัญหาเสื้อผ้าเกิดการพันตัวกันหลังซักเสื้อผ้าเสร็จ ทำให้ยากต่อการนำไปตาก หรือเข้าเครื่องอบผ้าต่อ ตัวจานจะกระจายแรงดันน้ำทำให้ผ้าไม่พันกัน พร้อมเข้าเครื่องอบต่อได้โดยง่าย ถ้านี่เคยเป็นหนึ่งในเรื่องที่คุณแม่บ้านหลายคนกังวล เครื่องซักผ้า SHARP ES-W119T-S ก็เป็นตัวเลือกที่ดูดีทีเดียว
ข้อดี
– การทำความสะอาดแบบ 3D
– เทคนิคการทำความสะอาดแบบ กระแสน้ำจาก 3 ทิศทาง
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างสูงมาก
5. Electrolux EWW8025DGWA

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
ความจุในการอบผ้า: 5 กก.
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 8 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): ใช้งานแบบอินเวอร์เตอร์
ราคา 14,990 บาท
Electrolux EWW8025DGWA ขึ้นชื่อด้านการทำความสะอาด พร้อมกับการกำจัดเชื้อโรค ที่มาพร้อมกับการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะที่ไม่ใช้พลังงานแบบสิ้นเปลืองทำให้ช่วยประหยัดเงินค่าไฟดีอีกด้วย เครื่องซักผ้าตัวนี้มาจากแบรนด์ดัง Electrolux ที่มีลักษณะเด่นของแบรนด์คือ การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ เช่นเดียวกันกับเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทนทาน แข็งแรง เหมาะกับการใช้งานทุกสถานการณ์
อย่างไรก็ดีตัวเครื่องซักผ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่มีเฉพาะรุ่นอย่าง VapourCare การใช้ไอน้ำที่มีอณูเล็กพร้อมแทรกเข้าไปในทุกเส้นใยของผ้าเพื่อทำการกำจัดเชื้อโรคที่แฝงตัวอยู่ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของเส้นใยไปในตัว ทำให้เนื้อผ้าได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก และเพิ่มอายุการใช้งานของเสื้อผ้าไปในตัว ระบบฟังก์ชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์กับแต่ละความต้องการของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมเลือกอุณหภูมิในการซัก หรือจะเป็นโปรแกรมซักผ้าด่วนที่จะใช้ระยะเวลาน้อยกว่าการซักผ้าปกติ แต่ได้ความสะอาดที่ใกล้เคียงกัน ตัวเครื่องซักผ้า Electrolux EWW8025DGWA มีระบบอินเวอร์เตอร์ที่จะทำให้การซักเสื้อผ้าของผู้ใช้ไม่มีเสียง และประหยัดไฟขั้นสุด จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนในยุคนี้เลือกใช้เครื่องซักผ้าเครื่องนี้ เพราะตอบโจทย์กับชีวิตคนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโดที่ต้องการเครื่องซักผ้าที่ไม่ใหญ่มาก ทำงานเงียบ ช่วยประหยัดไฟ
ข้อดี
– การทำความสะอาด พร้อมกับการกำจัดเชื้อโรค
– แข็งแรง ทนทาน
– VapourCare การใช้ไอน้ำที่มีอณูเล็กพร้อมแทรกเข้าไปในทุกเส้นใยผ้า
ข้อเสีย
– ราคาสูง
6. Samsung WT16J8

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 14 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): –
ราคา 8,690 บาท
ถ้ากำลังมองหาเครื่องซักผ้าที่มีความคงทน แข็งแรง ออกแบบเรียบหรู พร้อมระบบปั่นแห้งในตัว Samsung WT16J8 คงเป็นหนึ่งในคำตอบที่หลายคนกำลังมองหา ด้วยตัวเครื่องซักผ้าที่มีรูปแบบ 2 ถัง พร้อมใช้งานในหลากหลายลักษณะเพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย มีเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวของคนในยุคนี้อย่าง Air Turbo Drying ที่เป็นเทคโนโลยีที่จะใช้แรงปั่นของเครื่องที่จะทำการปั่นด้วยความเร็วสูง จนทำให้น้ำ และความชื้นที่มีอยู่ในตัวผ้าออกจนหมด และด้วยเทคโนโลยีนี้จะทำให้ผู้ใช้งานแทบจะไม่ต้องทำการตากผ้า หรือเข้าเครื่องอบผ้าอีกเลย เพราะว่าตัวผ้าจะมีความแห้งมากประมาณหนึ่งแล้ว
ถึงแม้ว่าตัวเครื่องซักผ้า Samsung WT16J8 จะมีแรงปั่นมหาศาลที่ทำให้เนื้อผ้าแห้งได้แทบจะในทันที แต่ความน่าสนใจต่อมาคือ ตัวผ้า และเส้นใยแทบจะไม่มีความเสียหาย เพราะการซักของเครื่องซักผ้านี้ถนอมเนื้อผ้า และเส้นใยเป็นพิเศษ ไม่ทำให้ผ้าพันกันที่เป็นปัญหาของเหล่าแม่บ้านกับเครื่องซักผ้ามาอย่างยาวนาน พร้อมกับตัวกรองสิ่งสกปรกที่ภายในเครื่องจะมีประกอบอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกสามารถย้อนไหลกลับเข้าไปในเนื้อผ้าได้อีก
ข้อดี
– ระบบปั่นแห้งในตัว Samsung WT16J8
– Air Turbo Drying ที่เป็นเทคโนโลยีที่จะใช้แรงปั่นของเครื่องที่จะทำการปั่นด้วยความเร็วสูง
– แข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ
ข้อเสีย
–
7. LG T2514VS2M

