10 เครื่องฟอกอากาศ xiaomi รุ่นไหนเหมาะกับคุณ

ในปัจจุบันที่โลกเต็มไปด้วยมลภาวะทางอากาศที่หนาแน่น จนในบางครั้งการเดินทางในยามเช้าระหว่างการไปทำงานต้องพบว่ามีฝุ่นที่เต็มไปทั่ว จนดูคล้ายหมอกที่หนาทึบ ทำให้หนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีแทบทุกบ้านในตอนนี้คือ เครื่องฟอกอากาศ ที่จะทำการฟอกอากาศที่อยู่ภายในบ้านให้มีความสะอาด และบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ 

โดยหนึ่งในแบรนด์เครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูงสุดแบรนด์หนึ่งที่ทุกคนรู้จักกันดี xiaomi แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่มักจะมีการออกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต ภายในราคาที่ถูกมาก และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งในบทความชิ้นนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 10 อันดับเครื่องฟอกอากาศที่นิยมมากที่สุดในแบรนด์ xiaomi ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์นี้ เชื่อว่าบทความชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณได้บ้างไม่มากก็น้อย 

10 เครื่องฟอกอากาศ xiaomi

1. Xiaomi Mi Air Purifier Pro H

2. Xiaomi Mi Air Purifier 3H

3. Xiaomi A1 Air purifier

4. Xiaomi Mijia Desktop Air Purifier

5. Xiaomi Mi Air Purifier Pro

6. Xiaomi Mi Air Purifier 3

7. Xiaomi Mi Air Purifier 2S

8. Xiaomi-Mi-Air-Purifier-3C

9. Xiaomi-Mi-Air-Purifier-2C

10. Xiaomi Mi Air Purifier 2H

1. Xiaomi Mi Air Purifier Pro H

Xiaomi Mi Air Purifier Pro H

ขนาดตัวเครื่อง: 310 x 310 x 738 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: 9.6 กิโลกรัม

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: 72 ตารางเมตร

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: 34.1 ถึง 65 เดซิเบล

เครื่องฟอกอากาศอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับห้อง หรือพื้นที่ที่มีขนาดกว้างสูงสุดขนาด 72 ตารางเมตร เพราะตัวเครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้สามารถที่จะกำจัดเชื้อแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกที่อยู่บนอากาศด้วยแผ่นกรองคุณภาพสูงที่ช่วยกรองสูงสุดในระดับ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ทำให้การมีเครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้อยู่ในบ้าน ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้เลยว่าอากาศที่ถ่ายเทอยู่ภายในบ้านจะเป็นอากาศที่สะอาด และบริสุทธิ์มากที่สุด

อย่างไรก็ดีสิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งส่วนของเครื่อง Xiaomi Mi Air Purifier Pro H มีฟังก์ชันในการทำงานที่หลากหลายเพื่อที่จะตอบความต้องการที่ไม่จำกัดของผู้ใช้งาน ด้วยระบบที่กำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศให้มีอัตราการเติบโตต่ำ และทำให้อากาศที่ผ่านเครื่องฟอกอากาศนี้มีความสะอาดสูง ตลอดระยะการทำงานของตัวเครื่องอาจจะมีเสียงเล็กน้อยเพียง 34.1 ถึง 65 เดซิเบล แต่ไม่ถึงระดับที่จะรบกวนสมาธิของผู้ใช้งาน

ข้อดี

– เหมาะกับห้องที่มีขนาดกว้างมากถึง 72 ตารางเมตร 

– ฟอกอากาศได้อากาศที่บริสุทธิ์ได้มากถึง 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง 

– มีฟังก์ชันในการกรองเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรีย 

– หมุนเวียนอากาศภายในบ้านได้ดี

ข้อเสีย 

– มีเสียงในการทำงานที่อาจจะทำให้ผู้ใช้งานบางคนรู้สึกติดใจ

2. Xiaomi Mi Air Purifier 3H

Xiaomi Mi Air Purifier 3H

ขนาดตัวเครื่อง: 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: 6.1 กิโลกรัม

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: 45 ตารางเมตร

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: 33 ถึง 64 เดซิเบล

สำหรับแบรนด์มีการแบ่งเครื่องฟอกอากาศเป็นหลายแบบตามลักษณะของห้อง และฟังก์ชันหลักในการใช้งาน ซึ่งสำหรับเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้จัดอยู่ในระดับกลาง สามารถที่จะวางเครื่องฟอกอากาศนี้ได้ในพื้นที่ราว 45 ตารางเมตร ทำเครื่องสามารถที่จะกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์ได้ดี ด้วยงานออกแบบที่เน้นความเรียบเป็นหลัก ส่วนด้านประสิทธิภาพในการกรองอากาศพร้อมผลิตอากาศที่บริสุทธิ์ได้มากถึง 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง 

ฟังก์ชันเสริมของตัวเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้คือ สามารถสั่งการใช้งานผ่านเสียงด้วย Google Assistant และ Alexa ที่ถูกเชื่อมเข้ากับแอปพลิเคชัน Mi Home App ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเปิดใช้งานของเครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้ได้อีกหลายเท่าตัว 

ข้อดี

– เปิดใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้ 

– ไส้กรองประเภท HEPA Filter ที่ช่วยกรองฝุ่นได้ถึงแม้จะมีขนาดที่เล็กมากก็ตาม

– เหมาะกับห้องขนาดกลาง 

– ดีไซน์เรียบที่ทำให้ดูทันสมัย 

ข้อเสีย 

– ระหว่างการทำงานของตัวเครื่องอาจจะมีเสียงรบกวนเล็กน้อยราว ๆ 64 เดซิเบล

3. Xiaomi A1 Air purifier

 Xiaomi A1 Air purifier

ขนาดตัวเครื่อง: 106 x 50 x 50 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: ไม่ได้ระบุ 

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 50 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: 41 ถึง 60 ตารางเมตร

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: ต่ำกว่า 35 เดซิเบล

เครื่องฟอกอากาศที่มาในรูปแบบของตัวเครื่องติดผนัง ดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย เน้นสีขาวทำให้ดูหรูหรา และเข้าได้กับบ้านในทุกสไตล์ การนำเครื่องฟอกอากาศนี้ไปวางตามแนวผนังของห้องรับแขก หรือห้องครัว และตามทางเดินก็เป็นไอเดียในการตกแต่งสถานที่ และกรอกอากาศไปในตัวที่น่าสนใจดีไม่น้อย 

ด้านฟังก์ชันในการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi A1 Air purifier มีกลไกในการทำงานคือ สามารถกรองอากาศสูงสุดในระดับ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ขณะที่เครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้ทำงานเสียงรบกวนที่ออกมาจากตัวเครื่อง เรียกได้ว่าค่อนข้างต่ำมาก คุณสามารถที่จะทำการเปิดเครื่องฟอกเพื่อฟอกอากาศ และทำกิจวัตรประจำวัน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน เพราะระบบจะทำงานอย่างเงียบ ๆ และคอยปล่อยอากาศที่สะอาดแล้วแก่คุณ และคนในบ้าน 

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ ที่ลับมีด ที่น่าใช้ที่สุด

ข้อดี

– สามารถที่จะทำการกรองอากาศที่มีฝุ่น PM2.5 ได้

– ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ต้องติดกับผนัง 

– ระดับเสียงในช่วงที่เครื่องทำงานค่อนข้างเบา และมีระดับเสียงต่ำสุด 20 เดซิเบล

ข้อเสีย 

– ต้องทำการติดกับผนังเพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

– อัตราการกรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ถือว่าได้อากาศบริสุทธิ์ที่ค่อนข้างต่ำ

4. Xiaomi Mijia Desktop Air Purifier

 Xiaomi Mijia Desktop Air Purifier

ขนาดตัวเครื่อง: 300 x 101 x 332 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: 2.1 กิโลกรัม