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบฝาบน
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 14 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): ใช้งานแบบอินเวอร์เตอร์
ราคา 12,990 บาท
Smart Inverter เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มาในเครื่องซักผ้ารุ่น T2514VS2M ของ LG โดยจะทำให้การทำงานของเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำความสะอาดแบบล้ำลึก แต่ประหยัดพลังงาน และช่วยลดค่าไฟไปในตัวด้วยการกระจายไฟฟ้าที่อัจฉริยะ หากเกิดปัญหาระหว่างการทำงาน หรือไฟดับ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องจะต้องทำการซักเสื้อผ้าใหม่ตั้งแต่ต้น เพราะตัวเครื่องจะมีระบบ Auto Restart ที่จดจำการทำงานครั้งก่อนหน้าไว้อยู่ตลอด ทำให้เมื่อเครื่องกลับมาพร้อมทำงานอีกครั้งก็สามารถซักเสื้อผ้าที่ค้างไว้ที่ขั้นตอนเดิมได้ทันที
ในเรื่องของการทำความสะอาด เครื่องซักผ้าเครื่องนี้เองก็ไม่น้อยหน้าด้วยการนำเทคโนโลยีผสมผสานระหว่าง TurboDrum™ และ Punch+3 ที่จะทำให้เสื้อผ้ากระจายตัว และได้รับการทำความสะอาดทุกส่วนของเสื้อผ้าในทุกตัว การันตีเรื่องของการทำความสะอาดที่คุณแม่บ้านไม่ต้องกังวลเรื่องซักเสื้อผ้าไม่ทั่วอีกต่อไป T2514VS2M ของ LG ยังมีการออกแบบให้เครื่องซักผ้านี้ดูเรียบหรู สามารถวางไว้ในคอนโดได้อย่างไม่ติดขัด และเหนือชั้นด้วยการทำงานไร้เสียง ไม่ส่งเสียงรบกวนตลอดการทำงาน
ข้อดี
– ประหยัดพลังงาน
– Auto Restart ที่จดจำการทำงานครั้งก่อนหน้าไว้อยู่ตลอด
– TurboDrum™ และ Punch+3 ที่จะทำให้เสื้อผ้ากระจายตัว
ข้อเสีย
–
8. Electrolux EWF7525DGWA

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 7.5 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): ใช้งานแบบอินเวอร์เตอร์
ราคา 14,990 บาท
อาจจะเรียกได้ว่าแบรนด์ Electrolux คือการออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันหลากหลายเพื่อให้ตรงกับเคมีของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พร้อมทุกสถานการณ์ และดูเหมือน Electrolux EWF7525DGWA จะเป็นลักษณะเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบนั้น เพราะตัวเครื่องซักผ้านี้มีฟังก์ชันแยกในการใช้งานที่มากถึง 11 โปรแกรม ที่ผู้ใช้งานสามารถที่จะเลือกอุณหภูมิ รูปแบบการซักให้ตรงกับเนื้อผ้าได้เลยอีกด้วย และสิ่งที่ใส่เข้ามาในรุ่นนี้เพื่อที่จะให้เครื่องซักผ้าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองส่วนมาก ที่ต้องการเครื่องซักผ้าที่มีขนาดเล็ก ประหยัดไฟ และไร้เสียงรบกวนโดยการใส่ระบบ Inverter มาไว้ให้ด้วย
เครื่องซักผ้าเครื่องนี้สามารถที่จะทำให้วันที่เร่งรีบของผู้ใช้งานสะดวกสบาย ด้วยรูปแบบการซักด่วน ที่สามารถทำการซักเสื้อผ้าได้ภายในเวลาเพียง 20 นาทีแต่เพียงเท่านั้น ในขณะเดียวกันถ้าวันว่างที่ผู้ใช้ต้องการใส่เสื้อผ้าจำนวนมาก และพร้อมให้ตัวเครื่องทำงานอย่างเต็มที่สามารถที่จะหน่วงเวลาการทำงานได้นานมากถึง 19 ชม. เลยทีเดียว ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และให้คุณได้เลือกรูปแบบการทำงานที่เป็นคุณ
ข้อดี
– ฟังก์ชันแยกในการใช้งานที่มากถึง 11 โปรแกรม
– ไร้เสียงรบกวนโดยการใส่ระบบ Inverter
– ตั้งค่าเวลาทำงานได้
ข้อเสีย
– ราคาสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้าระดับเดียวกัน
9. Samsung WA11T5260BY/ST