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: ไม่ได้ระบุ 

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: ไม่ได้ระบุ 

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: ไม่ได้ระบุ 

หากจะพูดถึงเครื่องฟอกอากาศที่มีความโดดเด่นด้านงานออกแบบแล้ว เครื่องฟอกอากาศที่จะต้องเข้ามาอยู่ในความคิดหลายคนต้องเป็น Xiaomi Mijia Desktop Air Purifier แน่นอน เพราะความพิเศษของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้เป็นเครื่องฟอกที่ตั้งโต๊ะ มีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก พกพาไปวางตามตำแหน่งต่าง ๆ ของบ้านได้ตามสะดวก คุณสมบัติหลักของเครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้คือเน้นปรับอากาศ และช่วยทำให้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์หายจางไปในที่สุด 

ตัวเครื่องสามารถที่จะทำงานผ่านแอปพลิเคชันได้โดยตรง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานของแต่ละบุคคล ด้านฟังก์ชันในการทำงานของเครื่องฟอกอากาศนี้มีแผ่นกรองคาร์บอนคุณภาพสูง นอกจากจะกรองอากาศให้มีความบริสุทธิ์ สะอาดแล้ว ยังช่วยทำให้กำจัดเชื้อโรคที่ลอยไปมาอยู่บนอากาศได้ดีอีกด้วย 

ข้อดี

– น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ สามารถที่จะนำไปวางได้ตามตำแหน่งต่าง ๆ ของบ้าน 

– ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้ดี และยังช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย 

– ทำงานผ่านแอปพลิเคชันได้ 

– ดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน

ข้อเสีย 

– ประสิทธิภาพในการรองอากาศอาจจะไม่ได้ดีมากนัก เมื่อเทียบกับเครื่องฟอกอากาศรุ่นอื่น 

5. Xiaomi Mi Air Purifier Pro

Xiaomi Mi Air Purifier Pro

ขนาดตัวเครื่อง: 260 x 260 x 735 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: 9.7 กิโลกรัม 

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: 60 ตารางเมตร

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: 31 เดซิเบล

เป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศจากทางแบรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีรีวิวจากผู้ใช้จริงค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีฟังก์ชันในการใช้งานที่หลากหลาย และที่สำคัญคือตอบโจทย์กับผู้ใช้งานได้ดี ภายในการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Pro สามารถที่จะทำการกำจัดสิ่งสกปรกที่เจือปนมากับอากาศได้ละเอียด โดยสามารถที่จะทำการกรองอากาศ และปล่อยอากาศที่เป็นผลผลิตจากตัวเครื่องได้สูงสุด 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ด้วยประสิทธิภาพของแผ่นกรองที่กรองอากาศได้เล็กมากถึง 0.3 ไมครอน

ตัวเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้สามารถที่จะรองรับกับห้องขนาดไม่เกินประมาณ 60 ตารางเมตร ซึ่งจัดได้ว่าเป็นข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ เนื่องจากตัวเครื่องที่โดดเด่นด้านการกรองอากาศที่เน้นความละเอียดสูง ทำให้ใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งไม่เหมาะกับห้อง หรือพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่มาก 

ข้อดี

– หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะสั่งการ และติดตามสถานะของเครื่องได้โดยตรง 

– แผ่นกรองที่กรองอากาศได้เล็กมากถึง 0.3 ไมครอน สามารถที่จะกรอง PM2.5 ได้ 

– สำหรับห้องขนาดเล็ก ตัวเครื่องสามารถที่จะทำการกรองอากาศที่สะอาดแล้ว ภายในระยะเวลาไม่ถึง 8 นาทีเพียงเท่านั้น 

ข้อเสีย 

– เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ 

6. Xiaomi Mi Air Purifier 3

 Xiaomi Mi Air Purifier 3

ขนาดตัวเครื่อง: 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: 4.8 กิโลกรัม

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: 48 ตารางเมตร

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: ไม่ได้ระบุ 

ถ้าต้องการเครื่องฟอกอากาศที่เป็นลักษณะตัวตั้งกับพื้น แต่ต้องการขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้เหมาะสมอย่างมาก เนื่องจากมีขนาดโดยรวมเพียง 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร สามารถที่จะวางไว้ตามมุมของบ้านได้ ไม่แปลกตา และจะสามารถทำงานได้ดีด้วยขนาดห้องได้สูงสุดในขนาด 48 ตารางเมตร ซึ่งผลผลิตของการกรองอากาศนี้จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาที่ 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และสามารถเลือกได้ว่าจะสั่งการเครื่องฟอกอากาศผ่านมือถือในแอปพลิเคชัน Mi Home App หรือจะเป็นการสั่งการผ่านหน้าจอสัมผัสแบบ OLED ก็ได้ด้วยอีกเช่นเดียวกัน 

ข้อดี

– พร้อมปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาที่ 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

– สามารถที่จะกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่กว้างเป็นพิเศษ 

– สั่งการได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะผ่านมือถือ หรือหน้าจอสัมผัส 

– งานออกแบบที่เข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ และพร้อมเข้ามุมห้องด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

ข้อเสีย 

– ตัวเครื่องมีเสียงเพียงเล็กน้อยในช่วงที่เครื่องทำงาน 

7. Xiaomi Mi Air Purifier 2S

 Xiaomi Mi Air Purifier 2S

ขนาดตัวเครื่อง: 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: 4.5 กิโลกรัม

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 310 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: 21 ถึง 37 ตารางเมตร

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: ไม่ได้ระบุ 

เป็นเครื่องฟอกอากาศอีกหนึ่งรุ่นที่มีผู้ติดตาม และยอดการจำหน่ายที่อยู่ในระดับแนวหน้าของเครื่องฟอกอากาศทั้งหมด ด้วยความสามารถ และประสิทธิภาพในการทำงานที่อยู่ในระดับดีมาก โดยเฉพาะตัวเครื่องที่สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้มากถึง 310 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และยังมีความน่าสนใจอยู่ที่ปรับรูปแบบการฟอกอากาศได้มากถึง 3 รูปแบบด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกระบบการฟอกอากาศที่เหมาะสมกับสถานที่ เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้เหมาะกับห้องที่มีขนาด 21 ตารางเมตร ไปจนถึง 37 ตารางเมตรเท่านั้น จึงจัดได้ว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับห้องขนาดเล็ก 

อ่านบทความเกี่ยวข้อง  10 อันดับ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่น่าใช้ที่สุด

ข้อดี

– ปรับรูปแบบในการฟอกอากาศได้มากถึง 3 รูปแบบเพื่อให้เหมาะกับความต้องการในการฟอกอากาศ 

– ไส้กรองที่มีมามากถึง 3 ชั้น 

– เสียงที่มีระดับต่ำเพียง 31 เดซิเบล ไม่สร้างความรบกวนให้กับผู้ใช้ในขณะที่เครื่องทำงาน 

ข้อเสีย 

– เหมาะกับห้องขนาดเล็ก จนถึงปานกลางเท่านั้น 

8. Xiaomi-Mi-Air-Purifier-3C

 Xiaomi-Mi-Air-Purifier-3C

ขนาดตัวเครื่อง: 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: 4.6 กิโลกรัม

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 320 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: ไม่ได้ระบุ 

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: ต่ำกว่า 61 เดซิเบล

ถ้าในยุคนี้ที่ผู้คนต้องมองหาตัวช่วยในการกรองอากาศเพื่อให้ได้อากาศที่สะอาด และบริสุทธิ์ภายในบ้านด้วยงบประหยัด Xiaomi-Mi-Air-Purifier-3C เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากมีราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างย่อมเยา และที่สำคัญคือตัวเครื่องสามารถที่จะกรองอากาศบริสุทธิ์ได้ถึง 350 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งตัวเครื่องรุ่นนี้เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กจนถึงปานกลาง หรือไม่ควรมากกว่า 42 ตารางเมตร ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่ไม่สูงมาก หรือเพียง 4.6 กิโลกรัม เพียงเท่านั้น จึงทำให้สามารถโยกย้ายได้ง่าย 

ข้อดี

– ผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้ค่อนข้างสูงด้วยอัตรา 350 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

– เหมาะกับห้องขนาดเล็กจนถึงกลาง 

– น้ำหนักน้อย โยกย้ายได้ง่ายดาย 

– แผ่นกรอง 

– HEPA Filter ทำให้สามารถดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กระดับ 0.3 ไมครอนได้ 