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบฝาบน
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 11 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): ใช้งานแบบอินเวอร์เตอร์
ราคา 8,290 บาท
ปัญหาผ้ายับผ้าย่นต้องไปเสียเวลากับการรีดผ้าให้นานยิ่งขึ้น หนึ่งในปัญหาที่เหล่าคุณแม่บ้านต้องพบจะหายไปเมื่อใช้งาน Samsung WA11T5260BY/ST ที่มีเทคโนโลยี Wobble ที่จะทำการสร้างกระแสน้ำวนภายในตัวเครื่อง ทำให้ตัวผ้าไม่พันกัน และยังทำให้ลดรอยยับ หรือรอยย่นของผ้าในระหว่างการซักเสื้อผ้า ที่สำคัญคือการทำความสะอาดแบบลงลึกถึงเส้นใยที่ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าทุกส่วนของเสื้อผ้าจะได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึง
ลักษณะของเครื่องซักผ้านี้มาในรูปแบบของเครื่องซักผ้าฝาบน ที่มีขนาดมากถึง 11 กก. ถังซักสเตนเลส มั่นใจได้ว่าเครื่องซักผ้านี้ทนทาน พร้อมใช้งานในทุกรูปแบบ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่าไฟ เพราะตัวเครื่องมีเทคโนโลยีอย่าง Digital Inverter ที่จะช่วยลดพลังงานในการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ไร้เสียง ไม่มีสิ่งรบกวน มั่นใจได้เลยว่าตัวเครื่องสามารถที่จะนำไปใช้ในคอนโดก็ได้ หรือจะใช้งานที่บ้านก็เหมาะเช่นเดียวกัน
ข้อดี
– เทคโนโลยี Wobble ที่จะทำการสร้างกระแสน้ำวนภายในตัวเครื่อง
– ถังซักสเตนเลส ทนทาน
– Digital Inverter ที่จะช่วยลดพลังงานในการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์
ข้อเสีย
–
10. Toshiba AW-A750ST

ชนิดเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้าแบบฝาบน
ความจุในการอบผ้า: –
ตั้งเวลาซัก: ทำได้
ความจุในการซักผ้า: 6.5 กก.
ทำความสะอาดถังอัตโนมัติ: –
ใช้อินเวอร์เตอร์ (Inverter): –
ราคา 5,990 บาท
Toshiba AW-A750ST มาในรูปแบบของเครื่องซักผ้าฝาบน ที่มีขนาดเล็ก พร้อมใช้งานได้ทุกที่ และที่สำคัญตัวเครื่องมีระบบ Hydro Twin Power ที่จะสร้างกระแสน้ำวนภายในเครื่องทำให้เกิดการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกในส่วนทุก ไม่ทำให้ผ้าพันกันที่จะเป็นปัญหาในการอบผ้า หรือการตากในภายหลังอีกด้วย ไร้เสียงรบกวน ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมอื่นประกอบการซักผ้าได้อย่างไม่ติดขัด
ข้อดี
– ระบบ Hydro Twin Power ที่จะสร้างกระแสน้ำวน
– ไร้เสียงรบกวน
ข้อเสีย
– ขนาดเล็กมาก ใส่เสื้อผ้าได้น้อย
ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดของเครื่องซักผ้าที่มีความนิยมสูงสุดตลอดปี หากกำลังมองหาเครื่องซักผ้าสักเครื่องใน 10 อันดับ นี้จากหลากหลายแบรนด์คือตัวเลือกที่ได้กรองมาให้คุณแล้ว เกณฑ์ในการเลือกที่ควรใช้ประกอบการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าคือ ความต้องการในการใช้งาน ราคา ฟังก์ชันของเครื่องซักผ้า และความจุของถังซัก หวังว่าบทความชิ้นนี้จะช่วยให้การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าง่ายขึ้น