ข้อเสีย 

– มีเสียงในขณะทำงานที่ค่อนข้างมีเสียงดังในระดับเริ่มต้น 

9. Xiaomi-Mi-Air-Purifier-2C

 Xiaomi-Mi-Air-Purifier-2C

ขนาดตัวเครื่อง: ไม่ได้ระบุ 

น้ำหนัก: ไม่ได้ระบุ 

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 350 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: 42 ตารางเมตร

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: ไม่ได้ระบุ 

เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะที่มีระบบเซนเซอร์ในการตรวจฝุ่นที่จะทำให้การกรองฝุ่นมีคุณภาพสูง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะการใช้พลังงานของเครื่องจะเน้นทำงานหนักในช่วงที่เซนเซอร์ทำงาน ทำให้ตัวเครื่องประหยัดค่าใช้จ่ายถึงแม้ตัวเครื่องจะทำงานอยู่ตลอด เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้จะทำการดูดอากาศ และทำการกรองแบบครบวงจร 360 องศา โดยอากาศที่เป็นผลผลิตจากตัวเครื่องจะมีอัตราปล่อยอากาศสะอาด 350 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ถ้ากำลังมองหาตัวช่วยในการฟอกอากาศดี ๆ และมีฟังก์ชันในการทำงานที่ครบเครื่อง Xiaomi-Mi-Air-Purifier-2C ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว 

ข้อดี

– กรองอากาศแบบ 360 องศา 

– เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับห้องขนาดเล็ก และขนาดกลาง 

– อัตราการปล่อยอากาศสะอาด 350 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง 

ข้อเสีย 

– ไม่มีหน้าจอเพื่อแสดงข้อมูลในการทำงาน และไม่สามารถแจ้งสถานะของตัวเครื่องได้ 

10. Xiaomi Mi Air Purifier 2H

Xiaomi Mi Air Purifier 2H

ขนาดตัวเครื่อง: 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร

น้ำหนัก: 5.2 กิโลกรัม

อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์: 260 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน: 18 ถึง 31 ตารางเมตร

ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน: ไม่ได้ระบุ 

เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก หรือมีขนาดตั้งแต่ 18 ถึง 31 ตารางเมตรเพียงเท่านั้น ตัวเครื่องฟอกอากาศสามารถที่จะทำการฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ราว 260 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ดีคุณภาพของการกรอง และความสะอาดของอากาศที่ปล่อยออกมาจากตัวเครื่องที่ผ่านการกรอง Pre-Filter, HEPA-Filter ไปจนถึง Carbon-Filter ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าอากาศที่ผ่านเครื่องกรองนี้มีความสะอาด เพราะสามารถกรองฝุ่นที่เล็กมากถึง 0.3 ไมครอนได้หายห่วง

ข้อดี

– มีโหมดในการทำงานที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกใช้ให้เหมาะสม 

– ประหยัดค่าใช้จ่ายเนื่องจากใช้พลังงานต่อครั้งที่ไม่สูงมาก

– ผ่านการกรอง Pre-Filter, HEPA-Filter

ข้อเสีย 

– เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กเท่านั้น จึงจะทำให้เครื่องสามารถทำงานได้ดี

ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดของเครื่องฟอกอากาศจากทางแบรนด์ xiaomi ที่มีความหลากหลายในการทำงานที่สูงมาก เชื่อว่าในบรรดา 10 เครื่องฟอกอากาศจะต้องมีหนึ่งในรุ่นที่คุณสนใจแน่นอน แต่การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศควรที่จะนำปัจจัยอื่น ๆ มาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการกรองของเครื่องฟอกอากาศ, ผลลัพธ์ของการกรอง, ราคา, เหมาะกับการฟอกอากาศในพื้นที่ หรืองานออกแบบที่เข้ากับห้องไหม เมื่อคุณสามารถที่จะตอบสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะเห็นคำตอบว่าเครื่องฟอกอากาศรุ่นใดที่เหมาะกับคุณ หวังว่าบทความชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ xiaomi ได้บ้างไม่มากก็น้อย